ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร 5 สงขลา เผยการสำรวจพื้นที่ข้อมูลนาร้างใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 1 แสนไร่ เลขาธิการ ศอ.บต.หนุนนำนาร้างมาทำเป็นนาข้าว ทำไร่นาสวนผสม เพื่อใช้ประโยชน์ และส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่
วันนี้ (12 ก.พ.) นายไพศาล โรจน์สราญรมย์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 จ.สงขลา เปิดเผยว่า มีการสำรวจพื้นที่ข้อมูลนาร้างใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า จ.ปัตตานี 42,318 ไร่ ยะลา 12,126 ไร่ นราธิวาส 16,040 ไร่ สงขลา 19,027 ไร่ และ จ.สตูล 7,036 ไร่ รวม 96,547 ไร่ แนวทางการส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่นาร้างมีแนวทางคือ การทำนาร้างให้เป็นนาข้าว การทำไร่นาสวนผสมต้นแบบในพื้นที่ 5-10 ไร่ การทำปาล์มน้ำมัน
“เน้นการจัดทำกิจกรรมโครงการให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ส่งเสริมการปลูกพืชประจำถิ่น/เอกลักษณ์ไปสู่ผลิตภัณฑ์ฮาลาล การมี Champion Product ของการแต่ละจังหวัด จะต้องเน้นประสิทธิภาพการผลิตที่ลดต้นทุน การพัฒนากลไกการตลาด การพัฒนาบรรจุภัณฑ์สู่ระบบฮาลาล การแปรรูปผลผลิต และการจัดกิจกรรม Road show” นายไพศาลกล่าว
นายไพศาล เปิดเผยว่า ตนเสนอแนวคิดว่าควรทำ Road Map พืชแต่ละตัวของแต่ละจังหวัด เช่น ปาล์มน้ำมัน การปลูกหัวไร่ปลายนา ซึ่งจะให้อัตราการออกดอกที่มีผลผลิตสูง การปลูกส้มปูโก/ทับทิมสยามของยะหริ่ง การส่งเสริมการเกษตร โดยสนับสนุน 3 ประเด็นหลัก คือ การเพิ่มประสิทธิภาพพืชประจำถิ่น และพืชเศรษฐกิจ เช่น ยางพารา ปาล์ม ไม้ผล รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรสถาบันการเกษตรด้วย
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.เปิดเผยว่า การสร้างประโยชน์จากพื้นที่รกร้างว่างเปล่า การทำอย่างไรให้ยางพาราสามารถแปรรูปได้ เกษตรกรจะต้องเป็นแม่ทัพหน้าของการแก้ไขปัญหานาร้าง ให้เกษตรกรกลับมาปลูกข้าวได้ เพราะเชื่อว่าตลาดข้าวไทยยังมีอนาคต และเป็นการทำให้ชาวนาสามารถยืนหยัดได้บนลำแข้งของตนเอง ทั้งนี้ เกษตรกรจะต้องมีช่องทางทางการค้าที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย
วันนี้ (12 ก.พ.) นายไพศาล โรจน์สราญรมย์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 จ.สงขลา เปิดเผยว่า มีการสำรวจพื้นที่ข้อมูลนาร้างใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า จ.ปัตตานี 42,318 ไร่ ยะลา 12,126 ไร่ นราธิวาส 16,040 ไร่ สงขลา 19,027 ไร่ และ จ.สตูล 7,036 ไร่ รวม 96,547 ไร่ แนวทางการส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่นาร้างมีแนวทางคือ การทำนาร้างให้เป็นนาข้าว การทำไร่นาสวนผสมต้นแบบในพื้นที่ 5-10 ไร่ การทำปาล์มน้ำมัน
“เน้นการจัดทำกิจกรรมโครงการให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ส่งเสริมการปลูกพืชประจำถิ่น/เอกลักษณ์ไปสู่ผลิตภัณฑ์ฮาลาล การมี Champion Product ของการแต่ละจังหวัด จะต้องเน้นประสิทธิภาพการผลิตที่ลดต้นทุน การพัฒนากลไกการตลาด การพัฒนาบรรจุภัณฑ์สู่ระบบฮาลาล การแปรรูปผลผลิต และการจัดกิจกรรม Road show” นายไพศาลกล่าว
นายไพศาล เปิดเผยว่า ตนเสนอแนวคิดว่าควรทำ Road Map พืชแต่ละตัวของแต่ละจังหวัด เช่น ปาล์มน้ำมัน การปลูกหัวไร่ปลายนา ซึ่งจะให้อัตราการออกดอกที่มีผลผลิตสูง การปลูกส้มปูโก/ทับทิมสยามของยะหริ่ง การส่งเสริมการเกษตร โดยสนับสนุน 3 ประเด็นหลัก คือ การเพิ่มประสิทธิภาพพืชประจำถิ่น และพืชเศรษฐกิจ เช่น ยางพารา ปาล์ม ไม้ผล รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรสถาบันการเกษตรด้วย
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.เปิดเผยว่า การสร้างประโยชน์จากพื้นที่รกร้างว่างเปล่า การทำอย่างไรให้ยางพาราสามารถแปรรูปได้ เกษตรกรจะต้องเป็นแม่ทัพหน้าของการแก้ไขปัญหานาร้าง ให้เกษตรกรกลับมาปลูกข้าวได้ เพราะเชื่อว่าตลาดข้าวไทยยังมีอนาคต และเป็นการทำให้ชาวนาสามารถยืนหยัดได้บนลำแข้งของตนเอง ทั้งนี้ เกษตรกรจะต้องมีช่องทางทางการค้าที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย
