xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบนครศรีฯ ชุมนุมต่อเนื่องหลังปะทะเดือด! ส.ส.ประชาธิปัตย์ลั่น “ไม่ได้อยู่หลังม็อบ แต่อยู่ร่วมในม็อบ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 
นครศรีธรรมราช - กลุ่มเกษตรกรยังชุมนุมปิดถนนใน อ.ชะอวด ต่อเนื่อง สถานการณ์ยังตึงเครียด ปราศจากผู้ว่าฯ-ตร.คุมเหตุ มีรายงานว่า รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะมารับข้อร้องเรียนแต่ไม่ระบุเวลาที่แน่ชัด ขณะที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ ตร.คืนกล่องบริจาคพร้อมเงิน 20,000 บาท และเครื่องเสียงที่ยึดไปขณะเกิดการปะทะเมื่อวานนี้ ด้าน “วิทยา แก้วภราดัย” ลั่นไม่อยู่ได้หลังม็อบ แต่อยู่ร่วมในม็อบ

วันนี้ (24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราช ว่า บรรยากาศของการชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ กลุ่มเกษตรกรยังคงปักหลักปิดถนนอย่างต่อเนื่อง และยังคงมีความเคลื่อนไหวที่เป็นไปด้วยความตึงเครียด มีการนำเอาภาพการสลายการชุมนุมเมื่อวานที่ผ่านมา (23 ส.ค.) มาพิมพ์ลงแผ่นป้ายไวนิล ซึ่งยิ่งทำให้ผู้ชุมนุมมีความโกรธแค้น ส่วนการแก้ไขปัญหาในขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน

ในส่วนของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ถูกสั่งให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่จนหมด เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมแสดงความไม่พอใจ เช่นเดียวกับป้อมสายตรวจตำบลควนหนองหงส์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับที่ชุมนุม เจ้าหน้าที่ไม่สามารถประจำการอยู่ได้จากผลพวงของการสลายการชุมนุมเมื่อวานนี้

 
ส่วนการแก้ไขปัญหานั้น ได้มีการประสานงานว่า พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะเดินทางลงมารับข้อเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกร แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเดินทางมาถึงในเวลาใด

ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวไปวานนี้ จำนวน 8 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวชั่วคราวทั้งหมดแล้ว เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด และยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมเมื่อวานนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชะอวด อีก 1 ราย และทั้งหมดอาจถูกหมายเรียกตัวมาดำเนินคดีในภายหลัง

 
สำหรับบรรยากาศการชุมนุม จนถึงช่วงบ่ายยังคงเป็นไปอย่างตึงเครียดต่อเนื่อง ผู้ชุมนุมได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นนับพันคน และมีการปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร และการทอดทิ้งปัญหาราคายางพารา และปาล์มน้ำมันในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งการเข้าสลายการชุมนุมจนมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนวานนี้ พร้อมกันนั้น ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคืนเงินบริจาคในกล่องรับบริจาคที่ยึดไปวานนี้ จำนวนราว 20,000 บาท และเครื่องเสียงที่ยึดไปด้วย

และในช่วงบ่ายวันนี้ นายวิทยา แก้วภราดัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาที่คลินิกเกษมศักดิ์การพยาบาลและผดุงครรภ์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณแยกควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเยี่ยมผู้ชุมนุม 10 คน ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับตำรวจปราบจลาจลเมื่อวานนี้

จากนั้น นายวิทยา พร้อมด้วยนายอภิชาติ การิกาญจน์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ได้ขึ้นเวทีชุมนุมของเกษตรกร ปราศรัยให้กำลังใจผู้ชุมนุม เนื่องจากมีความเดือดร้อนจากผลลิตตกต่ำ พร้อมแจ้งมติที่ประชุมสมาพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ที่นัดชุมนุมใหญ่ปิดถนนในวันที่ 3 ก.ย. ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และอีกส่วนหนึ่งไปรวมตัวที่ทำเนียบรัฐบาล โดยระบุว่า การชุมนุมเป็นสิทธิของประชาชน ตนเองไม่ได้ชี้นำ และก่อนหน้านี้ได้เสนอปัญหาให้รัฐบาลรับทราบไปแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไข พร้อมกันนั้นได้ประกาศว่าพร้อมที่จะเลือกข้างอยู่กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ต้องรายงานไปว่านักการเมืองอยู่ข้างหลังผู้ชุมนุม แต่ให้บอกไปเลยว่าอยู่ภายในผู้ชุมนุมเลย จากนั้น นายวิทยา แก้วภราดัย และนายอภิชาต การิกาญจน์ เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลชะอวด

ขณะเดียวกัน การชุมนุมยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว โดยไม่มีท่าทีว่าจะยุติ ทั้งนี้ ในที่ชุมนุมไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นเป้าหมายของผู้ชุมนุม ขณะเดียวกัน ยังไม่มีการประสานงานใดๆ มาจากทางการเกี่ยวกับแก้ไขปัญหา

 
สำหรับ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้น ถือเป็นสิงห์แดงรุ่นน้องของนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษา อดีต รมช.มหาดไทย เคยทำงานที่ จ.ขอนแก่น ด้วยกัน ได้เลื่อนชั้นเรื่อยๆ ในยุคที่ นายเสริมศักดิ์ รุ่งเรือง ตอนที่มารับตำแหน่งผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช ใหม่ๆ นายอารีย์ ไกรนรา สมัยที่เป็นเป็นเลขาฯ มท.1 เดินทางกลับไปนครศรีธรรมราช พร้อมกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำคนเสื้อแดง นายวิโรจน์ ถึงกับเอารถประจำตำแหน่งไปรับ-ส่งถึงสนามบิน

ก่อนหน้านี้ เคยมีม็อบสวนยางปิดถนนที่ จ.นครศรีธรรมราช มาแล้ว ครั้งนั้น ผู้ว่าฯ พร้อมด้วยนายอารีย์ ได้เข้าเจรจากับม็อบ แต่ปรากฏว่า ไม่สามารถตกลงกันได้ ก่อนที่นายอารีย์ จะถูกผู้ร่วมชุมนุมกระโดดชกหน้าเป็นข่าวดังไปแล้วคราวนั้น จึงเชื่อกันว่าการใช้ตำรวจสลายม็อบชาวสวนยางนครฯ แบบไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน และจงใจใช้ความรุนแรงเมื่อวานนี้ แถมมีภาพกระทืบอก ฉุดกระชากลากจูง และเอาของแข็งกระทุ้งท้องชาวสวนยางที่เข้าร่วมชุมนุมขณะถูกควบคุมตัว โดยได้รับบาดเจ็บถึงขั้นต้องให้ตำรวจหิ้วปีกพยุงเดิน แต่ยังถูกชายชุดขาวเอาของแข็งกระทุ้งท้อง เรื่องนี้น่าจะเป็นการส่งสัญญาณให้เอาคืน ซึ่งมีผู้เสนอให้ตรวจสอบแล้วว่า ชายชุดขาวที่แท้แล้วคือ ตำรวจ หรือว่าคนของนักการเมือง

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าจากเหตุสลายม็อบชาวสวนยางเมื่อวานนี้ ชาวสวนยางได้มีการประสานขอกำลังชาวสวนยางจากจังหวัดใกล้เคียง ทั้งจากตรัง พัทลุง สุราษฎร์ธานี และชุมพร เป็นต้น ให้เข้าร่วมชุมนุมปิดถนนต่อด้วยแล้ว ซึ่งเป็นไปได้ที่การตัดสินใจใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมของผู้ว่าฯ นครฯ ครั้งนี้อาจจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้ก็เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อครั้งที่นายสุรชัย แซ่ด่าน นำผู้ร่วมชุมนุมบุกเผาจวนผู้ว่าฯ มาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ภายหลังเกิดเหตุสลายการชุมนุมของชาวสวนยางนครฯ โดยมีการเผยแพร่ภาพนิ่ง และคลิปวิดีโอต่างๆ มากมาย ทั้งจากสื่อหลายสำนัก ปรากฏว่าในโลกสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการกระหน่ำวิพากษ์วิจารณ์กันในเรื่องนี้ และที่สำคัญคือ มีการหยิบยกบทกวีของ “จิระนันท์ พิตรปรีชา” กวีซีไรต์ มาปลุกเร้าอารมณ์ด้วย ในบทที่ว่า

“ตั้งแต่กูรู้ความถามกูได้
ว่าคนใต้แต่รุ่นปู่สู้คนไหม
ถูกเขารุมข่มเหงเคยเกรงใคร
ไฟก็ไฟ เถอะจะจับดับด้วยมือ”
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น