คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายู
โดย...จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย
จากแถลงการณ์ของ ศอ.รส. อันเป็นที่รวมของคนต้นทุนต่ำ เถื่อนถ่อย และไร้ความชอบธรรมใดๆ แต่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย กติกาของสังคม และพยายามจะสร้างกฎเกณฑ์ให้คนอื่นปฏิบัติ ขณะที่พวกตนกลับกระทำตรงกันข้ามกับที่เรียกร้องคนอื่น สะท้อนถึงความเถื่อนถ่อย สถุลจนเกินกว่าจะเรียกว่าคณะกรรมการที่เป็นทางการ ที่จะมาทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยให้แก่บ้านเมืองในภาวะผิดปกติได้
นับเป็นคำประกาศถึงความอัปยศอดสูอันอัปลักษณ์ของบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการก้าวก่ายการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ การบงการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และข่มขู่คุกคามคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รวมทั้งการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย การเหยียบย่ำศักดิ์ศรี และเกียรติภูมิของข้าราชการ เป็นการสำแดงให้เห็นถึงความเป็น “อันธพาล” ของกลุ่มคนถ่อยกลุ่มนี้โดยชัดแจ้ง
ปราชญ์จีนเคยกล่าวว่า ถ้าผู้นำคบหากับปราชญ์ ย่อมนำพาชาติบ้านเมืองสู่ความสงบสุข และความจำเริญก้าวหน้าของประชาชนพลเมือง แต่หากตรงกันข้าม ผู้นำคบค้าสมาคมกับคนถ่อย หรือผู้นำเป็นคนถ่อยเสียเอง ย่อมนำพาบ้านเมืองสู่ความล่มจม สร้างความทุกข์ยากเดือดร้อนแก่ประชาชนพลเมืองเช่นกัน
ในทางพุทธศาสนาได้กล่าวถึง “อบายมุข” หรือ “ทางแห่งความเสื่อม” ว่ามี ๖ ประการคือ การเสพสุรา เล่นการพนัน เที่ยวกลางคืน คบคนชั่วเป็นมิตร ดูการละเล่น และเกียจคร้านการงาน
รัฐบาลชุดปัจจุบันมีพฤติกรรม และพฤติการณ์เข้าข่าย “คบคนชั่วเป็นมิตร” อย่างชัดเจน บุคคลผู้มีบทบาทนำในทางการเมืองของรัฐบาลชุดปัจจุบัน และผู้สนับสนุนรัฐบาลมีลักษณะเป็น “คนพาล” หรือ “อันธพาล” ที่ชัดเจน
ลักษณะของคนพาลเป็นเช่นไร หรือลักษณะของคนพาลคือ คนอ่อนสติปัญญา อ่อนการศึกษา (ที่แปลว่าการเรียนรู้ หรือการฝึกหัดตน) อ่อนทางความคิดความอ่าน อ่อนทางความประพฤติ อ่อนในประสบการณ์ชีวิต อ่อนหัด
คำว่า “อันธพาล” มาจาก “อันธะ” แปลว่า มืดบอด มองไม่เห็น เช่น อันธปัญญา เป็นคนไม่มีปัญญา เป็นคนมืดบอด ไร้การศึกษา ไม่มีความคิดอ่าน
คนอันธพาลคือ คนไร้คุณธรรม ความประพฤติไม่ดี การคิดการอ่านไม่ดี การเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันไม่ใคร่จะเรียบร้อย ขาดความเมตตา เห็นแก่ตัว ไม่คิดถึงเพื่อนมนุษย์ ทำอะไรเพื่อตัวเอง ไม่คิดถึงความเดือดร้อนของคนอื่น เห็นแก่ได้ ไม่มีความพลอยยินดี อนุโมทนาในความดี ความสุขของคนอื่น
คนพาล หรือคนอันธพาลไม่สรรเสริญการให้ทาน ไม่สรรเสริญการให้ และตัดทอนการทำทานของคนอื่น ขาดมุทิตา คนพาลชอบเบียดเบียนคนอื่นให้เกิดความทุกข์ยากเดือดร้อน เห็นความทุกข์ยากของคนอื่นเป็นเรื่องสนุก
คนพาลสร้างแต่ปัญหา สร้างแต่ความเดือดร้อนแก่สังคมด้วยประการต่างๆ ไม่มีมิตรแท้ แต่มีศัตรูที่ถาวรในหมู่คนพาล เพราะคนพาลคือ คนที่ถือเอาประโยชน์ตนเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าได้ประโยชน์ก็เป็นมิตรกับผู้นั้น ถ้าไม่ให้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์ก็จะไม่เป็นมิตร หักหลังมิตรเมื่อใดก็ได้
จะเห็นได้ว่า พฤติกรรมของคนในรัฐบาลชุดนี้ และผู้สนับสนุนรัฐบาล มีลักษณะเป็นคนพาล หรืออันธพาลที่ค่อนข้างจะชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขาดสติปัญญาในการคิดวิเคราะห์ การจัดการกับปัญหาทั้งในระยะสั้น และระยะยาว การสร้างความทุกข์ยากเดือดร้อนให้แก่คนอื่น โดยนิยมใช้ความรุนแรง ทั้งในเรื่องวาจา และการใช้กำลังประทุษร้าย การเผาโลงศพ เผาสถานที่ราชการ เผาอาคารสถานที่ การบุกรุกสถานที่เพื่อข่มขู่คุกคามฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับตน การใช้อาวุธสงครามยิงถล่มบ้าน ศาล และสถานที่ชุมนุม การลอบสังหาร การใช้อำนาจอันฉ้อฉลมากลั่นแกล้งประชาชน เป็นต้น
ไม่เคยมียุคใดสมัยไหนที่ผู้นำประเทศ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับความสงบสุข ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน จะสร้างความอัปยศอดสูในความรู้สึกของประชาชนผู้เสียภาษีได้มากมายมหาศาลเท่ากับยุคนี้
ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีสมัยไหนที่ไร้ค่า ไร้ความหมายต่อการดำรงอยู่ของพี่น้องประชาชน และอยู่แบบสูญเปล่า สิ้นเปลืองเงินเดือน และงบประมาณจากเงินภาษีของพี่น้องประชาชนมากเท่ากับยุคนี้
ไม่เคยมียุคไหนสมัยใดที่ประเทศชาติบ้านเมืองจะตกต่ำ และสูญเสียเกียรติภูมิเท่ากับยุคนี้ และไม่เคยมีอดีตนายกรัฐมนตรีคนไหนที่สามารถจะสร้างความทุกข์ยาก เดือดร้อนและทำให้ประชาชนคนไทยจงเกลียดจงชัง และเป็นปฏิปักษ์ต่อกันอย่างชัดเจนเท่ากับอดีตนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ “ทักษิณ” อีกแล้ว
ไม่เคยมียุคไหนสมัยใดที่สื่อมวลชนทั้งของรัฐ และของเอกชน จะสำแดงความตกต่ำเสื่อมเสียเกียรติภูมิของความเป็นสื่อมวลชน “ฐานันดรที่สี่” ของสังคมเท่ากับยุคนี้
เพราะแค่ผู้นำคบค้าสมาคมกับคนถ่อย ปราชญ์จีนก็เคยกล่าวเตือนไว้แล้วด้วยความเป็นห่วงในความสงบสุขของมวลมนุษยชาติ แต่นี่สังคมไทยไม่ใช่แค่ผู้นำคบคนถ่อย แต่ผู้นำทำตัวเป็น “คนถ่อย” เสียเอง จะไม่เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?