ชมรมเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย ทหาร - ตร. เข้าค้นบริษัทนายหน้าจัดส่งพยาบาลเถื่อนย่านบางพลี ไปประจำตามสถานประกอบการใน กทม. สมุทรปราการ และภาคตะวันออกราว 25 แห่ง พบรายชื่อของแพทย์และพยาบาล รวมกว่า 100 รายชื่อ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ก.ย. 2557 นายอัจฉริยะ เรืองรัตน์พงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นายรังสรรค์ วงศ์บุญหนัก เภสัชกรชำนาญการ กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สสจ.สมุทรปราการ พ.ต.ท.เชาวน์ ป้อมงาม รอง ผกก.สส.สภ.บางพลี พร้อมด้วยตำรวจ สภ.บางพลี และทหารจาก กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 21 รักษาพระองค์ เข้าตรวจสอบ บริษัท กิตติวราการแพทย์ จำกัด เลขที่ 99/225 ม.12 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังพบว่าสถานที่ดังกล่าวมีส่วนเชื่อมโยงกับการจัดส่งพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลเถื่อน เข้าประจำในสถานประกอบการต่างๆ
นายอัจฉริยะ เรืองรัตน์พงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าตรวจสอบตามสถานประกอบการย่าน อ.พระประแดง และพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และพบพยาบาลเถื่อน รวมถึงนายหน้าจัดหาพยาบาลส่งเข้าสถานประกอบการและถูกดำเนินคดีไปแล้วนั้น จากการสอบสวนเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ก็พบว่ามีบริษัทแห่งหนึ่งย่าน อ.บางพลี มีส่วนเกี่ยวข้องโดยทำเป็นขบวนการที่ใหญ่ขึ้น จึงประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.สมุทรปราการ และตำรวจ สภ.บางพลี เข้าตรวจสอบที่บริษัทดังกล่าว จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบเจ้าของ แต่พบรายชื่อของแพทย์และพยาบาล รวมกว่า 100 รายชื่อ ที่ทางบริษัทแห่งนี้จัดส่งไปประจำตามสถานประกอบการใน กทม. สมุทรปราการ และภาคตะวันออกราว 25 แห่ง ตั้งแต่ปี 2548 ส่วนรายชื่อเหล่านี้จะเป็นบุคลากรทางการแพทย์จริงหรือไม่ ต้องส่งตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้าน นายรังสรรค์ วงศ์บุญหนัก เภสัชกรชำนาญการ กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สสจ.สมุทรปราการ กล่าวว่า นอกจากจะพบรายชื่อแพทย์และพยาบาลแล้ว ยังตรวจสอบพบยาปฏิชีวนะ, ยาลดกรดในกระเพราะอาการยาแก้ไอทั้งแบบน้ำที่เป็นแกลอนขนาด 450 ซีซี และแบบเม็ดอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงเวชภัณฑ์ทางการแพทย์อีกด้วย โดยเมื่อสอบถามพนักงานที่อยู่ระบุว่า บริษัทแห่งนี้เป็นของ นายณพงศ์พัฒน์ วัฒนพงศภรณ์ อายุ 38 ปี เปิดเป็นบริษัทจัดส่งพยาบาลและทีมแพทย์เข้าประจำตามโรงงาน รวมทั้งจำหน่ายยาให้กับโรงงานต่างๆ ด้วย เจ้าหน้าที่จึงติดต่อให้นำเอกสารใบประกอบอนุญาตในการจำหน่ายยา และใบประกอบอนุญาตในการจัดส่งแรงาน มาให้ตรวจสอบในวันนี้ แต่นายนายณพงศ์พัฒน์ ขอเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้แทน โดยระบุว่าจะนำเอกสารทั้งหมดไปให้ทาง สสจ.สมุทรปราการ ตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง แต่จากการสอบถามเบื้องต้นพบว่าไม่มีใบอนุญาตในการจำหน่ายยาดังกล่าว
เบื้องต้นในวันนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จะแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายยา ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมทั้งยึดยาและเวชภัณฑ์ทั้งหมดไว้เป็นของกลาง ส่วนความผิดในส่วนอื่นนั้น ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง แพทย์สภา สภาการพยาบาล จัดหางาน สังกัดกระทรวงแรงงาน ตรวจสอบอีกครั้งว่าจะเข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมายใดอีกหรือไม่