แบล็คแคนยอนโหมแบรนด์ใหม่หลังทดลองตลาด เป็นปลื้มปั้น “คาเฟ่อินทีเรียร์” เจาะกลุ่มวัยรุ่นเสริมทัพ เผยปีนี้ทุ่มงบรวม 100 ล้านบาทเปิดทุกแบรนด์รวม 20 สาขา
นางกรรณิการ์ ชินประสิทธิ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารตราสินค้า บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านแบล็คแคนยอน เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้แตกแบรนด์ร้านใหม่เพิ่มอีกแบรนด์ชื่อ “คาเฟ่อินทีเรียร์ อินสไปร์ บาย แบล็คแคนยอน” ซึ่งเริ่มทดลองตลาดเมื่อปลายปีที่แล้ว ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี จึงทำให้เตรียมที่จะขยายสาขาโมเดลใหม่นี้เพิ่มอีกต่อเนื่อง เช่นเดียวกับแผนการขยายสาขรวมทุกแบรนด์ของบริษัทฯ โดยปีนี้เตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 100 กว่าล้านบาทเพื่อขยายเพิ่มอีก 20 สาขา ลงทุนสาขาละประมาณ 5 ล้านบาทโดยเฉลี่ย ซึ่งครึ่งปีแรกเปิดไปแล้วประมาณ 10 สาขา เช่นที่โรบินสันสกลนคร เซ็นทรัลอุบลราชธานี ปั๊ม ปตท.มุกดาหาร เป็นต้น ส่วนครึ่งปีหลังเตรียมเปิดที่เซ็นทรัลหาดใหญ่ เซ็นทรัลเชียงใหม่ โรบินสันสุราษฎร์ธานี สระบุรี สุรินทร์ เป็นต้น
การแตกแบรนด์ใหม่นี้เพื่อสร้างศักยภาพและการเติบโตทางธุรกิจ รวมทั้งเป็นการสร้างเซกเมนต์ใหม่ในการเจาะตลาดด้วย โดยคาเฟ่อินทีเรียร์นี้เป็นร้านกาแฟและอาหารแนวฟิวชั่น ทันสมัย ราคาสูงกว่าแบล็คแคนยอนเดิม 20-25% เมนูอาหารจะมีครีเอทีฟดีไซน์ เจาะลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น เป็นการกระจายฐานตลาด
เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารและร้านกาแฟแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรงอย่างมาก มีแบรนด์ใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก แบล็คแคนยอนในฐานะผู้นำตลาดจึงต้องปรับตัวเพราะอยู่เฉยไม่ได้ แต่ถือเป็นการดีทำให้ภาพรวมตลาดเติบโตดีขึ้น ปัจจุบันมีร้านทั้งหมด 250 สาขาในไทย และในต่างประเทศอีก 50 สาขาทั่วเอเชีย ยกเว้นเวียดนามกับบรูไน โดยโมเดลในไทย ประกอบด้วย แบล็คแคนยอนเดิม ร้านคาเฟ่เนโร บายแบล็คแคนยอนมี 7 สาขา คือที่ เอสพลานาดรัชดาภิเษก มาบุญครอง โรงแรมเกรซ ซอยนานา จังซีลอนภูเก็ต และในสนามบินสุวรรณภูมิอีก 3 สาขา ซึ่งมีแนวโน้มว่าสาขาที่อยู่นอกสนามบินจะปรับมาเป็นรูปแบบคาเฟ่อินทีเรียร์ทั้งนี้อยู่ที่ความเหมาสม ส่วนแบรนด์คาเฟ่อินทีเรียร์ขณะนี้มี 3 สาขา คือ เดอะวอล์ก เกษตร-นวมินทร์ ศูนย์การค้าพรอเมนาด รามอินทรา เฟสติวัลวอล์ก ถนนเกษตร-นวมินทร์ นอกนั้นเป็นร้านที่เปิดในปั๊มน้ำมันกว่า 50 สาขา และร้านไอศกรีมเจลาโตนีอีก 7 สาขา
“การมีร้านจำนวนสาขามาก และมีโมเดล โอกาสในการที่จะดึงลูกค้าก็มีมากขึ้น ลูกค้าก็จะรู้สึกว่าไม่ซ้ำซากจำเจ อีกทั้งฐานลูกค้าเป้าหมายก็แตกต่างกันด้วย ทำให้เราขยายได้กว้างขึ้นด้วย แต่ราคาก็แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่ได้มีการปรับราคาอาหารและเครื่องดื่มของแบล็คแคนยอนมานานกว่า 3 ปีแล้ว”
นางกรรณิการ์กล่าวด้วยว่า การทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลังต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น เพราะอาจจะมีปัจจัยหลายอย่างที่เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การเมือง หรือปัจจัยจากภายนอกประเทศ