ปัตตานี - ความคืบหน้ากรณีกรมสรรพากร และเจ้าหน้าที่กองบังคับคดีได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินของ “เสี่ยโจ้” เพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษากว่า 400 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบเครื่องประดับ ทองคำ พระเครื่องรวมมูลค่าแล้วกว่า 100 ล้านบาท อึ้ง! พบบัญชีลับบันทึกการจ่ายเงินแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ
วันนี้ (5 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีตัวแทนกรมสรรพากร เจ้าหน้าที่บังคับคดี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดทรัพย์สินที่บ้านเลขที่ 103/49 ม.8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างหุ้นส่วนสหชัยสินทรัพย์ทวีค้าไม้ ที่มี นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ เป็นเจ้าของ เพื่อยึดทรัพย์สินทั้งหมดมาเป็นรายได้ของกรมสรรพากร ตามคำพิพากษาของศาลเป็นเงิน400 ล้านเศษ เมื่อปี พ.ศ.2556
ซึ่งจากการตรวจยึดของเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เจ้าหน้าที่บังคับคดี ในครั้งนี้ได้มีการค้นตู้เซฟเพิ่มเติม พบเครื่องประดับ ทองคำ เครื่องเพชร พระเครื่องที่มีชื่อเสียงที่มูลค่าแพง คาดว่ามีมูลค่านับร้อยล้านบาท ทำให้ต้องระดมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวเข้าทำการบันทึกการตรวจยึดทรัพย์สินดังกล่าวเป็นไปอย่างละเอียด เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่ไม่สามารถให้มูลค่าได้ ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญพิเศษมากำหนดราคา หรือมูลค่าอีกครั้ง จึงจำเป็นต้องเลื่อนการแถลงข่าวการตรวจยึดไปก่อน
ส่วนทรัพย์สินที่เป็นเงินสด เป็นเงินสกุลริงกิต ประเทศมาเลเซีย และสกุลบาทไทย ที่ทาง กอ.รมน.ได้ตรวจพบภายในตู้นิรภัยขนาดใหญ่ ภายในบ้านหลังดังกล่าว และได้นำเจ้าหน้าที่ธนาคารนำเครื่องมาดำเนินการตรวจนับก่อนไว้แล้วนั้น มีมูลค่ากว่า 28 ล้านบาท จึงได้มีการอายัดไม่ให้เคลื่อนย้ายออกไปก่อนแล้ว หลังจากที่ได้มีการตรวจค้นบ้าน และห้างหุ้นส่วนฯดังกล่าวเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.จตุพร กลัมพสูตร รองผู้บังคับหน่วยกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้/หัวหน้าชุดปราบปราบภัยแทรกซ้อนต่อความมั่นคง ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ระบุผลจากการตรวจค้นห้างหุ้นส่วนส่วนสหสินทรัพย์ฯของ กอ.รมน.ตามคำสั่งของ คสช.พบว่าทางห้างหุ้นส่วน ดังกล่าวได้มีการบันทึกการจ่ายสินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้สามารถประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เช่น บ่อนการพนันกาสิโนกลางทะเลอ่าวไทย ค้าน้ำมันเถื่อน ค้าไม้เถื่อนปะปนไม้ที่ถูกกฎหมาย อีกหลายรายการ มีมูลค่าเป็นเงินสด 45 ล้านบาทต่อเดือน ให้แก่เจ้าหน้าที่บางคนทุกระดับชั้น
นอกจากนั้น ยังพบว่า ห้างหุ้นส่วนสหสินทรัพย์ฯ ในช่วงรอยต่อปี 2556-2557 ได้มีการจัดของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้หลักผู้ใหญ่เฉพาะกระเช้าของขวัญปีใหม่ในแต่ละปีเป็นเงินมากกว่า 1 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นหลักฐานเป็นเพียงบางส่วน ยังมีอีกจำนวนมากที่ชุดปราบปราบภัยแทรกซ้อนต่อความมั่นคง ภาค 4 ส่วนหน้ามีการรวบรวมเพื่อส่งให้ คสช.ต่อไป
ดังนั้น จึงทำให้การดำเนินคดีต่อ ห้างหุ้นส่วนสหสินทรัพย์ฯ และนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ นั้นเป็นด้วยความยากลำบาก ก่อนหน้านี้ ได้ถูกนายสหชัย หรือเสี่ยโจ้ ทำการเช็กบิลเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการทางกฎหมายมาแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่บางคนต้องถูกปรับลดบทบาทในอำนาจหน้าที่ต่อการดำเนินเอาผิดต่อ ห้างหุ้นส่วนสหสินทรัพย์ฯ ของเสี่ยโจ้ มาแล้วหลายราย
