ระยอง - คาด 2 คนร้ายใช้ปืนเอ็ม 16 บุกจี้พนักงานรถขนเงินบริษัท G4S ก่อนจับใส่กุญแจมือ และปลดปืนพก ชุดเดียวกับที่ปล้นพนักงานธนาคารออมสิน เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุ 2 คนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 จี้พนักงานขับรถตู้ขนเงินบริษัท G4S จำกัด 3 คน ก่อนจับใส่กุญแจมือ และใช้ปืนจี้เจ้าของร้านอาหารข้าวแกงสุ 1000 ริมถนนสุขุมวิท หมู่ 3 ต.พลา อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้หมอบกับพื้น และบังคับให้พนักงานไขกุญแจท้ายรถเพื่อปล้นเงินที่เก็บไว้ในรถตู้ แต่ไม่สามารถไขตู้เก็บเงินได้ จึงหันมาปลดสร้อยคอทองคำของพนักงาน และปืนพก ก่อนพากันขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทาง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เหตุเกิดเช้าวันนี้ (29 ส.ค.) ว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.รุ่งฤทธิ์ ซุ่นทรัพย์ รรท. ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.เทอดเกียรติ วิริยสถิตย์กุล พ.ต.อ.สุรพณ มงคลยุทธ ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง นำกำลังเจ้าหน้าที่งไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยพบรถตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฒษ 9651 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท G4S จำกัด สาขามาบตาพุด จอดอยู่หน้าร้านข้าวแกงสุ 1000 มีนายอรรคพล พวงศรี อายุ 27 ปี นายวีรพงษ์ นิลยาน อายุ 23 ปี และนายสุรเสน ศรีทน พนักงานรถขนเงินยืนรออยู่
ทั้ง 3 ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มานั่งรับประทานอาหารที่ร้านดังกล่าว ขณะนั้นมีคนร้าย 2 คน รูปร่างอ้วน 1 คน และผอม 1 คน สวมเสื้อโค้ตยาวคลุมหัวเข่าสีเขียวขี้ม้า และมีหมวกไหมพรมคลุมหน้า สวมทับด้วยหมวกกันน็อก ถือปืนยาวที่ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อโค้ต เดินเข้ามาที่โต๊ะ และใช้ปืนจี้จับใส่กุญแจมือทั้ง 3 คน ก่อนบังคับให้นำกุญแจไปเปิดประตูท้ายรถ และบังคับให้เปิดตู้เก็บเงิน แต่ไม่สามารถเปิดออกได้ เนื่องจากต้องใช้รหัสจากสำนักงานใหญ่ คนร้ายจึงหันมาปลดสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น พร้อมยึดปืนพกขนาด. 38 จำนวน 1 กระบอกแทน ก่อนพากันขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีดำแดง หลบหนีไปทาง อ.สัตหีบ
พล.ต.ต.รุ่งฤทธิ์ ยังได้สอบถาม นางมุกดา ปิ่นแก้ว อายุ 46 ปี เจ้าของร้านอาหารสุ 1000 โดยให้การสอดคล้องต่อพนักงานทั้ง 3 คน และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะก่อเหตุ 1 ใน 2 คนร้ายได้ตะโกนว่า ตามหาทั้งหมดมานานแล้ว ก่อนจะใช้อาวุธปืนยาวจี้ทั้ง 3 คน และจับใส่กุญแจมือ ขณะนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจขับรถยนต์ผ่านหน้าร้าน คนร้ายจึงหันไปกระชากสร้อยคอของนายอรรคพล ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
พล.ต.ต.รุ่งฤทธิ์ กล่าวว่า คนร้ายน่าจะทราบว่าพนักงานรถขนเงินมานั่งรับประทานข้าวที่ร้านนี้เป็นประจำ แต่คงไม่รู้ระบบการเปิดตู้เก็บเงินในรถ จึงเข้าใจว่ารถขนเงินที่จอดน่าจะเปิดได้ง่ายจึงลงมือก่อเหตุ แต่เมื่อเปิดตู้เก็บเงินไม่ได้ จึงเปลี่ยนใจมากระชากสร้อยคอของพนักงาน และปลดอาวุธปืนพกไปแทน อย่างไรก็ตาม ได้กำชับตำรวจชุดสืบสวน ให้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องกล้องวงจรปิด บริมถนนตลอดเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีดำแดง ซึ่งคนร้ายใช้เป็นพาหนะ พบว่า มีลักษณะตรงกับคนร้ายก่อเหตุปล้นเงินพนักงานธนาคารออมสิน ขณะมาเก็บเงินที่โรงรับจำนำ ซึ่งพนักงานธนาคารได้ส่งกระเป๋าเงินที่ภายในมีเงิน 1,500 บาทให้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ จึงคาดว่าน่าจะเป็นชุดเดียวกัน