พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองอยุธยา และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.เขต 1 สนธิกำลังปฎิบัติการแทสก์ฟอร์ซ อยุธยา 57 ทลายเครือข่ายยาบ้าได้ 2 กลุ่ม พร้อมยึดทรพย์มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เผยทั้ง 2 เครือข่ายเป็นพ่อค้าอยู่ในกลุ่มขบวนการส่งยาบ้าให้ผู้ค้ารายใหญ่ และรายย่อย โดยใช้พื้นที่กรุงเก่าเป็นแหล่งพักยา และเป็นแหล่งจำหน่าย
เมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (10 ส.ค.) ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทน ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศีอยุธยา นายนัทธี บ่อสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.อ.จิรวัฒน์ นาคะรัตน์ ผบ.กรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ นายสงวนศักดิ์ ศรีวัฒนพงษ์ ผู้อำนวยการ ป.ป.ส.เขต 1 ร่วมเป็นประธานปล่อยแถวการปฎิบัติการแทสก์ฟอร์ซ (TASK FORCE) อยุธยา 57
โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.กว่า 150 นาย ร่วมปฏิบัติการ สามารถทลายเครือข่ายค้ายยาบ้าได้ 2 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นกลุ่มของนายพิชิต ชัยชนะ อายุ 49 ปี ได้ที่ตึกแถวบริษัทบ้านกฎหมายจำกัด ริมถนนโรจนะ ตำบลบ้านสร้าง อำเภอบางปะอิน พร้อม น.ส.ชลธิชา สงวนศรี และ น.ส.ฤทัยวรรณ สอนทอง
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มเครือข่ายของนายคมศักดิ์ ลักษณะโยธิน ซึ่งเป็นนักโทษอยู่ในเรือนจำกลางคลองไผ่ จ.นครราชศรีมา ได้ผู้ต้องหา 4 คน คือ นายมนตรี ชนะรัตนไพศาล นายทองสุข ทองบริสุทธิ์ นายวีระศักดิ์ นามตะ และนายกิจติพงษ์ หงส์สง่า ได้ในพื้นที่ตำบลลำตาเสา อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ต่อมา ที่หน้าสถานีตำรวจภูธร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.เดินทางมาแถลงข่าวผลการปฎิบัติการแทสก์ฟอร์ซ (TASK FORCE) อยุธยา 57 ในวันนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.และทหาร ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 เครือข่าย ผู้ต้องหา 7 ราย พร้อมยึดทรัพย์สิน รถยนต์ และรถตู้ รวม 9 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน อาวุธปืน 3 กระบอก เครื่องกระสุน 52 นัด ทองรูปพรรณรวม 15 รายการ น้ำหนัก 40 บาท เงินในบัญชีฝาก 14 บัญชี มียอดรวมกว่า 5.4 ล้านบาท บ้านพร้อมที่ดิน ประมาณ 6 ล้านบาท ที่ดินมีโฉนด จำนวน 2 แปลง ที่ดิน น.ส.3 ก. จำนวน 2 แปลง ทรัพย์สินอื่นๆ จำนวน 6 รายการ คิดเป็นมูลค่าทั้งหมดประมาณกว่า 100 ล้านบาท
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นแหล่งพักยา เป็นแหล่งจำหน่าย เป็นศูนย์กลางของขบวนการค้ายาบ้า ส่งไปในจังหวัดใกล้เคียง และกรุงเทพฯ ย่านคลองเตย เป็นจังหวัดระดับกลางในเครือข่ายค้ายาบ้า ซึ่งทางตำรวจภาค 1 และจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เร่งติดตามจับกุมมาโดยตลอด ซึ่งได้เปิดการปฏิบัติการในลักษณะนี้มา 2 ครั้ง
“กลุ่มค้ายาบ้าทั้ง 2 เครือข่ายที่จับได้มีชื่อมานานแล้ว เป็นพ่อค้าอยู่ในระดับมีขบวนการส่งยาบ้าให้ผู้ค้ารายใหญ่ และรายย่อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะต้องทำการขยายผลและยึดทรัพย์ให้ได้มากที่สุด ส่วนยาบ้าสามารถจับกุมไปได้ก่อนหน้านี้ ขอฝากให้ประชาชนที่รู้เบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดขอให้แจ้งมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ” พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว