ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กลุ่ม กวี นักเขียน สื่อมวลชน ร่วมแสดงจุดยืนต่อโครงการ “แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล” โดยเขียนเพื่อแสดงออกภายใต้คอนเซ็ปต์ “เดินด้วยรัก” สนับสนุนเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนา จ.สตูล กับกิจกรรม “เดินด้วยรัก...พิทักษ์สองฝั่งทะเล”
จากกรณีกลุ่มเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนา จ.สตูล ได้รวมกลุ่มกันเพื่อจัดกิจกรรม “เดินด้วยรัก...พิทักษ์สองฝั่งทะเล” เพื่อแสดงสัญลักษณ์ในการต่อต้านโครงการเมกะโปรเจกต์ แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล โดยการเดินเท้าจาก จ.สตูล สู่ จ.สงขลา ด้วยระยะทาง 220 กม. โดยเส้นทางที่เดินผ่านส่วนใหญ่จะเป็นจุดที่อยู่ในโครงการแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล ทั้งสิ้น เพื่อแจกจ่าย และให้ความรู้แก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ ได้มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่ม กวี นักเขียน สื่อมวลชน เพื่อร่วมกันแสดงท่าที และจุดยืนต่อโครงการ “แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล” โดยการร่วมกันเขียนเพื่อแสดงออก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เดินด้วยรัก” และมีนักเขียนต่างทยอยแสดงความคิดเห็น เช่น ธัช ธาดา กวี, นายทิวา กวีผู้เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ ปี 2553, จุฬาลักษณ์ ทองย้อย ครูสอนร้องเพลง, ดร.พิเชฐ แสงทอง กวี, โสพล โสภณอักษรเนียม อดีตนักสื่อสารมวลชน, ตุด นาคอน ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต, จิระนันท์ พิตรปรีชา กวี/นักเขียน และมนตรี ศรียงค์ กวีซีไรต์ปี 2550 เพื่อปลุกจิตสำนึก โดยแสดงพลังเคลื่อนไหวสะท้อนผ่านตัวอักษร
เดินด้วยรักฯ #9
.....
แม่และโลก
โลกให้กำเนิดผู้คนและสรรพสิ่ง เหมือนแม่ให้กำเนิดเรา
โลกให้อาหารและความรมย์รื่นแห่งชีวิต
เยี่ยงแม่ให้น้ำนมและอ้อมกอดแห่งรักอันอบอุ่น
โลกที่เสียสละและเอื้อให้ซึ่งความสอดคล้องสมดุล
เพื่อให้เราดำเนินชีวิตอย่างราบรื่นสร้างสรรค์
เหมือนที่แม่อุตสาหะและอดทน ให้ทุนรอนความหวังดี
ให้เราก้าวเดินไปตามเส้นทางที่เราปรารถนาใฝ่ฝัน
เหมือนที่โลกต้องทนทานต่อการถูกกระทำนานา
จากน้ำมือมนุษย์ ที่มีเป้าหมายเพื่อการกอบโกยมิรู้จักหยุดหย่อน
เยี่ยงเดียวกับที่เราเป็นเหตุให้แม่ปวดร้าวด้วยโรคร้ายรุมเร้า
ด้วยความเป็นบุตรธิดาธรรมดา เราต้องช่วยกันเยียวยา รักษา
เมื่อโลกอยู่ในภาวะวิกฤตเลวร้าย
ในฐานะบุตรและธิดาสามัญแห่งโลก
เรามิอาจกระทำซ้ำเติม หรือหลีกเลี่ยงละเลยที่จะต่อสู้และปกป้อง
เพื่อฟื้นฟูเรียกคืนให้โลกกลับสู่ ปกติภาวะนิรันดร์
ธัช ธาดา
กวี
เดินด้วยรักฯ # 10
......
“ปากบารา” ถึง “จะนะ” : ตอบด้วยหัวใจ
๏ เราจะมุ่งหน้าเดินสู่หนใด
ถ้าหัวใจทุกใจถูกยีย่ำ
ไปสู่หุบเหวที่มืดดำ
โดยการกระทำที่ย่ำยี
๏ ปลายทางหายนะคือพัฒนา ?
เสียงจาก “ปากบารา” ถามทุกที่
เสียงจาก “จะนะ” ถามชั่วดี
ต่อการกระทำนี้เพื่อตอบตน
๏ บ้านของเราเมืองของเราคนของเรา
ควรหรือปล่อยให้เขาเข้ามาปล้น
อำนาจที่แท้ประชาชน
ใช่อำนาจใครบางคนข่มขืนใคร
๏ บ้านของเราเมืองของเราคนของเรา
ใครก็ไม่มีสิทธิ์ยึดเอา, ใช่-ไม่ใช่ ?
จาก "ปากบารา" ถึง "จะนะ" เพื่ออะไร
เพื่อสนองตัณหาหรือไม่ ? ช่วยตอบที
๏ บ้านของเราเมืองของเราคนของเรา
สิทธิ์นี้ไม่ใช่ของเขาทุกพื้นที่
สิทธิ์นี้เป็นของเราเท่าที่มี
เพื่อไม่ให้ใครย่ำยีอย่างริยำ
๏ เราจะมุ่งหน้าเดินสู่หนใด
ตอบได้ด้วยใจทุกใจถูกยีย่ำ
ไม่ยินยอมสู่หุบเหวที่มืดดำ
และไม่ให้ใครกระทำเพื่อย่ำยี !.
นายทิวา
กวีผู้เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ ปี 2553
เดินด้วยรักฯ #11
....
“พายุครืนข่มคุกคาม
เดือนลับยามแผ่นดินมืดหม่น
ดาวศรัทธายังส่องแสงเบื้องบน
ปลุกหัวใจ...ปลุกคน...
อยู่มิวาย....
ขอเยาะเย้ย...ทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
คน...ยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย
แม้ผืนฟ้ามืดดับ...
เดือนลับละลาย
ดาวยังพรายศรัทธาเย้ยฟ้าดิน...”
อยากร้องเพลงนี้ขับกล่อมให้ทุกย่างก้าว...ชัดเจน...มั่นคง...
และด้วยเจตนาที่จะให้รู้ว่า...
คุณจะไม่เดียวดาย...ด้วยหัวใจที่เสรี
ขอพลังอยู่คู่คุณ
จุฬาลักษณ์ ทองย้อย
ครูสอนร้องเพลง
เจ้าของกิจการร้านเบเกอรี
เดินด้วยรักฯ #12
.....
แท้แล้วอุดมการณ์อยู่ในฝ่าเท้า
มันพาเราก้าวต่อไหนต่อไหน
มันพาเราดื่มซับกับใครใคร
เป็นทั้งปวงผู้ให้และได้รับ
เดิน เดิน เดิน เดิน เดิน เดิน เดิน เดิน
ไม่มีอะไรไกลเกินจะกู้กลับ
ย้อนทวนปัญหาคนอาภัพ
แห่งโลกยุคทุกข์ทับให้ท่วมทน
เม็ดพันธุ์เม็ดน้อยอยู่นอกร่อง
เคยรอท่วงทำนองของเม็ดฝน
จำนวนที่ไม่นับไม่จำนน
จักเปล่งเสียงอยู่บนสองข้างทาง
เพื่อเชื่อมโยงโมงยามความอาภัพ
เพื่อเพิ่มจำนวนนับให้ไกลกว้าง
ฉากกั้นอุดมการณ์เพียงบางบาง
กระชากมันแล้วก็ย่าง เดิน เดิน เดิน
ดร.พิเชฐ แสงทอง
กวี / กรรมการตัดสินรางวัลซีไรต์
อาจารย์มหาวิทยาลัย
เดินด้วยรักฯ # 13
....
อาจดูเหมือนคำใหญ่คำโตเกินไป
แต่เมื่อพิจารณาถึง ‘หัวใจ’
และเนื้อหาสาระของคณะเดินเท้าฯแล้ว
ถ้าผมขออนุญาตหยิบยืมถ้อยคำ
ของนีล อาร์มสตรอง
ที่พูดไว้เมื่อคราเหยียบเยือนดวงจันทร์ว่า
‘นี่คือก้าวเล็กๆ ของมนุษย์ (กลุ่มหนึ่ง)
แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ’
ก็ดูจะไม่ใช่สิ่งที่เกินเลยไปนักครับ
โสพล โสภณอักษรเนียม
อดีตนักสื่อสารมวลชน
เจ้าของร้านเหล้า
เดินด้วยรักฯ # 14
....
หัวใจในฝ่าเท้า
เราเดินมันนอน เรากินมันโกง
เราก้าวมันหยุด เราพูดมันนิ่ง
เรานั่งมันยืน เราตื่นมันหลับ
ปลุกมันให้ตื่น อย่าให้มันนอน
ดูก่อน ดูก่อน เราเดิน เราเดิน
ดูสิ ดูสิ ดูอยู่หรือเปล่า
ดูในฝ่าเท้า เรามีหัวใจ
ก้าวหนึ่งเพื่อลูก ก้าวสองเพื่อหลาน
อีกก้าวแสนนาน เพื่อเราทุกคน
ฟังเสียงฝ่าเท้า ก้าวบนถนน
ฝ่าแดดเดือดฝน ป้องปากบารา
ตุด นาคอน
ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต
เดินด้วยรักฯ # 15
....
แค่คิดจะยกเลิกเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา
เพื่อสร้างท่าเรือ ก็ไม่ไหวจะเคลียร์แล้วค่ะ !
จิระนันท์ พิตรปรีชา
กวี / นักเขียน / นักเคลื่อนไหวทางสังคม
เดินด้วยรักฯ #16
....
เดิน
เดินกันมาไกลเชียว พักสักเดี๋ยวก่อนค่อยไป
ฟังเพลงเย็นเย็นใจ ฟังกวีเย็นเย็นทรวง
ฟังว่าเวลานี้ ได้มีเสียงขึ้นถามทวง
ถึงสิทธิทั้งสิ้นปวง ที่จะมีชีวิตอยู่
สิทธิที่จะอยู่บ้าน และทำงานตามฤดู
เป็นมาเช่นย่าปู่ ฟังเสียงฟ้าและเสียงฝน
อ่านดินและอ่านน้ำ เพื่ออ่านในหัวใจตน
อ่านปลาแล้วอ่านคน เพื่อการร่วมอยู่รวมกัน
ว่าเขา - คนเหล่านี้ อยู่ร่วมมาแต่ปางบรรพ์
ว่ารักและผูกพัน อยู่แน่นแฟ้นกับแผ่นดิน
ให้เขาฟังเสียงปลา วันข้างหน้าได้หากิน
เป็นทรัพย์และเป็นสิน อยู่ในท้องทะเลหลวง
อ่านลมแต่ละวูบ แหงนอ่านดาวแต่ละดวง
อยู่ร่วมจนลับล่วง เพื่อส่งช่วงรุ่นต่อไป
ในน้ำให้มีปลา ในทะเลให้น้ำใส
ลูกหลานจึงเติบใหญ่ เพราะให้กินทีละคำ
ฟังว่าเวลานี้ มีอุตสาหกรรม
ผุดขึ้นทะมึนงำ แสยะยิ้มอยู่ไม่ไกล
มองลูกแล้วสะทก ครั้นมองหลานก็ตกใจ
เติบโตเจริญวัย อย่างไรหนอต่อแต่นี้ ?
สิทธิที่จะอยู่บ้าน ได้ทำงานไปตามมี
เป็นสุขและพอดี ยังมีสิทธิอีกไหมหนอ ?
หมายรัฐพัฒนา กลับสวนทางที่ร้องขอ
รถไฟจะหมุนล้อ บดขยี้ควันโขมง
สุดฟ้าอันดามัน ลากอ่าวไทยไปเชื่อมโยง
เปิดโลกอันโอ่โถง พัฒนาเชื่อมสากล
ผู้ที่เสียสละ ก็กลับเป็นประชาชน
เจ็บจุกเหมือนถูกปล้น ที่ทำงานบ้านทำกิน
มาเดินกันเถิดมา และตะโกนให้ได้ยิน
สินน้ำและทรัพย์ดิน คนท้องถิ่นจัดการเอง
เดินกับคุณศศิน ไปด้วยตีน - เดินด้วยใจ
มนตรี ศรียงค์
กวีซีไรต์ ปี พ.ศ.2550
ภาพประกอบจาก Facebook เดินด้วยรัก ปกป้องปากบาราจะนะ
จากกรณีกลุ่มเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนา จ.สตูล ได้รวมกลุ่มกันเพื่อจัดกิจกรรม “เดินด้วยรัก...พิทักษ์สองฝั่งทะเล” เพื่อแสดงสัญลักษณ์ในการต่อต้านโครงการเมกะโปรเจกต์ แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล โดยการเดินเท้าจาก จ.สตูล สู่ จ.สงขลา ด้วยระยะทาง 220 กม. โดยเส้นทางที่เดินผ่านส่วนใหญ่จะเป็นจุดที่อยู่ในโครงการแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล ทั้งสิ้น เพื่อแจกจ่าย และให้ความรู้แก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ ได้มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่ม กวี นักเขียน สื่อมวลชน เพื่อร่วมกันแสดงท่าที และจุดยืนต่อโครงการ “แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล” โดยการร่วมกันเขียนเพื่อแสดงออก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เดินด้วยรัก” และมีนักเขียนต่างทยอยแสดงความคิดเห็น เช่น ธัช ธาดา กวี, นายทิวา กวีผู้เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ ปี 2553, จุฬาลักษณ์ ทองย้อย ครูสอนร้องเพลง, ดร.พิเชฐ แสงทอง กวี, โสพล โสภณอักษรเนียม อดีตนักสื่อสารมวลชน, ตุด นาคอน ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต, จิระนันท์ พิตรปรีชา กวี/นักเขียน และมนตรี ศรียงค์ กวีซีไรต์ปี 2550 เพื่อปลุกจิตสำนึก โดยแสดงพลังเคลื่อนไหวสะท้อนผ่านตัวอักษร
เดินด้วยรักฯ #9
.....
แม่และโลก
โลกให้กำเนิดผู้คนและสรรพสิ่ง เหมือนแม่ให้กำเนิดเรา
โลกให้อาหารและความรมย์รื่นแห่งชีวิต
เยี่ยงแม่ให้น้ำนมและอ้อมกอดแห่งรักอันอบอุ่น
โลกที่เสียสละและเอื้อให้ซึ่งความสอดคล้องสมดุล
เพื่อให้เราดำเนินชีวิตอย่างราบรื่นสร้างสรรค์
เหมือนที่แม่อุตสาหะและอดทน ให้ทุนรอนความหวังดี
ให้เราก้าวเดินไปตามเส้นทางที่เราปรารถนาใฝ่ฝัน
เหมือนที่โลกต้องทนทานต่อการถูกกระทำนานา
จากน้ำมือมนุษย์ ที่มีเป้าหมายเพื่อการกอบโกยมิรู้จักหยุดหย่อน
เยี่ยงเดียวกับที่เราเป็นเหตุให้แม่ปวดร้าวด้วยโรคร้ายรุมเร้า
ด้วยความเป็นบุตรธิดาธรรมดา เราต้องช่วยกันเยียวยา รักษา
เมื่อโลกอยู่ในภาวะวิกฤตเลวร้าย
ในฐานะบุตรและธิดาสามัญแห่งโลก
เรามิอาจกระทำซ้ำเติม หรือหลีกเลี่ยงละเลยที่จะต่อสู้และปกป้อง
เพื่อฟื้นฟูเรียกคืนให้โลกกลับสู่ ปกติภาวะนิรันดร์
ธัช ธาดา
กวี
เดินด้วยรักฯ # 10
......
“ปากบารา” ถึง “จะนะ” : ตอบด้วยหัวใจ
๏ เราจะมุ่งหน้าเดินสู่หนใด
ถ้าหัวใจทุกใจถูกยีย่ำ
ไปสู่หุบเหวที่มืดดำ
โดยการกระทำที่ย่ำยี
๏ ปลายทางหายนะคือพัฒนา ?
เสียงจาก “ปากบารา” ถามทุกที่
เสียงจาก “จะนะ” ถามชั่วดี
ต่อการกระทำนี้เพื่อตอบตน
๏ บ้านของเราเมืองของเราคนของเรา
ควรหรือปล่อยให้เขาเข้ามาปล้น
อำนาจที่แท้ประชาชน
ใช่อำนาจใครบางคนข่มขืนใคร
๏ บ้านของเราเมืองของเราคนของเรา
ใครก็ไม่มีสิทธิ์ยึดเอา, ใช่-ไม่ใช่ ?
จาก "ปากบารา" ถึง "จะนะ" เพื่ออะไร
เพื่อสนองตัณหาหรือไม่ ? ช่วยตอบที
๏ บ้านของเราเมืองของเราคนของเรา
สิทธิ์นี้ไม่ใช่ของเขาทุกพื้นที่
สิทธิ์นี้เป็นของเราเท่าที่มี
เพื่อไม่ให้ใครย่ำยีอย่างริยำ
๏ เราจะมุ่งหน้าเดินสู่หนใด
ตอบได้ด้วยใจทุกใจถูกยีย่ำ
ไม่ยินยอมสู่หุบเหวที่มืดดำ
และไม่ให้ใครกระทำเพื่อย่ำยี !.
นายทิวา
กวีผู้เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ ปี 2553
เดินด้วยรักฯ #11
....
“พายุครืนข่มคุกคาม
เดือนลับยามแผ่นดินมืดหม่น
ดาวศรัทธายังส่องแสงเบื้องบน
ปลุกหัวใจ...ปลุกคน...
อยู่มิวาย....
ขอเยาะเย้ย...ทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
คน...ยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย
แม้ผืนฟ้ามืดดับ...
เดือนลับละลาย
ดาวยังพรายศรัทธาเย้ยฟ้าดิน...”
อยากร้องเพลงนี้ขับกล่อมให้ทุกย่างก้าว...ชัดเจน...มั่นคง...
และด้วยเจตนาที่จะให้รู้ว่า...
คุณจะไม่เดียวดาย...ด้วยหัวใจที่เสรี
ขอพลังอยู่คู่คุณ
จุฬาลักษณ์ ทองย้อย
ครูสอนร้องเพลง
เจ้าของกิจการร้านเบเกอรี
เดินด้วยรักฯ #12
.....
แท้แล้วอุดมการณ์อยู่ในฝ่าเท้า
มันพาเราก้าวต่อไหนต่อไหน
มันพาเราดื่มซับกับใครใคร
เป็นทั้งปวงผู้ให้และได้รับ
เดิน เดิน เดิน เดิน เดิน เดิน เดิน เดิน
ไม่มีอะไรไกลเกินจะกู้กลับ
ย้อนทวนปัญหาคนอาภัพ
แห่งโลกยุคทุกข์ทับให้ท่วมทน
เม็ดพันธุ์เม็ดน้อยอยู่นอกร่อง
เคยรอท่วงทำนองของเม็ดฝน
จำนวนที่ไม่นับไม่จำนน
จักเปล่งเสียงอยู่บนสองข้างทาง
เพื่อเชื่อมโยงโมงยามความอาภัพ
เพื่อเพิ่มจำนวนนับให้ไกลกว้าง
ฉากกั้นอุดมการณ์เพียงบางบาง
กระชากมันแล้วก็ย่าง เดิน เดิน เดิน
ดร.พิเชฐ แสงทอง
กวี / กรรมการตัดสินรางวัลซีไรต์
อาจารย์มหาวิทยาลัย
เดินด้วยรักฯ # 13
....
อาจดูเหมือนคำใหญ่คำโตเกินไป
แต่เมื่อพิจารณาถึง ‘หัวใจ’
และเนื้อหาสาระของคณะเดินเท้าฯแล้ว
ถ้าผมขออนุญาตหยิบยืมถ้อยคำ
ของนีล อาร์มสตรอง
ที่พูดไว้เมื่อคราเหยียบเยือนดวงจันทร์ว่า
‘นี่คือก้าวเล็กๆ ของมนุษย์ (กลุ่มหนึ่ง)
แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ’
ก็ดูจะไม่ใช่สิ่งที่เกินเลยไปนักครับ
โสพล โสภณอักษรเนียม
อดีตนักสื่อสารมวลชน
เจ้าของร้านเหล้า
เดินด้วยรักฯ # 14
....
หัวใจในฝ่าเท้า
เราเดินมันนอน เรากินมันโกง
เราก้าวมันหยุด เราพูดมันนิ่ง
เรานั่งมันยืน เราตื่นมันหลับ
ปลุกมันให้ตื่น อย่าให้มันนอน
ดูก่อน ดูก่อน เราเดิน เราเดิน
ดูสิ ดูสิ ดูอยู่หรือเปล่า
ดูในฝ่าเท้า เรามีหัวใจ
ก้าวหนึ่งเพื่อลูก ก้าวสองเพื่อหลาน
อีกก้าวแสนนาน เพื่อเราทุกคน
ฟังเสียงฝ่าเท้า ก้าวบนถนน
ฝ่าแดดเดือดฝน ป้องปากบารา
ตุด นาคอน
ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต
เดินด้วยรักฯ # 15
....
แค่คิดจะยกเลิกเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา
เพื่อสร้างท่าเรือ ก็ไม่ไหวจะเคลียร์แล้วค่ะ !
จิระนันท์ พิตรปรีชา
กวี / นักเขียน / นักเคลื่อนไหวทางสังคม
เดินด้วยรักฯ #16
....
เดิน
เดินกันมาไกลเชียว พักสักเดี๋ยวก่อนค่อยไป
ฟังเพลงเย็นเย็นใจ ฟังกวีเย็นเย็นทรวง
ฟังว่าเวลานี้ ได้มีเสียงขึ้นถามทวง
ถึงสิทธิทั้งสิ้นปวง ที่จะมีชีวิตอยู่
สิทธิที่จะอยู่บ้าน และทำงานตามฤดู
เป็นมาเช่นย่าปู่ ฟังเสียงฟ้าและเสียงฝน
อ่านดินและอ่านน้ำ เพื่ออ่านในหัวใจตน
อ่านปลาแล้วอ่านคน เพื่อการร่วมอยู่รวมกัน
ว่าเขา - คนเหล่านี้ อยู่ร่วมมาแต่ปางบรรพ์
ว่ารักและผูกพัน อยู่แน่นแฟ้นกับแผ่นดิน
ให้เขาฟังเสียงปลา วันข้างหน้าได้หากิน
เป็นทรัพย์และเป็นสิน อยู่ในท้องทะเลหลวง
อ่านลมแต่ละวูบ แหงนอ่านดาวแต่ละดวง
อยู่ร่วมจนลับล่วง เพื่อส่งช่วงรุ่นต่อไป
ในน้ำให้มีปลา ในทะเลให้น้ำใส
ลูกหลานจึงเติบใหญ่ เพราะให้กินทีละคำ
ฟังว่าเวลานี้ มีอุตสาหกรรม
ผุดขึ้นทะมึนงำ แสยะยิ้มอยู่ไม่ไกล
มองลูกแล้วสะทก ครั้นมองหลานก็ตกใจ
เติบโตเจริญวัย อย่างไรหนอต่อแต่นี้ ?
สิทธิที่จะอยู่บ้าน ได้ทำงานไปตามมี
เป็นสุขและพอดี ยังมีสิทธิอีกไหมหนอ ?
หมายรัฐพัฒนา กลับสวนทางที่ร้องขอ
รถไฟจะหมุนล้อ บดขยี้ควันโขมง
สุดฟ้าอันดามัน ลากอ่าวไทยไปเชื่อมโยง
เปิดโลกอันโอ่โถง พัฒนาเชื่อมสากล
ผู้ที่เสียสละ ก็กลับเป็นประชาชน
เจ็บจุกเหมือนถูกปล้น ที่ทำงานบ้านทำกิน
มาเดินกันเถิดมา และตะโกนให้ได้ยิน
สินน้ำและทรัพย์ดิน คนท้องถิ่นจัดการเอง
เดินกับคุณศศิน ไปด้วยตีน - เดินด้วยใจ
มนตรี ศรียงค์
กวีซีไรต์ ปี พ.ศ.2550
ภาพประกอบจาก Facebook เดินด้วยรัก ปกป้องปากบาราจะนะ