xs
xsm
sm
md
lg

ประชาธิปไตยบนทางสองแพร่ง / นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
โดย...นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ
 
 
ระบอบการเลือกตั้งในปัจจุบัน แม้จะเป็นกลไกประชาธิปไตยที่เลวน้อยที่สุด แต่ก็ได้สร้างผลข้างเคียงไว้มากต่อสังคมไทย ไม่ต้องดูอื่นไกลถึงการเมืองชาติ การเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล หรือเทศบาลในปัจจุบัน ที่จำลองการเลือกตั้งในระบบใหญ่มาไว้ในชุมชน ผู้สมัครแต่ละคนต้องใช้เงินจำนวนมากในการหาเสียง ไม่ใช่เรื่องการซื้อเสียง แต่เป็นเรื่องของการจัดทำป้ายหาเสียง การดูแลหัวคะแนน การเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำแก่เครือข่าย ภาษีสังคมจำนวนมากก่อน และหลังการเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้มีมูลค่าเป็นล้านบาทในระดับตำบล จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์มีพรรคนายทุนมาสนับสนุนผู้สมัคร อีกทั้งได้สร้างความแตกแยกแบ่งพรรคแบ่งพวกในชุมชน ยิ่งเลือกมากครั้งก็ยิ่งแตกกันจนประสานกันไม่ได้ และหลายกรณีก็มีการถอนทุนคืนจากเงินภาษีประชาชน หรือการใช้อำนาจเอื้อประโยชน์เอกชน สำหรับการเมืองชาตินั้นยิ่งเลวร้ายกว่ามาก
 
ในอดีตการถอนทุนนั้นมุ่งพียงแค่ถอนทุนซึ่งก็แย่แล้ว แต่ปัจจุบันการเลือกตั้งได้เป็นช่องทางในการลงทุนสำหรับการกอบโกยเป็นร้อยเป็นพันเท่าจากทุนที่ลงไป การจะกระทำการทุจริตได้ หัวใจที่สำคัญที่สุดคือ ข้าราชการระดับสูงต้องให้ความร่วมมือ ขั้นต่ำคือ ไม่ขวาง ขั้นสูงคือ ร่วมชงร่วมในทีมงาน และร่วมรับผลประโยชน์ ดังนั้น การแต่งตั้งโยกย้ายเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งของข้าราชการระดับสูง จึงยากที่คนดีคนเก่งจะถูกเลือก คนเชลียร์คนพร้อมรับใช้คนโลภต่างหากที่ได้รับการคัดเลือก เมื่อเป็นเช่นนี้นานเข้านานเข้า ระบบราชการซึ่งเดิมเคยมีคนดีคนเก่งกุมบังเหียนการบริหารจัดการของประเทศ บัดนี้แทบจะหาคนดีคนเก่งไม่ได้เลย เมื่อระดับหัวโกงแล้ว ก็ไม่แปลกที่วัฒนธรรมราชการจะโกงมากขึ้น เพราะการควบคุมกำกับจากผู้บริหารระดับสูงอ่อนแออย่างที่สุด ประเทศชาติจึงกำลังเดินไปสู่ความล้าหลัง และหายนะ
 
เรามีบ่อขยะพิษเถื่อนกว่า 4,000 บ่อ เรามีโครงการก่อสร้างภาครัฐที่ใต้โต๊ะกันมโหฬาร เราสัมปทานแก๊ส และน้ำมันราคาถูกๆ เราปล่อยให้มีการขุดเหมืองที่นายทุนกอบโกยทิ้งมลพิษไว้กับชุมชน เราปลูกป่าสร้างภาพแต่ป่าจริงๆ ถูกตัดทุกวัน เรามีโครงการที่สูญเปล่ามากมายติดป้ายปลอดยาเสพติดแต่ยาเสพติดยังเต็มบ้านเต็มเมือง ตัวอย่างเหล่านี้มีต้นตอสำคัญมาจากการคอร์รัปชัน และโกงกิน

ปัญหาดังกล่าวไม่ใช่โจทย์ของ กปปส. แต่เป็นโจทย์ของคนทั้งชาติ โจทย์ที่เราต้องร่วมกันคิดให้สังคมไทยไปให้ไกลจากการคอร์รัปชั่น ซึ่ง ณ วันนี้ประมวลได้ว่า ระบบการเมือง และระบบการเลือกตั้งเป็นปัจจัยหลักของการคอร์รัปชัน เพราะนักเลือกตั้งต้องถอนทุนคืนเป็นกระสุนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
 
กลุ่มแนวคิด respect my vote ก็เห็นถึงประเด็นของความย่อหย่อน และผลเสียจากระบอบการเลือกตั้งในปัจจุบันเช่นกัน เพียงแต่เขายืนหยัดในหลักการการเลือกตั้ง แต่เขาเหล่านี้ก็ไม่ได้ปฏิเสธระบอบการเลือกตั้งที่จะมีการคอร์รัปชันน้อยลง มีโอกาสที่คนมีความรู้ความสามารถจะเสนอตัวมารับใช้บ้านเมืองมากขึ้น  กปปส.เองก็แม้จะได้อำนาจมาชั่วคราว แต่ก็ต้องกลับเข้าสู่ระบอบการเลือกตั้งในที่สุด ดังนั้น เราทุกคนในประเทศไทย หากก้าวข้ามความขัดแย้งในวันนี้ เรามีโจทย์ร่วมที่สำคัญยิ่ง “ระบอบการเลือกตั้งและการตรวจสอบในอนาคตแบบใดที่สะท้อนจิตวิญญาณประชาธิปไตยมากที่สุด และเปิดโอกาสให้โกงกินได้น้อยที่สุด” อันนี้เป็นโจทย์ร่วมของสังคมไทย
 
ประชาธิปไตยไทยวันนี้ เดินมาถึงทางสองแพร่ง แพร่งแรกยืนยันขอให้มีสิทธิในการเลือกตั้งเป็นสรณะ ด้วยความเชื่อว่าแม้เขาโกงแต่เราก็เปลี่ยนไม่เลือกเขาได้ในอนาคต เชื่อว่าประชาชนต้องเรียนรู้ และเปลี่ยนผ่าน เชื่อว่านักแต่งตั้งก็โกงเหมือนกัน  หนทางนี้เดินไปด้วยความเชื่อในกระบวนการเรียนรู้ที่ต้องแลกด้วยบทเรียนราคาแพงจนประชาชนตื่นรู้ด้วยตนเอง  
 
แพร่งที่สองคือ การปฏิรูปใหญ่ไม่ว่าจะก่อน หรือหลังวิกฤต จะก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง  แต่ต้องการการปรับระบบกลไกการเลือกตั้ง และกลไกการเมืองทั้งระบบ แล้วจึงจัดการเลือกตั้งขึ้นมา เพื่อให้มีโอกาสที่จะลดการคอร์รัปชันลงไป และโอกาสที่มวลมหาประชาชนจะตื่นเช่นนี้ไม่ได้มีกันง่ายๆ จึงเป็นช่วงเวลาแห่งความหวังในการปฏิรูป
 
ทางสองแพร่ประชาธิปไตยไทยวันนี้ เป็นตัวเลือกที่ถูกทั้งคู่ ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน แต่วิชาชีพสุขภาพส่วนใหญ่พร้อมใจกันเลือกทางที่สอง “ปฏิรูปใหญ่ก่อนเลือกตั้ง” มองให้ไกลเพื่ออนาคตประชาธิปไตยไทย ประชาธิปไตยที่มีการโกงกินคอร์รัปชันน้อยที่สุด
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น