ชาวน้ำผุด จ.ตรัง แห่ขึ้นเขาบรรทัดเก็บ “ลูกประ” ขายสร้างรายได้งดงาม

ตรัง - ชาวน้ำผุด จ.ตรัง แห่กันขึ้นไปบนเทือกเขาบรรทัด หรือเขาพับผ้า เพื่อเก็บ “ลูกประ” ลงมาขายสร้างรายได้คนละ 500-1,000 บาทต่อวัน เนื่องจากมีรสชาติหวานมัน หารับประทานได้ยากแค่ปีละ 1 ครั้ง จึงกลายเป็นผลผลิตพื้นบ้านที่มีคุณค่า มีราคาสูง เป็นที่นิยมของผู้บริโภคจนไม่เพียงพอต่อความต้องการ

วันนี้ (2 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิศาตร แสงศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) น้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง กล่าวว่า “ประ” เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่สูงประมาณ 20-40 เมตร ผลมีเปลือกหุ้มลักษณะเป็นพู 3 พู ภายในมี 3 เมล็ด รูปร่างแบบรีๆ ผลอ่อนเป็นสีเขียว แต่เมื่อแก่จะเป็นสีดำปนน้ำตาล โดยมีเปลือกแข็งหุ้มผิวมัน ขณะที่เนื้อข้างในจะเป็นสีขาวนวล และเมล็ดจะแตกกระเด็นไปได้ไกลเหมือนกับเมล็ดยางพารา นับเป็นไม้พื้นเมืองที่ขึ้นตามธรรมชาติในเขตป่าดงดิบ หรือตามภูเขาที่มีความชื้นสูง

สำหรับในภาคใต้ จะพบได้มากตามแนวเขตเทือกเขาบรรทัด โดยเฉพาะ ม.5 บ.ด่าน ต.น้ำผุด ซึ่งมีต้นประขึ้นอยู่ไปทั่วนับหมื่นต้นในพื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ ทำให้เป็นแหล่งหารายได้ที่สำคัญของกลุ่มชาวบ้านจากทั่วทุกสารทิศ เนื่องจากผล หรือเมล็ดที่แตกลงมาสู่เบื้องล่างนั้น สามารถสร้างรายได้ให้อย่างงดงาม และเป็นที่นิยมของผู้บริโภคจนไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทุกวันจึงมีชาวบ้านหลายร้อยคนเดินทางขึ้นไปบนภูเขาสูง เพื่อไปเก็บลูกประมาขายส่งในราคากิโลกรัมละ 50 บาท

ด้าน นายจตุรงค์ เครือเตียว ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 บ.ด่าน ต.น้ำผุด กล่าวว่า ชาวบ้านแต่ละคนจะสามารถเก็บลูกประได้ตั้งแต่ 10-20 กิโลกรัม หรือสามารถสร้างรายได้ให้คนละ 500-1,000 บาทต่อวัน แต่หากนำมาแปรรูปจะสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นไปอีก นอกจากนั้น ยังนำไปปรุงอาหารคาวได้หลายอย่าง เช่น แกงพุงปลา แกงส้มกบ แกงกะทิหมู น้ำพริก เนื่องจากมีรสชาติหวานมันประกอบกับหามารับประทานได้ยากแค่ปีละ 1 ครั้ง จึงกลายเป็นผลผลิตพื้นบ้านที่มีทั้งคุณค่า และราคา