ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ฟันซ้ำถอนรากถอนโคนแท็กซี่ป้ายดำภูเก็ต ตำรวจประสานท้องถิ่นจัดการรื้อคิวแท็กซี่ป้ายดำใน 3 พื้นที่ เชิงทะเล กมลา กะรน ขณะที่พื้นที่ป่าตองเผยมีการร้องเรียนแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ยืนยันหลักฐานครบจับกุมแน่
จากกรณีเมื่อวานนี้ (4 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 นำโดย พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต จำนวนกว่า 1,000 นาย ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต จำนวน 111 หมาย เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มแท็กซี่ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หลังมีการแต่งตั้งชุดเฉพาะกิจปราบปรามกลุ่มแท็กซี่ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตามคำสั่งตำรวจภูธรภาค 8 ที่ 50/2557 ลงวันที่ 30 มกราคม 2557 ซึ่งมอบหมายให้ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 และ พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวานิชย์ ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ลงพื้นที่สืบสวนรวบรวมพยานหลังฐาน ซึ่งจากการลงพื้นที่จู่โจมจับกุมคนขับแท็กซี่ตามหมายสามารถจับกุมได้แล้ว จำนวน 93 หมายจับ ผู้ต้องหา จำนวน 90 คน
ล่าสุด วันนี้ (5 มิ.ย.) พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และตำรวจภูธรภาค 8 ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการรื้อคิวรถแท็กซี่ป้ายดำในพื้นที่เชิงทะเล กมลา และกะรน หลังจากประสานไปยังหน่วยงานองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เข้าดำเนินการ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยการดูแลความปลอดภัย ขณะเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการรื้อคิวรถแท็กซี่ป้ายดำ
พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งเป็นการปฏิบัติการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวให้เห็นว่าทางราชการเอาจริงต่อเรื่องนี้ และการเข้าไปรื้อคิวแท็กซี่มิเตอร์ก็เป็นการปราบปรามผู้กระทำความผิดให้สิ้นซาก ซึ่งการดำเนินการนั้นทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานอย่างแน่นอน และในส่วนของการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับนั้นขณะนี้มีการจับกุมไปแล้วจำนวน 93 หมาย ผู้ต้องหา จำนวน 90 คน ซึ่งขณะนี้ยังเหมือที่จะต้องติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีกจำนวน 21 หมายจับ ซึ่งคาดว่าจะมามอบตัวในเร็วๆ นี้ ส่วนผู้ต้องหาที่มีการจับกุมมาแล้วในเบื้องต้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และยืนยันว่าจะยังไม่ให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน ยกเว้นกรณีที่ป่วยเท่านั้น
สำหรับการจับกุมกลุ่มแท็กซี่ผู้มีอิทธิพลนั้น ทางตำรวจภูธรภาค 8 ได้ลงมาปฏิบัติการในทางลับมาแล้วประมาณ 3 เดือน จนรวมรวบพยานหลักฐาน และขอออกหมายจับผู้กระทำความผิดได้ ซึ่งหลังจากนี้ การปฏิบัติการในการปราบปรามผู้ประทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้จะยังคงดำเนินการอยู่ โดยจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เฝ้าระวังต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และต่างชาติไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เพราะยืนยันว่า ทางตำรวจจะเอาจริงกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน
พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวต่อไปถึงกรณีกลุ่มแท็กซี่ในพื้นที่ป่าตอง ที่ไม่ถูกจับกุมในครั้งนี้ ว่า ในส่วนของป่าตองถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงเช่นเดียวกับที่อื่น ซึ่งขณะนี้ก็มีการร้องเรียนจากผู้ประกอบการเข้ามาเช่นเดียวกัน แต่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้ามีหลักฐานเพียงพอ และผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนให้ความร่วมมือก็พร้อมที่จะดำเนินการเช่นเดียวกัน