ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.ภาค 8 ชุดปราบปรามแท็กซี่ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต สนธิกำลังร่วมฝ่ายทหาร ปปง. กว่า 60 นาย ลงพื้นที่ตรวจค้นสำนักงานเทศบาลตำบลกะรน พบพยานหลักฐานสนับสนุนการกระทำความผิดของฝ่ายบริหารเทศบาลตำบลกะรน
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วยกำลังทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.ภูเก็ต ลงพื้นที่ปฏิบัติการจู่โจมจับกุมผู้ประกอบการแท็กซี่ ที่ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต จำนวน 112 หมายจับ รวม 12 คดี เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา และสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้จำนวน 109 คน ล่าสุด วันนี้ (2 ก.ค.) พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในชุดเฉพาะกิจปราบปรามกลุ่มแท็กซี่ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย น.ท.ธนเดช กุญณาวรรณ หัวหน้าแผนกยุทธการและการฝึก กองทัพเรือภาคที่ 3 พ.อ.สมชาย โปณะทอง หัวหน้าชุดคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดูแลพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และนายชาญชัย พงศ์ภัสสร ผู้อำนวยการกองคดี 3 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามกลุ่มแท็กซี่ฯ เดินทางลงพื้นที่สำนักงานเทศบาลตำบลกะรน เพื่อเข้าตรวจสอบตรวจค้นหาพยานหลักฐานสนับสนุนการกระทำความผิดของฝ่ายบริหารเทศบาลตำบลกะรนทั้งหมด ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว นอกจากนี้ ยังได้มีการแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามกลุ่มแท็กซี่ฯ ดังกล่าว ออกเป็น 3 ชุด นำหมายค้นของศาลจังหวัดภูเก็ต ตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 86/14-15 ถนนพระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต บ้านเลขที่ 5/31 ม.1 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และบ้านเลขที่ 16/8 ซอยสุขนิรันดิ์ ม.1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต อีกด้วย
พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ผบก.อก.ภ.8 กล่าวว่า หลังจากที่ตำรวจภูธรภาค 8 โดย พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้รับคำร้องเรียนว่า มีกลุ่มแท็กซี่ผู้มีอิทธิพลในจังหวัดภูเก็ต ทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาโดยตลอด รวมทั้งมีการกรรโชกทรัพย์ ประพฤติตนเป็นซ่องโจร จึงได้ส่งชุดทำงานลงมาทำงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เป็นเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งล่าสุด มีการจับกุมผู้ต้องหาไปจำนวนทั้งสิ้น 109 คน ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต จำนวน 112 หมาย และมีการจับกุมทีมผู้บริหารเทศบาลตำบลกะรน เพิ่มเติมอีก 4 คนด้วยกัน หลังจากมีการตรวจสอบขยายผลอย่างต่อเนื่อง วันนี้ (2 ก.ค.) จึงได้มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จาก 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากกองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และตำรวจภูธรภาค 8 เข้าทำการตรวจค้นในพื้นที่เทศบาลตำบลกะรน เพื่อหาพยานหลักฐานสนับสนุนการกระทำความผิด และจากการตรวจค้นพบเอกสารสำคัญที่พอจะเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนการกระทำความผิดได้ ซึ่งทาง ปปง.จะได้ใช้ประโยชน์ตรงส่วนนี้เพื่อนำไปสู่การยึดทรัพย์ต่อไป
ด้าน นายชาญชัย พงศ์ภัสสร ผู้อำนวยการกองคดี 3 สำนักงาน ปปง.กล่าวว่า วันนี้ (2 ก.ค.) เป็นการสนธิกำลังร่วมกันในส่วนของ ปปง. อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ เพราะว่าผู้ที่ถูกตรวจสอบถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดมูลฐานของการฟองเงิน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานที่ทางภาค 8 ส่งให้ เราก็จะไปทำการวิเคราะห์ ตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ก็จะเป็นที่มาของการกระทำความผิดซึ่งมีจำนวนมากที่พนักงานสอบสวนส่งรายชื่อให้ ผู้ใดที่เป็นผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ด้วยกับผู้ต้องหาเราก็จะทำการตรวจสอบ แล้วก็ดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินที่มีการจำหน่ายจ่ายโอนด้วย ในส่วนของความจัดเจนว่าจะสามารถนำไปสู่การยึดทรัพย์ได้หรือไม่อย่างไรนั้น คาดว่าจะมีความชัดเจนได้ในเร็วๆ นี้