ตำรวจภูธรภาค 1 จับ 2 ผู้ต้องหาร่วมขบวนการก่อเหตุปาระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง-อนุสาวรีชัยฯ ใส่การชุมนุม กปปส. พร้อมซัดทอดเพื่อร่วมทีม ตร.ล่าเร่งอีก 2 ที่ยังหลบหนีตามหมายจับศาลทหาร
วันนี้ (29 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รร.ท.ผบช.ภ.1 และพ.อ.วิจารณ์ จดแตง ผู้อำนวยการกฎหมาย กอ.รมน. หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงข่าวจับกุมตัว นายเจริญ พรมชาติ หรือชาติ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารกรุงเทพ ที่ ก.109/2557 ลงวันที่ 24 ก.ค. 2557 และนายณัฐพรรณ์ บางล้า หรือแอ็ด อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารกรุงเทพ ที่ ก.110/2557 ลงวันที่ 24 ก.ค. 2557 โดยสามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายอภิชาติ พวงเพ็ชร หรืออัคคี อายุ 42 ปี ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และฝ่าฝืนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 50/2557 ลงวันที่ 30 พ.ค. 2557 ซึ่งนายอภิชาติได้รับสารภาพว่าได้กระจายระเบิดชนิดขว้าง อาร์จีดี 5 ให้กับพวกรวม 4 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้สอบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมตัวนายณัฐพรรณ์ และนายเจริญ 2 ใน 4 ผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับไปแล้วนั้น
พล.ต.อ.สมยศกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายณัฐพรรณ์ให้การรับสารภาพว่า ได้รับระเบิดมาจากนายอภิชาติมาจำนวน 4 ลูกจริง โดยนายอภิชาติได้นัดให้ตนไปรับระเบิดดังกล่าวที่ย่านสำเพ็งสแควร์ โดยส่วนตัวแล้วนายณัฐพรรณ์มีความฝักใฝ่ในด้านการเมืองอยู่แล้ว เมื่อรู้สึกไม่ชอบการชุมนุมที่เกิดขึ้น บวกกับได้รับค่าจ้างจึงได้ไปรับระเบิดมา ตนเองยังไม่เคยนำระเบิดที่ได้รับมาดังกล่าวไปใช้แต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาอีกหนึ่งรายที่ยังหลบหนีอยู่ คือ นายกฤษดา ไชยแค หรือดา ซึ่งนายกฤษดาได้รับระเบิดชนิดขว้าง อาร์จีดี 5 มาจากนายอภิชาติมาจำนวน 4 ลูก ก่อนนำไปก่อเหตุที่บริเวณถนนบรรทัดทอง 1 ลูก และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 2 ลูก จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะนี้นายกฤษดาได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมตัวต่อไป
พล.ต.อ.สมยศกล่าวอีกว่า การสอบสวนหาผู้กระทำความผิดในคดีต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความรอบคอบในการสืบสวน ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่รู้ตัวผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดแล้วแต่ขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียด เพราะต้องการให้มีหลักฐานที่ชัดเจนก่อน เพื่อออกหมายจับและนำตัวผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมด ทั้งนี้คดีดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับอาวุธสงครามที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับที่ สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนหน้านี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครอง และผ่าผืนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับบที่ 50/2557 ลงวันที่ 30 พ.ค. 2557 ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปทำการสืบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป