ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ดีเอสไอจริง รวบ 2 ผู้ต้องแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เรียกเก็บเงินเจ้าของร้านนวดแผนโบราณในภูเก็ต จำนวน 1 แสนบาท ขณะที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (26 ส.ค.) ที่ห้องประชุม ชั้น 2 สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.ท.กรวัชร ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมด้วย พ.ต.อ.เศียร แก้วทอง พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ต.รัฐเขตต์ มั่นเมือง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม 2 ผู้ต้องหา ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ซึ่งเป็นการจับกุมตามหมายศาลจังหวัดภูเก็ต คือ นายวิษณุสรรค์ ทิพยทัศน์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 ม.1 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ตามหมายจับเลขที่ จ.562/2557 ลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2557 และนายคณพัช คงเมือง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.7 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตามหมายจับเลขที่ 562/2557 ลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2557
พ.ต.ท.กรวัชร กล่าวว่า สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ทางดีเอสไอ ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย ว่า มีบุคคลแอบอ้างชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากดีเอสไอ เข้าไปเรียกรับเงินจากนวดแผนโบราณ “แองเจิ้ล” ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการพูนพลไนท์พลาซ่า อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 เม.ย.57 โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน และพวกที่ยังหลบหนีอยู่อีก 2 คน ได้อ้างต่อเจ้าของร้าน ว่า “ได้ให้สายลับเข้าไปใช้บริการนวด และมีการร่วมประเวณีภายในร้าน และได้มีถ่ายคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งสามารถแจ้งข้อหา และยึดทรัพย์ได้ และจะพาไปที่ดีเอสไอ ภาค 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนักข่าวมารอทำข่าวอยู่แล้ว ถ้าไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ก็ให้เจ้าของร้านจ่ายเงิน จำนวน 100,000 บาท” ทางเจ้าของร้านกลัวถูกยึดทรัพย์ และกลัวเสียชื่อเสียง จึงยอมจ่ายเงินให้แก่ผู้ต้องหา ซึ่งหลังจากได้เงินผู้ต้องหาก็เดินทางกลับ
“อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับแจ้งข้อมูล ทาง พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดีดีเอสไอ จึงสั่งการให้ตน และชุดสืบสวนดีเอสไอลงพื้นที่สืบสวนหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ และร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกันทำงานสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี จนกระทั่งวันนี้ (26 ส.ค.) เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ ที่บ้านพักของแต่ละคนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งหลังจากจับกุมตัวได้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบสวนขยายผลในเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 รายยังให้การภาคเสธ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ส่วนผู้ต้องหา 2 ราย ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามจับกุมต่อไป”
ในส่วนของทางดีเอสไอ อยากฝากไปถึงประชาชน รวมทั้งผู้ประกอบการ หากพบเห็น หรือได้รับความเดือดร้อนจากบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่มาแอบอ้างชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และเรียกรับเงิน ขอให้แจ้งไปยังดีเอสไอส่วนกลางได้ทันทีเพื่อเข้ามาตรวจสอบ และดำเนินคดีต่อผู้ที่แอบอ้าง เพราะเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่องค์กรอย่างร้ายแรง