ตรัง – ชาวตำบลนาตาล่วง และใกล้เคียงฮือฮาพบเรือชนิดมาดประทุน ขนาดยาวเกือบ 12 เมตร ซึ่งในอดีตใช้ในการขนส่งสินค้าเกษตรกรรมระหว่างตรัง-นครศรีธรรมราช จมอยู่กลางแม่น้ำ
วันนี้ (13 ก.พ.) นายณัฐพงษ์ เนียมสม นายกเทศมนตรีตำบลนาตาล่วง อำเภอเมืองตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลนาตาล่วง ได้เดินทางไปตรวจสอบซากเรือโบราณอายุนับร้อยปี ซึ่งโผล่ขึ้นมาริมฝั่งน้ำตรัง บริเวณวังขี้กลา หมู่ที่ 4 บ้านป่าหมาก ตำบลนาตาล่วง โดยพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังกระทำพิธีจุดธูปเทียนขอขมา และช่วยกันขุดซากเรือ ก่อนผูกเชือกเข้ากับลำเรือ แล้วใช้รถไถลากขึ้นมาอย่างทุลักทุเล นอกจากนั้น ภายในเรือยังพบมีดพร้าโบราณ ขนาดความยาว 50 ซม. วางอยู่ด้วย
นายอุดม ทองแก้ว อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองตรุด อำเภอเมืองตรัง ซึ่งเป็นชาวบ้านที่พบเรือโบราณลำดังกล่าว เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังวางกัดดักปลาอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำตรัง ปรากฏว่า กัดได้ไปเกี่ยวเข้ากับกิ่งไม้ เมื่อตนดำน้ำลงไปดูกลับพบว่าได้ไปเกี่ยวกับหัวเรือโบราณขนาดใหญ่ โดยหัวเรือกำลังจะโผล่พ้นน้ำในขณะที่ส่วนท้ายยังฝังอยู่ในทราย ตนจึงรีบโทร.แจ้งประสานไปยังนายกเทศมนตรีตำบลนาตาล่วง เพื่อให้นำเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบ และนำซากเรือโบราณขึ้นมาบนฝั่งในที่สุด
นายกเทศมนตรีตำบลนาตาล่วง กล่าวว่า เรือโบราณลำนี้เป็นเรือชนิดมาดประทุน อายุประมาณ 100 ปี ขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 11.50 เมตร และมีจำนวน 15 ตัวกง โดยทำจากต้นไม้ใหญ่ทั้งต้น และยังมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ในอดีตใช้ในการขนส่งสินค้าเกษตรกรรมระหว่างจังหวัดตรังกับจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงสั่งให้ขนย้ายเรือไปเก็บไว้ที่ศูนย์แสดงแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม หรือพิพิธภัณฑ์เขาสามบาตร ตั้งอยู่ในเขตวัดไพรสณฑ์ ตำบลนาตาล่วง เพื่อใช้ในการศึกษาค้นคว้าด้านประวัติศาสตร์โบราณต่อไป
ผู้สื่อข่าวจังหวัดตรังรายงานว่า เรือโบราณลำนี้น่าจะจมอยู่มานานหลายสิบปีแล้ว แต่ไม่มีใครเคยพบเห็น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในปีนี้แม่น้ำตรังเกิดสภาพแห้งแล้งอย่างหนัก ทำให้ระดับน้ำลดลง จึงกระทั่งทำให้มีผู้มาพบเข้าในที่สุด ทั้งนี้ หลังจากข่าวการพบเรือโบราณแพร่สะพัดออกไป ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลนาตาล่วง และใกล้เคียงรวมถึงบรรดาคอหวยทยอยกันเดินทางมามุงดูไม่ขาดสาย