เมื่อเวลา 06.00 น. วานนี้ (10 ส.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทนผบช.ภ.1 พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นายนัทธี บ่อสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.อ.จิรวัฒน์ นาคะรัตน์ ผบ.กรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ นายสงวนศักดิ์ ศรีวัฒนพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)เขต 1 ร่วมเป็นประธานปล่อยแถวการปฎิบัติการท๊าสค์ ฟอร์ส (TASK FORCE) อยุธยา 57
โดยมีกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ป.ป.ส.รวมกว่า 150 นาย เข้าทลายเครือข่ายค้ายยาบ้า 2 กลุ่ม กลุ่มแรกของนายพิชิต ชัยชนะ อายุ 49 ปี ที่ตึกแถว 3 ชั้น 3 คูหาริมถนนสายโรจนะ-วังน้อย หมู่ 6 ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน ที่ตั้งบริษัท บ้านกฎหมายไทย จำกัด ได้ผู้ต้องหา คือ นายพิชิต น.ส.ชลธิชา สงวนศรี และน.ส.ฤทัยวรรณ สอนทอง
ทั้งนี้ นายพิชิตเคยถูกออกหมายจับคดีกรรโชกทรัพย์ในจ.นนทบุรี ปี 2545 และถูกจับในปี 2546 ระหว่างต้องโทษได้ศึกษาจนจบปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ เมื่อพ้นโทษได้ออกมาเปิดบริษัททนายความ กลุ่มที่สองเครือข่ายของนายคมศักดิ์ ลักษณะโยธิน นักโทษในเรือนจำกลางคลองไผ่ จ.นครราชศรีมา ที่ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย ได้ผู้ต้องหา 4 คน คือ นายมนตรี ชนะรัตนไพศาล นายทองสุข ทองบริสุทธิ์ นายวีระศักดิ์ นามตะ และนายกิตติพงษ์ หงส์สง่า
ต่อมา ที่หน้าสภ.วังน้อย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. แถลงข่าวผลการปฎิบัติการท๊าสก์ ฟอร์ส อยุธยา 57 โดยจับกุมผู้ต้องหา 2 เครือข่าย ได้ 7 ราย ร้อมยึดทรัพย์สินเป็นรถยนต์และรถตู้รวม 9 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน อาวุธปืน 3 กระบอก กระสุน 52 นัด ทองรูปพรรณรวม 15 รายการ น้ำหนัก 40 บาท บัญชีเงินฝาก 14 บัญชี ยอดรวม 5.4 ล้านบาท บ้านพร้อมที่ดินประมาณ 6 ล้านบาท ที่ดินมีโฉนด 2 แปลง ที่ดินน.ส. 3 ก. 2 แปลง ทรัพย์สินอื่น 6 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นทั้งแหล่งพักยาและแหล่งจำหน่าย จึงเป็นศูนย์กลางของขบวนการค้ายาบ้า โดยถือเป็นจังหวัดระดับกลางในเครือข่ายค้ายาบ้า จัดส่งไปในจังหวัดใกล้เคียง และกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะย่านคลองเตย ซึ่งตำรวจภูธรภาค 1 และตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ติดตามจับกุมมาโดยตลอด โดยเปิดการปฎิบัติการลักษณะนี้มาแล้ว 2 ครั้ง
"ทั้ง 2 เครือข่ายที่จับได้มีชื่อมานานแล้ว ส่งยาบ้าให้ทั้งผู้ค้ารายใหญ่และรายย่อย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการขยายผลและยึดทรัพย์ให้ได้มากที่สุด และขอฝากให้ประชาชนที่รู้เบาะแสยาเสพติด ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย".
โดยมีกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ป.ป.ส.รวมกว่า 150 นาย เข้าทลายเครือข่ายค้ายยาบ้า 2 กลุ่ม กลุ่มแรกของนายพิชิต ชัยชนะ อายุ 49 ปี ที่ตึกแถว 3 ชั้น 3 คูหาริมถนนสายโรจนะ-วังน้อย หมู่ 6 ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน ที่ตั้งบริษัท บ้านกฎหมายไทย จำกัด ได้ผู้ต้องหา คือ นายพิชิต น.ส.ชลธิชา สงวนศรี และน.ส.ฤทัยวรรณ สอนทอง
ทั้งนี้ นายพิชิตเคยถูกออกหมายจับคดีกรรโชกทรัพย์ในจ.นนทบุรี ปี 2545 และถูกจับในปี 2546 ระหว่างต้องโทษได้ศึกษาจนจบปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ เมื่อพ้นโทษได้ออกมาเปิดบริษัททนายความ กลุ่มที่สองเครือข่ายของนายคมศักดิ์ ลักษณะโยธิน นักโทษในเรือนจำกลางคลองไผ่ จ.นครราชศรีมา ที่ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย ได้ผู้ต้องหา 4 คน คือ นายมนตรี ชนะรัตนไพศาล นายทองสุข ทองบริสุทธิ์ นายวีระศักดิ์ นามตะ และนายกิตติพงษ์ หงส์สง่า
ต่อมา ที่หน้าสภ.วังน้อย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. แถลงข่าวผลการปฎิบัติการท๊าสก์ ฟอร์ส อยุธยา 57 โดยจับกุมผู้ต้องหา 2 เครือข่าย ได้ 7 ราย ร้อมยึดทรัพย์สินเป็นรถยนต์และรถตู้รวม 9 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน อาวุธปืน 3 กระบอก กระสุน 52 นัด ทองรูปพรรณรวม 15 รายการ น้ำหนัก 40 บาท บัญชีเงินฝาก 14 บัญชี ยอดรวม 5.4 ล้านบาท บ้านพร้อมที่ดินประมาณ 6 ล้านบาท ที่ดินมีโฉนด 2 แปลง ที่ดินน.ส. 3 ก. 2 แปลง ทรัพย์สินอื่น 6 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นทั้งแหล่งพักยาและแหล่งจำหน่าย จึงเป็นศูนย์กลางของขบวนการค้ายาบ้า โดยถือเป็นจังหวัดระดับกลางในเครือข่ายค้ายาบ้า จัดส่งไปในจังหวัดใกล้เคียง และกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะย่านคลองเตย ซึ่งตำรวจภูธรภาค 1 และตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ติดตามจับกุมมาโดยตลอด โดยเปิดการปฎิบัติการลักษณะนี้มาแล้ว 2 ครั้ง
"ทั้ง 2 เครือข่ายที่จับได้มีชื่อมานานแล้ว ส่งยาบ้าให้ทั้งผู้ค้ารายใหญ่และรายย่อย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการขยายผลและยึดทรัพย์ให้ได้มากที่สุด และขอฝากให้ประชาชนที่รู้เบาะแสยาเสพติด ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย".