เชียงราย - ทหาร ป่าไม้ ตำรวจ นับร้อยนายบุกตัดสวนยางพารารุกป่าแม่ลาวทิ้ง จ่อตามยึดคืนอีกหมื่นไร่ บอกล็อกเป้าหมดแล้ว ขณะที่ 4 ใน 11 รีสอร์ตหรูกลางป่าดอยนางแลเอกสารไม่ครบ
วันนี้ (3 ก.ค.) พล.ต.พรชัย ดุริยพันธ์ ที่ปรึกษากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกเชียงราย (กกล.รส.จทบ.ชร.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จ.เชียงราย นายอริยะ เชื้อชม รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ สภ.แม่สรวย ตำรวจ กก.4บก.ปทส. และฝ่ายปกครอง ประมาณ 100 นายเข้าตรวจยึดผืนป่าสงวนแห่งชาติ บ้านโป่งปูเฟือง ม.1 ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย เนื้อที่ 17 ไร่ 84 ตารางวา
หลังพบว่ามีการลักลอบปลูกยางพาราไว้เต็มพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ผู้ที่เป็นเจ้าของแสดงตัวแล้ว แต่เมื่อไม่มีผู้ใดแสดงตัวจึงได้ทำการใช้เลื่อยยนต์ตัดต้นยางพาราอายุประมาณ 7 ปีทั้งหมด 1,518 ต้น เพื่อฟื้นฟูให้เป็นผืนป่าตามเดิม
นายอริยะกล่าวว่า พื้นที่ลักลอบปลูกยางพาราแปลงนี้เป็นสวนป่าแม่ลาว ซึ่งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ลาวฝั่งซ้าย เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้คำสั่งทางปกครองแจ้งให้ผู้ครอบครองพื้นที่รีบรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และพืชที่ปลูกออกไปให้หมด แต่ไม่มีผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของหรือรื้อถอนออกไป ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติปี 2507 ตัดต้นยางพาราออก และปลูกป่าเพื่อฟื้นคืนสภาพป่าต่อไป
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก มีเนื้อที่ประมาณ 300,000 ไร่ ซึ่งยังต้องเข้ายึดคืนพื้นที่ตามคำสั่ง คสช.อีกเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะสวนป่าแม่ลาวยังมีที่ต้องยึดอีกประมาณ 1 หมื่นไร่ แต่จะค่อยๆ ดำเนินการ เพราะต้องแจ้งให้แต่ละรายแสดงตัวเพื่อรื้อถอน ตัดไม้ และฟื้นฟูป่าภายใน 15 วัน ถ้าพ้นกำหนดยังไม่มีใครออกมาแสดงตัว เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าไปดำเนินการเป็นรายๆ ไป
นายอริยะกล่าวว่า นอกจากนี้ ผืนป่าที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ที่ครอบคลุมพื้นที่อุทยานในเขต จ.เชียงราย พะเยา 5 แห่ง ยังมีอีกหลายจุดที่จะต้องเข้าดำเนินการ เช่น อุทยานแห่งชาติขุนแจ ที่ต้องยึดคืนอีกประมาณ 2,000 ไร่
โดยเจ้าหน้าที่ได้ล็อกพื้นที่เป้าหมายไว้หมดแล้ว และจะแจ้งผู้บุกรุกโดยไม่มีเอกสาร เช่น มติคณะรัฐมนตรีปี 2541 และปี 2542 ให้ออกมาแสดงตัวภายใน 15 วัน ซึ่งได้ตั้งเป้าว่าภายในปีงบประมาณนี้จะได้ผืนป่าคืนมาอีกประมาณหมื่นไร่
ด้าน พล.ต.พรชัยกล่าวว่า ปฏิบัติการยึดคืนผืนป่าและปราบปรามการบุกรุกป่าจะทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อคืนผืนป่าให้กลับมาเป็นทรัพยากรที่สมบูรณ์ของชาติให้ได้มากที่สุด เพราะที่ผ่านมามีการบุกรุกเข้าไปใช้ประโยชน์กันมาก โดยกรณีของการปลูกพืชต่างๆ จะให้โอกาสผู้เข้าบุกรุกใช้ประโยชน์ได้แสดงตัว และปรับปรุงพื้นที่ให้คงเดิม แต่หากไม่ทำ เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าดำเนินการเอง
สำหรับกรณีการเข้าตรวจสอบรีสอร์ต 11 แห่ง ที่บ้านปู่ไข่ ม.13 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และสวนป่าเขตป่าดอยนางแล ป่าดอยยาว และป่าดอยพระบาท มีอยู่ 4 แห่งที่ไม่มีเอกสารเพียงพอ ต้องคืนความเป็นธรรมชาติตามกฎหมายต่อไป
ส่วนอีก 7 แห่งอ้างเอกสารมติคณะรัฐมนตรีปี 2541 และปี 2542 เรื่องการให้ราษฎรทำกินในเขตป่า ทำให้เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบหลักฐานอย่างรอบคอบต่อไป