ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือวางโครงข่ายเส้นทางคมนาคม เร่งแก้ปัญหาการจราจรของเมืองภูเก็ตที่กำลังจะวิกฤต เนื่องจากการจราจรคับคั่ง และมีแนวโน้มปริมาณรถเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการประชุมหารือเรื่องการพัฒนาเครือข่ายคมนาคม เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรของจังหวัดภูเก็ต ว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค.56 ที่ห้องรับรอง ศาลากลาง จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายสมัคร เลือดวงหัด ผู้อำนวยการแขวงการทางภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายไมตรี กล่าวว่า ปัจจุบันการจราจรของจังหวัดภูเก็ตมีปัญหาเป็นอย่างมาก ซึ่งทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ได้มีการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด โดยเฉพาะการตัดถนนเพิ่มเพื่อช่วยลดความแออัดของถนนเทพกระษัตรี ซึ่งปัจจุบันถือว่ามีการจราจรที่คับคั่งเป็นอย่างมาก และเป็นเส้นทางหลักเพียงเส้นทางเดียวที่ใช้ในการสัญจรจากสนามบินเข้ามาในตัวเมืองภูเก็ต และใช้สัญจรในการเดินทางไปต่างจังหวัด ประกอบกับปัจจุบันภูเก็ตมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้นในทุกๆปี ส่งผลให้ปริมาณรถเพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันทั้งแขวงการทางภูเก็ต และทางหลวงชนบทก็ได้มีการวางแผนในการตัดถนนเพิ่มและสร้างทางลอดตามจุดที่มีการจราจรแออัด เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาจราจรของจังหวัด ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ก็มีโครงการดำเนินการเตรียมสร้างถนนใต้แนวสายไฟฟ้าแรงสูง เพื่อแก้ปัญหาการจราจรของจังหวัดภูเก็ต โดยเลือกพื้นที่ใต้เสาไฟฟ้าแรงสูงบริเวณบ้านศรีสุนทร-หัวหาร ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร นำร่องดำเนินการเป็นลำดับแรก ซึ่งในวันนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จึงได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือในการสร้างข่ายคมนาคมของจังหวัดภูเก็ต โดยดึงทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือเพื่อให้ได้ทราบถึงแผนแม่บทของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการสร้างข่ายคมนาคม
นายไมตรี กล่าวอีกว่า จากข้อมูลสถิติของสำนักงานอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวง พบว่า ถนนสายหลักที่ใช้ในการเดินทางในจังหวัดภูเก็ต คือ ทางหลวงหมายเลข 402 ซึ่งมีจุดเริ่มต้นที่ตำบลโคกกลอย จังหวัดพังงา และไปสิ้นสุดที่อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต มีปริมาณจราจรตลอดเส้นทางค่อนข้างสูงมาก เนื่องจากต้องรองรับการเดินทางภายในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนปริมาณจราจรที่เกิดขึ้นจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต โดยในปี พ.ศ.2550 มีปริมาณจราจรบนช่วงทางประมาณ 38,421 คันต่อวัน ซึ่งช่วงที่มีปริมาณจราจรสูงสุดบนทางหลวง 402 มีปริมาณจราจรบนช่วงทางประมาณ 42,840 คันต่อวัน
ดังนั้น จังหวัดภูเก็ต จึงมีแนวคิดในการที่จะสร้างโครงข่ายทางหลวงเพิ่มขึ้นเพื่อเชื่อมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4026 (ถนนทางเข้าท่าอากาศยานภูเก็ต) กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 ตัดใหม่ (ถนนบายพาส) ระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร เป็นถนนคู่ขนานกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 (ถนนเทพกระษัตรี) เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจร และความเดือดร้อนของประชาชน และสนับสนุนให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจท่องเที่ยวโดยรวมของจังหวัด ซึ่งถนนดังกล่าว การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้รอนสิทธิไว้แล้ว ด้วยเหตุนี้ จังหวัดภูเก็ต จึงมีแนวคิดที่จะก่อสร้างถนนใต้สายไฟฟ้าแรงสูง อันนำไปสู่แนวทางแก้ไขปัญหาจราจรของจังหวัดภูเก็ตต่อไป
นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการประชุมหารือเรื่องการพัฒนาเครือข่ายคมนาคม เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรของจังหวัดภูเก็ต ว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค.56 ที่ห้องรับรอง ศาลากลาง จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายสมัคร เลือดวงหัด ผู้อำนวยการแขวงการทางภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายไมตรี กล่าวว่า ปัจจุบันการจราจรของจังหวัดภูเก็ตมีปัญหาเป็นอย่างมาก ซึ่งทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ได้มีการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด โดยเฉพาะการตัดถนนเพิ่มเพื่อช่วยลดความแออัดของถนนเทพกระษัตรี ซึ่งปัจจุบันถือว่ามีการจราจรที่คับคั่งเป็นอย่างมาก และเป็นเส้นทางหลักเพียงเส้นทางเดียวที่ใช้ในการสัญจรจากสนามบินเข้ามาในตัวเมืองภูเก็ต และใช้สัญจรในการเดินทางไปต่างจังหวัด ประกอบกับปัจจุบันภูเก็ตมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้นในทุกๆปี ส่งผลให้ปริมาณรถเพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันทั้งแขวงการทางภูเก็ต และทางหลวงชนบทก็ได้มีการวางแผนในการตัดถนนเพิ่มและสร้างทางลอดตามจุดที่มีการจราจรแออัด เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาจราจรของจังหวัด ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ก็มีโครงการดำเนินการเตรียมสร้างถนนใต้แนวสายไฟฟ้าแรงสูง เพื่อแก้ปัญหาการจราจรของจังหวัดภูเก็ต โดยเลือกพื้นที่ใต้เสาไฟฟ้าแรงสูงบริเวณบ้านศรีสุนทร-หัวหาร ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร นำร่องดำเนินการเป็นลำดับแรก ซึ่งในวันนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จึงได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือในการสร้างข่ายคมนาคมของจังหวัดภูเก็ต โดยดึงทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือเพื่อให้ได้ทราบถึงแผนแม่บทของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการสร้างข่ายคมนาคม
นายไมตรี กล่าวอีกว่า จากข้อมูลสถิติของสำนักงานอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวง พบว่า ถนนสายหลักที่ใช้ในการเดินทางในจังหวัดภูเก็ต คือ ทางหลวงหมายเลข 402 ซึ่งมีจุดเริ่มต้นที่ตำบลโคกกลอย จังหวัดพังงา และไปสิ้นสุดที่อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต มีปริมาณจราจรตลอดเส้นทางค่อนข้างสูงมาก เนื่องจากต้องรองรับการเดินทางภายในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนปริมาณจราจรที่เกิดขึ้นจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต โดยในปี พ.ศ.2550 มีปริมาณจราจรบนช่วงทางประมาณ 38,421 คันต่อวัน ซึ่งช่วงที่มีปริมาณจราจรสูงสุดบนทางหลวง 402 มีปริมาณจราจรบนช่วงทางประมาณ 42,840 คันต่อวัน
ดังนั้น จังหวัดภูเก็ต จึงมีแนวคิดในการที่จะสร้างโครงข่ายทางหลวงเพิ่มขึ้นเพื่อเชื่อมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4026 (ถนนทางเข้าท่าอากาศยานภูเก็ต) กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 ตัดใหม่ (ถนนบายพาส) ระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร เป็นถนนคู่ขนานกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 (ถนนเทพกระษัตรี) เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจร และความเดือดร้อนของประชาชน และสนับสนุนให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจท่องเที่ยวโดยรวมของจังหวัด ซึ่งถนนดังกล่าว การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้รอนสิทธิไว้แล้ว ด้วยเหตุนี้ จังหวัดภูเก็ต จึงมีแนวคิดที่จะก่อสร้างถนนใต้สายไฟฟ้าแรงสูง อันนำไปสู่แนวทางแก้ไขปัญหาจราจรของจังหวัดภูเก็ตต่อไป
