ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ลงพื้นที่บ้านทับเขือ-ปลักหมู ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง เพื่อรับฟังปัญหา หลังชาวบ้านถูกจับกุมข้อหาตัดโค่นต้นยางพารา ที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ อ้างว่า อยู่ในเขตพื้นที่ป่า ระบุเป็นปัญหาเชิงนโยบาย เตรียมชงเรื่องเสนอ คสช.เพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบ
นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการสิทธิชุมชน และอนุกรรมการสิทธิในการจัดการที่ดินและป่า สำนักงานคณะกรรมการสิทธิฯ พร้อมด้วยพ.ต.สมทรง คงพึ่ง รองหัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการ กอ.รมน.ตรัง ผู้แทนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นายชัยยุทธ คุณชมภู นายสนิท องศารา ผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ลงพื้นที่บ้านทับเขือ-ปลักหมู ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งเป็นสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา
เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานราชการตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 64 และ 66 ที่ระบุว่า ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรามปราบ และจับกุมผู้ที่บุกรุก และทำลายสภาพป่า หรือทรัพยากรธรรมชาติ ส่งผลให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า มีคำสั่งทางปกครองให้รื้อถอนบ้าน และสวนยางพารา พร้อมทั้งดำเนินคดีอาญา นายสมคิด กันตังกุล และนางสุทิศา นิคะ ซึ่งเป็นสามีภรรยา ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ และชาวบ้าน จ.ชัยภูมิ ได้ยื่นคำร้องต่อ กสม. และได้มีการประชุมผู้เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดย นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า ชาวบ้านมองว่าการตัดต้นยางพาราเพื่อปลูกใหม่ทดแทนเป็นการดำเนินการตามวิถีชีวิตของเขา แต่อุทยานฯ มองว่าอยู่ในเขตอุทยานฯ ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ความขัดแย้งตรงนี้ต้องมีการแก้ปัญหาในเชิงนโยบาย คนที่ตัดสินคือ รัฐบาล ในฐานะของกรรมการสิทธิฯ จะทำหนังสือถึง คสช. อัยการสูงสุด และผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง สรุปปัญหา และข้อเสนอจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ โดยจะมีการสรุปว่าที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ในแนวเขตโฉนดชุมชนที่ได้มีการตกลงกันระหว่างส่วนราชการกับชุมชนหรือไม่ และไม้ที่ถูกตัดไปเป็นไปตามวิถีการทำงานของชาวบ้าน หรือเป็นการตัดไม้ทำลายป่า ส่วนเรื่องนโยบายโฉนดชุมชนได้รับการยืนยันจาก คสช. ว่า จะดำเนินการต่อ ดังนั้น คสช. ควรมีการสั่งการว่าจะมีการปฏิบัติอย่างไร ซึ่งจะต้องมีการพูดคุย และหามติจากส่วนกลาง
ขณะที่ นายสนิท องศารา ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) กล่าวว่า นายสมคิด กันตังกุล และภรรยา ถูกจับกุมกรณีตัดไม้ยางพาราออกจากพื้นที่ ซึ่งตามกฎหมายไม้ยางพาราที่อยู่ในเขตอนุรักษ์เป็นไม้ป่า ไม่สามารถตัดออกจากพื้นที่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย มิฉะนั้น จะมีความผิดตามมาตรา157 ปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นทั่วภาคใต้ เป็นปัญหาที่หมักหมมมานาน พี่น้องประชาชนเดือดร้อน ต้องมีการแก้ปัญหาในระดับนโยบาย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.สมทรง คงพึ่ง รองหัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการ กอ.รมน.ตรัง กล่าวว่า ที่ดิน 7 ไร่ ของนายสมคิด กันตังกุล เราได้เข้าไปดูแล้วไม่น่าจะเป็นการบุกรุกใหม่ อยู่ในขอบเขตของคำสั่งที่ 66 ข้อ 2.1 ที่ระบุให้การดำเนินการใดๆ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ยากไร้ จะระบุว่าเป็นการบุกรุกเดิมได้ไหม และในคดีที่ส่งถึงชั้นอัยการจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าส่งฟ้องจะเป็นความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นไปอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมคิด กันตังกุล และนางสุทิศา นิคะ ชาวบ้านชุมชนบ้านทับเขือ-ปลักหมู อ.นาโยง จ.ตรัง ถูกคำสั่งทางปกครองให้รื้อถอนบ้าน และสวนยางพารา เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ และถูกดำเนินคดีในชั้นอัยการ ข้อหายึดถือครอบครองที่ดินรวมถึงก่อสร้างแ¬ผ้วถางป่า
ทั้งนี้ ที่ดินแปลงดังกล่าวมีเนื้อที่ 7 ไร่ มีการบุกเบิกใน พ.ศ.2510 ต่อมา มีการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่-¬เขาย่า ใน พ.ศ.2525 มีการปลูกต้นยางพาราพันธุ์พื้นเมือง และต้นจำปาดะ กระจายอยู่เต็มพื้นที่ ต่อมา เมื่อต้นยางพาราเสื่อมสภาพ ให้ผลผลิตน้อย ก็ได้ตัดต้นยางพาราเก่าเพื่อปลูกใหม่ทดแทน โดยมีร่องรอยการทำกิน ได้แก่ ตอยางพาราขนาด 1-2 คนโอบ ประมาณ 250 ตอ ต้นจำปาดะ 24 ต้น หลังจากนั้น ก็ถูกจับกุมดำเนินคดี และมีคำสั่งทางปกครองให้รื้อถอนบ้าน และสวนยางพารา
พื้นที่ชุมชนบ้านทับเขือ-ปลักหมู เป็นพื้นที่ดำเนินงานโฉนดชุมชน ได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน (ปจช.) และรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้เป็นพื้นที่นำร่องโฉนดชุมชน สามารถดำเนินงานโฉนดชุมชนภายใต้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า ได้ร่วมรังวัดขอบเขตพื้นที่โฉนดชุมชนร่วมกับชุมชน โดยมีตัวแทนสำนักนายกรัฐมนตรี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตรั¬ง นายอำเภอนาโยง นายอำเภอศรีนครินทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช่อง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านนา และกำนันตำบลช่อง ร่วมเป็นคณะทำงาน