ศูนย์ข่าวศรีราชา - พบกระเป๋าเอกสารนักท่องเที่ยวชาวไทยในซากเรือจมกลางอ่าว 3 ราย ตรวจสอบแล้วยังไม่รายงานตัว ด้านรองอธิบดีกรมเจ้าท่า สั่งเร่งกู้ซากเรือภายใน 2 วัน เพื่อหาสาเหตุเรือจม พร้อมกำชับคุมเข้มมาตรฐานความปลอดภัย
จากเหตุเรือโดยสารรับ-ส่งนักท่องเที่ยว เกาะล้านทราเวล 1 ของบริษัท เกาะล้านทราเวล จำกัด บรรทุกนักท่องเที่ยวกว่า 200 คน จากเกาะล้าน มุ่งหน้าแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา จมลงระหว่างหาดนวลกับท่าไร่ เกาะล้าน ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ห่างจากฝั่ง 1,500 เมตร เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิต 6 ศพ เหตุเกิดเวลา 17.30 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน
วันนี้ (5 พ.ย.) นายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า พร้อมคณะเดินทางมายังบริเวณศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจ ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าการค้นหาผู้เสียชีวิต ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานการตรวจพบศพเพิ่ม พบเพียงกระเป๋าเอกสารของนักท่องเที่ยวชาวไทย 3 ราย ประกอบด้วย น.ส.เกษร พรรณงาม น.ส.กันริมา มีบุญ และ น.ส.วชิรา เอกกัลต์เซ่น ภายในซากเรือที่จมอยู่กลางทะเล แต่นักท่องเที่ยวทั้ง 3 รายยังไม่มารายงานตัว ซึ่งจะได้ทำการตรวจสอบอีกครั้ง
ซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้นอกจากจะดูความคืบหน้าของการค้นหาแล้ว ยังตรวจสอบรูปแบบการประกอบกิจการของเรือโดยสารชนิดต่างๆ ว่า มีมาตรฐานตรงตามข้อกำหนดของรัฐหรือไม่ เช่น มาตรฐานเรือ นายท้ายเรือ เสื้อชูชีพ และการบรรทุก ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่ดำเนินการตามข้อกำหนด แต่ได้สั่งการให้เจ้าพนักงานทำการควบคุมและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
นายณัฐ กล่าวว่า บรรยากาศของการท่องเที่ยวทางทะเลบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ พบว่ายังคงคึกคัก ตั้งแต่ช่วงเช้ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศจำนวนมากเดินทางมาซื้อตั๋วโดยสารเพื่อขึ้นเรือไปท่องเที่ยวยังเกาะล้านตลอดทั้งวัน
ด้านนายจันตรี ทับแห ผู้ประกอบการเรือโดยสาร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นปกติ ปริมาณนักท่องเที่ยวไม่ลดลง เฉลี่ยวันละประมาณ 1 หมื่นคน คงเป็นเพราะยังคงมั่นใจความปลอดภัยทางทะเลของเมืองพัทยา ซึ่งมีระบบป้องกันเป็นอย่างดี ทั้งมาตรฐานคน มาตรฐานเรือ และอุปกรณ์กู้ภัย
