ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “ร้านข้าวแกงป้าไพ” ในย่านชุมชนวชิรา เขตเทศบาลนครสงขลา ยังคงยืนหยัดขายแกงถุงในราคาเดิมแค่ 10 บาททุกสภาพเศรษฐกิจ โดยเฉพาะช่วงที่ผักราคาแพงจากภาวะภัยแล้ง
วันนี้ (16 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ร้านข้าวแกงป้าไพ” ซึ่งตั้งอยู่ปากซอย 18 ถนนทะเลหลวง ชุมชนวชิรา เขตเทศบาลนครสงขลา ยังคงยืนหยัดขายราคาเดิมทุกสภาพเศรษฐกิจ โดยเฉพาะแกงถุงซึ่งจำหน่ายเพียงถุงละ 10 บาทเท่านั้น ทั้งที่ในช่วงนี้ราคาผักเกือบทุกชนิดได้ปรับขึ้นราคาจากสถานการณ์ภัยแล้ง
อย่างเช่น ต้นหอม และผักชี ราคาพุ่งถึงกิโลกรัมละ 200 บาท รวมทั้งมะเขือพวง ซึ่งราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ จากกิโลกรัมละ 200 บาท ขึ้นเป็น 400 บาท แต่ร้านข้าวแกงป้าไพก็ไม่ได้ขึ้นราคา และจะใช้วิธีปรับเปลี่ยนผักที่มีราคาไม่แพงมากนักเข้ามาปรุงเป็นเมนูต่างๆ เพื่อไม่ให้กระทบต่อลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ และประชาชนทั่วไปที่มาอุดหนุนอย่างเนืองแน่นทุกวัน
นางประไพ ทองมณี อายุ 62 ปี เจ้าของร้านข้าวแกง เปิดเผยว่า จะไม่มีการปรับขึ้นราคา และยังคงขายข้าวแกง โดยเฉพาะแกงถุงที่ราคาถุงละ 10 บาท เพราะยังอยู่ได้ และเป็นช่วงสั้นๆ โดยขณะนี้ผักได้ปรับราคาสูงขึ้นทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง ก็แพงขึ้นหมด ยิ่งมะเขือพวง ปีนี้แพงมาก จากกิโลกรัมละ 200 บาท เป็น 400 บาท ซึ่งในแต่ละวันจะปรุงอาหารไว้ขายไม่ต่ำกว่า 40 ชนิด เช่น แกงส้ม แกงกะทิ ต้มยำ ผัดเผ็ด ปลาทอด หมูทอด และยังแถมน้ำพริกผักสด และน้ำดื่มฟรีอีกด้วย
ป้าไพ บอกว่า ราคานี้ลูกค้าอยู่ได้ทางร้านก็อยู่ได้ ไม่ต้องการเอาเปรียบลูกค้าเพราะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว ไม่ว่าเศรษฐกิจจะขึ้นจะลงก็ยังคงขายราคา 10 บาทต่อไป