ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจไทยรวบ 3 ลูกเรือไทยผู้ต้องหาฆ่า 2 ทหารอินโดฯ โยนทิ้งทะเล เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พร้อมกล่าวหาว่า ไต้ก๋งเรือเป็นคนสั่งให้ฆ่า เผยลูกเรือไทยไม่ได้คิดว่าเป็นทหาร เนื่องจากไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ด้านกงสุลอินโดฯ เผยขณะนี้ยังไม่ยกเลิกการปิดน่านน้ำเพราะคดียังไม่สิ้นสุด วอนไทยช่วยจับผู้ต้องหาที่เหลือโดยเร็ว
วันนี้ (27 มี.ค.) ที่ห้องประชุมกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ภ.9 พ.ต.อ สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา และคณะทูตประเทศอินโดนีเซีย ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม 3 ลูกเรือประมงไทย ส.นาฏยา 7
ประกอบด้วย 1.นายสุริวงศ์ เชื้อหอม อายุ 37 ปี ชาว อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ 2.นายศรีไพร สุวรรณประภา อายุ 41 ปี ชาว อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา และ 3.นายสรสิทธิ์ โสอินทร์ อายุ 36 ปี ชาว อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี พร้อมของกลางค้อน และมีดปลายแหลมที่ใช้ก่อเหตุคดีร่วมกันฆ่าทหารเรืออินโดนีเซียเสียชีวิต 2 นาย โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างว่าไต้ก๋งเรือเป็นคนสั่งฆ่า ซึ่งขณะแถลงข่าวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนรู้สึกเสียใจ และได้กล่าวขอโทษต่อคณะทูตที่มาร่วมฟังแถลงข่าวในครั้งนี้ เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าเหตุการณ์จะบานปลาย
โดยผู้ต้องหาให้การว่า ขณะเกิดเหตุมี นายโอภาส เจริญพร เป็นไต้ก๋งเรือ ได้นำเรือ ส.นาฏยา 7 พร้อมลูกเรือคนไทยอีก 12 คน ออกไปทำการประมงหาปลาในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซีย เมื่อประมาณเดือนธันวาคม ปี 56 ต่อมา เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 57 ขณะที่ลูกเรือ ส.นาฏยา 7 กำลังจับปลาในน่านน้ำอินโดนีเซีย ได้มีเรือลำเล็กขนาดประมาณ 40 ฟุต พร้อมคนในเรือ 4 คน แล่นเข้ามาเทียบข้างเรือ ส.นาฏยา 7
ซึ่งแต่ละคนสะพายอาวุธปืนอาก้าคนละกระบอกขึ้นมาบนเรือ ส.นาฏยา 7 เพื่อขอตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับการทำประมงในน่านน้ำอินโดนีเซีย ก่อนควบคุมคนบนเรือทั้งหมดเอาไว้ และสั่งให้ไต้ก๋งเรือ ส.นาฏยา 7 ขับเรือไปเกาะแสลมบาร์ ซึ่งในขณะนั้นลูกเรือทั้งหมดไม่มั่นใจว่าชายฉกรรจ์ที่บุกขึ้นมาเป็นทหารเรืออินโดนีเซียจริงหรือไม่
เนื่องจากเรือที่ใช้คล้ายเรือหาปลา และไม่ได้แต่งตัวเต็มยศเหมือนทหารเรืออินโดฯ ทั่วไป ไม่ใส่รองเท้า และขณะที่เรือแล่นเข้าเกาะแสลมบาร์ ไต้ก๋งเรือได้วางแผนสั่งให้ลูกเรือฆ่าทหารเรืออินโดนีเซียทั้ง 2 คน โดยลูกเรือทั้งหมดได้ร่วมกันจับล็อกคอใช้ค้อนทุบตี และใช้มีดแทง ก่อนโยนทิ้งลงทะเล โดยไม่มีใครรู้ว่าทหารเรือทั้ง 2 เสียชีวิตแล้วหรือไม่ หลังเกิดเหตุได้นำเรือ ส.นาฏยา 7 หลบหนีการจับกุมของทหารเรืออินโดนีเซีย จนเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 57 ไต้ก๋งพร้อมลูกเรือได้นำเรือเข้าจอดเทียบท่าบนท่าเรือของนายเฉลียว ทองมา ใน จ.สงขลา และต่อมาถูกตำรวจยึดเรือดังกล่าวไว้ตรวจสอบเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 57 หลังจากนั้นจึงได้สืบสวนสอบสวนจนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ในเบื้องต้น 3 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามจับกุม
ส่วนเรื่องที่ทางการอินโดนีเซียสั่งปิดน่านน้ำห้ามเรือประมงไทยเข้าไปทำการประมงนั้น นายเฮรู วิจักโซโน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สั่งยกเลิกการปิดน่านน้ำอินโดนีเซีย เนื่องจากคดียังไม่สิ้นสุด จึงอยากขอความร่วมมือให้ทางตำรวจไทยเร่งจับคนร้ายที่เหลืออีก 9 คน ให้ได้โดยเร็ว โดยเฉพาะ นายโอภาส เจริญพร ไต้ก๋งเรือ ที่สั่งฆ่าทหารเรืออินโดฯ 2 คน ตามที่ลูกเรือกล่าวอ้าง
สำหรับเรือประมงไทย ส.นาฏยา 7 เดิมชื่อเรือ สมุทรธรรม 5 เป็นเรือของ นายสมศักดิ์ เอกอุรุ และได้ขายต่อให้นายเฉลียว ทองมา ในราคา 2.2 ล้านบาท เมื่อปี 56 แต่ยังอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ และยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์
