ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ล้างบางมาเฟียภูเก็ต! ตร.ภูธรภาค 8 สนธิกำลัง ทหาร ฝ่ายปกครอง กว่า 1 พันนาย ลงพื้นที่ติดตามจับกุมแท็กซี่ป้ายดำ และผู้มีอิทธิพลตามหมายจับในพื้นที่ภูเก็ตกว่า 107 ราย หลังมีผู้เสียหาย 150 ราย ของ 51 บริษัทฯ ร้องเรียนได้รับความเดือดร้อน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและปรามปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยว ศปอท. ภายใน สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสอบปากคำกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำ และผู้มีอิทธิพล ซึ่งจับกุมตัวมาตามหมายจับของศาล ตามนโยบายกวาดล้างแท็กซี่ป้ายดำที่ก่อเหตุต่อนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จำนวน 107 ราย 110 หมายจับ ในพื้นที่ 3 อำเภอทั่วทั้งจังหวัดภูเก็ต
โดยปฏิบัติการดังกล่าวมีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งภาค 8 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 41 เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในสังกัดตำรวจภูธรภาค 8 รวมกว่า 1,000 นาย แบ่งกำลังออกเป็น 10 ชุด ติดตามจับกุมตั้งแต่เวลา 07.00 น. จนถึงในเวลา 11.00 น. สามารถดำเนินการจับกุมบุคคลตามหมายจับได้แล้ว 27 ราย และส่วนที่แหลือกำลังอยู่ระหว่างติดตามตัว
พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่มีการร้องเรียนเป็นจำนวนมากว่า กลุ่มแท็กซี่ป้ายดำ และผู้มีอิทธิพลต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต กระทำการอันกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และกระทบต่อความรู้สึกไม่ปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว และทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวน้อยลง รวมถึงชื่อเสียงประเทศของเราเสียหาย จากข้อมูลพบว่า มีคิวรถแท็กซี่ทั้งหมดในภูเก็ตถึง 286 คิว มีแท็กซี่ป้ายดำประมาณ 3,000-4,000คัน ที่ไม่ถูกต้องก็จะมีประมาณ 70 กว่าคิว ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานได้ประมาณ 11 คิว ออกหมายจับมาแล้ว 110 หมาย ผู้ต้องหา 107 ราย มีทั้งตัวผู้ประกอบการแท็กซี่ นักการเมืองท้องถิ่น และผู้สนับสนุนต่างๆ
โดยข้อกล่าวหาที่ใช้ก็คือ เป็นการกรรโชกทรัพย์ เป็นการกระทำผิดในเรื่องซ่องโจร เป็นการข่มขู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานได้ตามบริษัทต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายถึง 51 บริษัท ผู้เสียหายประมาณ 150 คน และมีการสอบสวนมาโดยตลอดระยะเวลาประมาณ 3 เดือน วันนี้เป็นการปฏิบัติการเพื่อจับกุมทั้ง 107 ราย คือ 110 หมาย และก็การจับในครั้งนี้ก็ระดมกำลังจากจังหวัดภูเก็ต ตำรวจจากพังงา นครรศรีธรรมราช กระบี่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และฝ่ายทหาร โดยแม่ทัพภาค 4 ได้ส่งผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 และกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาดำเนินการร่วม รวมกว่า 1,000 นาย โดยต้องการให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่กระทบต่อภาพลักษณ์ของภูเก็ตเป็นอย่างมาก เชื่อว่าผลการปฏิบัติในวันนี้จะสามารถจับกุมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดจะถูกดำเนินในคดีอาญา จะดำเนินคดีในต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งก็โทษจำคุกหลายสิบปีเช่นกันหากเอามารวมกัน ชุดทำงานได้เข้าพื้นที่มาหลายวันแล้ว ซึ่งเราก็เป็นห่วง เนื่องจากว่าในการจับกุมสิ่งเหล่านี้จะมีการก่อม็อบเกิดการชุมนุมประท้วงอะไรในลักษณะนี้ ผมเชื่อว่าประเด็นเหล่านี้จากการสืบสภาพแล้วน่าจะไม่เกิดปัญหานั้น เหตุจะมาอ้างว่าเป็นคนภูเก็ตมาทำมาหากินก็ไม่ใช่ เพราะส่วนใหญ่เท่าที่ดูแล้ว เกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นคนต่างพื้นที่ และทำให้พื้นที่ของภูเก็ตมีปัญหา
ขณะเดียวกัน ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่เป็นผู้เสียหายกว่า 51 บริษัท ประมาณ 150 คน มาประชุมชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ปัญหาของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งชี้แจงว่า จะให้มีการชี้ตัวผู้ต้องหาซึ่งอยู่ระหว่างการจับกุม
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 15.00 น.วันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 จะมีการแถลงผลการติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับต่อสื่อมวลชน ที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและปรามปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยว (ศปอท.) อีกครั้งหนึ่ง