เจ๋ง! รพ.วชิระภูเก็ตผ่าตัดผู้ป่วยลิ้นหัวใจสำเร็จเป็นรายแรกในภาคใต้อันดามัน

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต แถลงประสบความสำเร็จผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจขั้นรุนแรงให้แก่ผู้ป่วยเป็นรายแรกของโรงพยาบาลรัฐในภาคใต้ฝั่งอันดามัน ในโครงการ “ผ่าตัดหัวใจภายใต้เครื่องหัวใจและปอดเทียม” พร้อมเผยเตรียมผ่าตัดผู้ป่วยโรคหัวใจรายที่สอง ช่วงสิ้นเดือน ธ.ค.นี้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (30 ต.ค.) ที่ห้องประชุมลีลาวดี ตึกอำนวยการชั้น 2 โรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ต นายแพทย์เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ต พร้อมด้วยนายแพทย์นรา กิ่งแก้ว รองผู้อำนวยการฯ และนายแพทย์วิรุฬ นภาอัมพร ศัลยแพทย์ทรวงอก ร่วมแถลงข่าวความสำเร็จการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจขั้นรุนแรง (Severe mitral stenosis) ให้แก่ผู้ป่วยโรคหัวใจด้วยเครื่องหัวใจและปอดเทียม ครั้งแรกของจังหวัดฝั่งอันดามัน ภายใต้ โครงการ “ผ่าตัดหัวใจภายใต้เครื่องหัวใจและปอดเทียม” ซึ่งได้เนินการผ่าตัดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา โดย นพ.วิรุฬ นภาอัมพร ศัลยแพทย์ทรวงอกคนแรกของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ร่วมกับทีมแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราช ประกอบด้วย ศ.พญ.อังกาบ ปราการรัตน์ วิสัญญีแพทย์ ผศ.นพ.วรวงศ์ ศลิษฎ์อรรถกร และ อ.นพ.สุขสันต์ กนกศิลป์ ศัลยแพทย์ทรวงอก น.ส.ฐิติมา จำนงเลิศ พยาบาลส่งเครื่องมือผ่าตัด และนายประสิทธิ์ชัย อุดมพรไพบูลย์ ผู้ควบคุมเครื่องหัวใจและปอดเทียม

นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากผู้ป่วยโรคหัวใจที่รับการผ่าตัดดังกล่าว รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ตลอดจนสื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมจำนวนมาก

นายแพทย์วิรุฬ นภาอัมพร ศัลยแพทย์ทรวงอกฯ กล่าวว่า สำหรับการผ่าตัดดังกล่าวให้แก่ผู้ป่วยซึ่งเป็นโรคหัวใจตีบ ได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. เสร็จสิ้นเมื่อเวลา 13.30 น. โดยการผ่าตัดครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ผู้ป่วยไม่มีอาการแทรกซ้อนแต่อย่างใด หลังผ่าตัดผู้ป่วยนอนพักฟื้นที่ห้อง CCU ผู้ป่วยเริ่มรู้สึกตัว เวลา 15.30 น. มีอาการปวดแผลเล็กน้อย หัวใจและชีพจรเต้นเป็นปกติ ความดันและสัญญาณชีพทุกอย่างปกติ ท่างกลางการดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมพยาบาลห้อง CCU และรวมถึงตัวหมอเองด้วย ซึ่งได้อยู่เฝ้าไข้ตลอดเวลา ประมาณ 20.50 น.ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออก ผู้ป่วยหายใจได้เอง อาการทุกอย่างปกติดี ในวันนี้ผู้ป่วยแข็งแรงดี ปวดแผลผ่าตัดเล็กน้อย ซึ่งก็ได้มานั่งแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวด้วย และในวันที่ 23 ธันวาคม 2556 ที่จะถึงนี้ เราจะมีการผ่าตัดผู้ป่วยรายที่สอง ซึ่งป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว

นายแพทย์วิรุฬ กล่าวอีกว่า ในการที่จะส่งผู้ป่วยโรคหัวใจไปรักษายังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หรือส่งไปที่สุราษฎร์ธานี เป็นเรื่องยุ่งยาง และลำบากมาก ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการตั้งศูนย์โรคหัวใจ อาจจะเป็นที่จังหวัดภูเก็ต หรือในฝั่งทะเลอันดามัน

ขณะที่นายแพทย์เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ต กล่าวว่า เรามีโรงพยาบาล 6 แห่งทั่วประเทศที่ทำการผ่าตัดหัวใจ และในส่วนของภาคใต้ ในฝั่งอันดามัน เราเป็นที่แรก เป็นครั้งแรกของโรงพยาบาลรัฐบาลที่มีการผ่าตัดหัวใจ และจะมีครั้งต่อๆ ไปแน่นอน ซึ่งประมาณกลางปี 2557 การติดตั้งอุปกรณ์ห้องผ่าตัด รวมทั้งเครื่องมือฉีดสี บอลลูนหัวใจ สำหรับเส้นเลือดที่ตีบต้องได้เปิดใช้พร้อมๆ กัน ซึ่งจะได้ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องชาวภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง

“เราจะมีการปรับปรุงห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเป็นไฮบริด ใช้งบดำเนินการ ประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งเป็นห้องผ่าตัดที่ค่อนข้างจะทันสมัย เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างอายุรแพทย์ และทรวงอก แต่ถ้ามีเงินบริจาคเข้ามาเราอาจจะทำได้เร็วขึ้น” นายแพทย์เจษฎา กล่าวและว่า

อย่างไรก็ตาม สำหรับการผ่าตัดครั้งนี้ ในส่วนของเครื่องมือ และอุปกรณ์บางอย่างต้องเช่ามาจากบริษัทเครื่องมือแพทย์ โดยเฉพาะเครื่องหัวใจและปอดเทียม ราคาเครื่องละ 8-9 ล้านบาท ซึ่งต้องเช่ามาใช้ในการผ่าตัดครั้งนี้ เครื่องมือบางอย่างทางรัฐบาลก็จัดสรรงบให้บ้างแล้วแต่ยังขาดอยู่อีกบางรายการ ซึ่งทางโรงพยาบาลเองก็พยายามใช้งบจากเงินบำรุงบางส่วนมาใช้ แต่ก็มีความยินดีหากทางภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุน ซึ่งท่านผู้สนใจติดต่อโดยตรงได้ที่สำนักงานเลขาฝ่ายอำนวยการ เบอร์โทร.0-7636-1234 ต่อ 1113

นอกจากนี้ นายแพทย์วิรุฬ ยังได้กล่าวถึงภาพรวมของโรคหัวใจ ซึ่งมีหลายโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น โรคหลอดเลือดแดงหัวใจตีบ ซึ่งพบในผู้ที่มีอายุประมาณ 45 ปี ขึ้นไป อาการของโรคจะเหนื่อยง่าย หอบเหนื่อย เป็นต้น อย่างไรก็ตา มสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจมาจากหลายๆ สาเหตุ ดังนั้น ควรดูแลสุขภาพของตัวเอง ในผู้ที่สูบบุหรี่ก็ควรงดสูบบุหรี่ ลดอาหารมัน งดของทอด ออกกำลังกายต่อเนื่อง แต่ไม่ต้องหักโหม เน้นเป็นการจ๊อกกิ้งเบา วันละ 30 นาที ซึ่งการออกกำลังกายเบาๆ จะช่วยในเรื่องของการลดไขมันในร่างกาย กินอาหารจำพวกผัก ปลา ให้มากขึ้น ให้ใช้น้ำมันพืชเป็นหลักในการประกอบอาหาร และถ้าให้ดีการรับประทานปลา หรือเนื้อสัตว์ให้นึ่งดีกว่าทอด

ด้าน นายแพทย์นรา กิ่งแก้ว รองผู้อำนวยการฯ กล่าวเสริมด้วยว่า สำหรับการป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจตีบ มีพื้นฐานมาจากโรคในช่องปาก ดังนั้น ทุกท่านจะต้องให้ความสำคัญกับการดูแลช่องปากให้ดี อย่าปล่อยให้ฟันผุ รวมถึงการสูบบุหรี่ก็เป็นปัจจัยสำคัญของการเกิดโรคหัวใจ เพราะการสูบบุหรี่ จะไปทำให้เส้นเลือดที่เลี้ยงหัวใจตีบ ไปทำลายเส้นเลือดหัวใจ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการแถลงข่าว นายแพทย์เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และทีมงานร่วมรับมอบเงินบริจาคสบทมโครงการธนาคารน้ำนม จำนวน 400,000 บาท โครงการศูนย์หัวใจ จำนวน 100,000 บาท จัดซื้อเครื่องให้น้ำเกลือ 50,000 บาท และสนับสนุนให้แก่ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอีกจำนวน 50,000 บาท มอบโดย ม.ศ.5