ตรัง - บรรยากาศงานบุญสารทเดือนสิบ จ.ตรัง ปีนี้ยังคงมีประชาชนเดินทางไปทำบุญที่วัดกันอย่างคึกคัก เพียงแต่ต้องลดเครื่องคาวหวาน ผลไม้ รวมทั้งขนมเดือนสิบ หลังผลกระทบจากวิกฤตราคายางพารา จนทำให้กำลังซื้อน้อยลง
วันนี้ (9 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวจังหวัดตรังรายงานว่า บรรยากาศงานบุญเดือนสิบ ประเพณีสำคัญของพี่น้องชาวใต้ ในวันรับเปรต ซึ่งตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งหลายพื้นที่เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะที่วัดกะพังสุรินทร์ (พระอารามหลวง) อำเภอเมืองตรัง ได้มีประชาชนเดินทางมาร่วมอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วกันอย่างเนืองแน่นเหมือนเช่นทุกปี
โดยนำอาหารคาวหวาน ผลไม้ รวมทั้งขนมเดือนสิบ ทั้งขนมลา ขนมพอง ขนมบ้า และขนมดีซัม (ขนมรู) มาร่วมทำบุญ และถวายเป็นภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ ก่อนที่จะมีการสวดมนต์ไหว้พระ ฟังพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับ ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นพิธีสงฆ์แล้ว ได้มีการตั้งร้านเปรต หรือสถานที่สำหรับจัดหมรับ แล้ววางข้าวสารอาหารแห้ง และขนมเดือนสิบตามประเพณีแต่โบราณ เพื่อให้ชาวบ้านที่มาร่วมงานได้รำลึก และอธิษฐานขอแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลไปยังบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม สำหรับเครื่องคาวหวาน ผลไม้ รวมทั้งขนมเดือนสิบ ที่ประชาชนนำมาเซ่นไหว้ในปีนี้ค่อนข้างบางตา เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการที่ยางพารามีราคาตกต่ำอย่างมาก ทำให้ประชาชนต้องประหยัด และใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น งานบุญสารทเดือนสิบของพี่น้องชาวใต้จะมีการทำบุญที่วัด 2 ครั้ง โดยครั้งแรก จะตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 หรือเรียกว่า วันรับเปรต ส่วนครั้งที่ 2 จะตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 หรือเรียกว่า วันส่งเปรต
อีกทั้งเป็นการแสดงถึงความกตัญญูต่อบุพการี และญาติผู้ล่วงลับ ซึ่งได้รับการปล่อยตัวมาจากยมโลก หลังจากที่ต้องจองจำอยู่ เนื่องจากผลกรรมที่ตนได้เคยทำไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยจะเริ่มปล่อยตัวในทุกวันแรม 1 ค่ำเดือน 10 เพื่อมายังโลกมนุษย์ เพื่อมาขอส่วนบุญจากลูกหลานญาติพี่น้อง หลังจากนั้น ก็จะกลับไปยังยมโลกในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งประเพณีวันสารทเดือนสิบ ส่วนใหญ่จะตรงกับเดือนกันยายนของทุกปี