ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เลขานุการสมาคมดำน้ำทีดีเอ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกร้องแก้ปัญหาส่วยธุรกิจดำน้ำ พร้อมขอให้จังหวัดชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องขอบเขตการทำงานที่ระบุในใบอนุญาตของครูสอนดำน้ำต่างชาติ ด้าน ผกก.สภ.ที่ถูกอ้างรีดส่วย ถูกสั่งโยกสลับตำแหน่งออกจากพื้นที่ชั่วคราวระหว่าง ป.ป.ท.ตรวจสอบ
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (2 เม.ย.) ที่ห้องรับรองจวนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายพงษ์สวรรค์ สถาธรรม เลขานุการสมาคมดำน้ำ ที ดี เอ และนางสองฤดี พรหมชู เจ้าหน้าที่สมาคมฯ เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียน และร่วมหารือกับ นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ถึงกรณีปัญหาที่ผู้ประกอบการธุรกิจดำน้ำ และครูสอนดำน้ำชาวต่างชาติในจังหวัดภูเก็ตกว่า 100 คนเข้าร้องเรียนผ่านทางสมาคมฯ ว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาทำงานผิดประเภทจากใบอนุญาตทำงาน และเสนอให้จ่ายเงินรายเดือนรายละ 3,000-20,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี โดยมี น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด และนางเยาวภา พิบูลย์ผล จัดหางานจังหวัด ร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหา
โดยเลขานุการสมาคมดำน้ำ ที ดี เอ กล่าวว่า การที่ทางสมาคมเข้ามายื่นหนังสือดังกล่าวก็เพื่อนำปัญหาของผู้ประกอบการ และครูสอนดำน้ำที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งได้ส่งผ่านมายังสมาคมฯ ก่อนหน้านี้ มารายงานยังผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีกในระยะยาว ซึ่งข้อเรียกร้องของสมาคมฯ คือ ให้จังหวัด หรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องดังกล่าว เข้ามาตรวจสอบพร้อมชี้แจงเรื่องขอบเขตของคำจำกัดความที่ระบุในใบอนุญาตทำงานกับผู้ประกอบการ และครูสอนดำน้ำที่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เพื่อให้มีความชัดเจน และเข้าใจร่วมกันทุกฝ่าย เนื่องจากที่ผ่านมา คำจำกัดความที่ระบุดังกล่าวทำให้เกิดช่องว่างให้มีเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานเข้ามาหาผลประโยชน์ พร้อมทั้งขอให้มีการประสานทำความเข้าใจร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกันทุกฝ่าย ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก ซึ่งขณะนี้จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้มีสถานทูตของหลายๆ ประเทศสอบถามมายังสมาคมดำน้ำทีดีเออย่างต่อเนื่อง ทางสมาคมจึงต้องขอความชัดเจนจากผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงหาแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อให้นานาประเทศคลายความกังวลลง
ด้านนายไมตรี อินทุสูต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการแก้ปัญหาว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ สนง.จัดหางานจังหวัดภูเก็ต ดำเนินตรวจสอบใบอนุญาตทำงานของชาวต่างชาติที่ทำงานในสถานประกอบการธุรกิจดำน้ำทั้งหมด เพื่อให้มีความถูกต้อง และป้องกันไม่ให้มีการทำงานนอกเหนือขอบเขตของใบอนุญาต พร้อมทั้งจัดชุดเจ้าหน้าที่ที่มีเชี่ยวชาญเดินสายให้ความรู้ควบคู่กับการเข้าตรวจสอบ โดยจะเริ่มลงพื้นที่ในสัปดาห์หน้า
ส่วนภาพรวมทั้งหมด เร็วๆ นี้จะเชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้ง สนง.จังหางานจังหวัด สำนักพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสาขาภูเก็ต สมาคมดำน้ำทีดีเอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ประกอบการ และครูสอนดำน้ำชาวต่างชาติ เข้าร่วมประชุมเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อให้มีความเข้าใจตรงกัน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ผู้ประกอบการร้องว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินรายเดือนนั้น ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้รับเป็นคดีพิเศษ พร้อมเข้ามาดำเนินการตรวจสอบ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นได้มีการโยกย้ายสลับตำแหน่งนายตำรวจระดับผู้กำกับการของพื้นที่ที่เกิดปัญหาไปปฏิบัติหน้าที่ยังพื้นที่อื่นชั่วคราวระหว่างการตรวจสอบ