นครศรีธรรมราช - ผบ.ตร.ลงพื้นที่นครศรีธรรมราช ปิดห้องประชุมลับ ระบุการใช้แก๊สน้ำตายับยั้งฝูงชนไม่ถือเป็นการสลายการชุมนุม แต่เป็นการขอพื้นที่คืน ด้านผู้ว่าฯ ประกาศต่อเวลาห้ามเข้าที่ชุมนุมจนถึงเที่ยงวันพรุ่งนี้
เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (17 ก.ย.) ที่หน้าป้อมตำรวจบ้านตูล บ้านควนเงิน ม.2 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจเพื่อบอกทางเลี่ยงให้แก่ผู้ที่ขับรถหลีกกลุ่มชุมนุมประท้วงที่แยกควนหนองหงษ์ ต.ควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด และทำการตรวจป้องกันไม่ให้อาวุธ และสิ่งผิดกฎหมายเล็ดลอดเข้าไปในบริเวณผู้ชุมนุมประท้วง โดยมี พ.ต.ท.ราชศักดิ์ มณีฉาย เป็นหัวหน้าชุด
จากการตรวจสอบพบว่า มีรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน ทะเบียน บท 9333 นครศรีธรรมราช ขับผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบเครื่องแบบตำรวจอยู่ภายในรถ มีเสื้อตำรวจ 2 ตัว เสื้อสะท้อนแสง 6 ตัว ไม้กระบองไฟฟ้า 2 อัน ไม้กระบองไม้ 2 อัน และยังมีใบพืชกระท่อมอีก 1 ถุง เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และนำตัวคนขับคือ นายปรีชา ไสยฉิม อยู่บ้านเลขที่ 156/1 ม.7 ต.เกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
โดยนายปรีชา ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเป็นตำรวจอาสาอยู่ที่บ้านเกาะทวด ต.เกาะทวด อ.ปากพนัง ซึ่งได้ขับรถคันดังกล่าวเข้าไปสังเกตการณ์ที่มีการชุมนุประท้วงกันที่แยกควนหนองหงษ์ เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช สอบสวนดำเนินการ
และอีกหนึ่งรายเจ้าหน้าที่ได้เรียกตรวจ นายอุทัย ทองมาก อายุ 28 ปี อยู่ ต.นางหลง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ขับรถจักรยานยนต์ผ่านมา พบหนังสติ๊ก 1 อัน ลูกแก้ว 4 ลูก มีดปลายแหลมอีก 4 เล่ม และยังมีผ้าเหลืองที่การ์ดของผู้ชุมนุมประท้วงคาดหัว และปิดหน้า โดยนายอุทัย ระบุว่า ตนมาสังเกตการณ์ที่ชุมนุมประท้วงเช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงยึดสิ่งของไว้ก่อนจะปล่อยตัว นายอุทัย ให้กลับบ้านต่อไป
พ.ต.ท.ราชศักดิ์ มณีฉาย หัวหน้าชุดตรวจป้อมตำรวจบ้านตูล กล่าวว่า ได้รับคำสั่งให้ตั้งจุดตรวจสกัดตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อเฝ้าระวังดุแลความสงบรอบนอกพื้นที่ชุมนุมประท้วง ซึ่งหลังจากการตั้งจุดตรวจก็สามารถยึดหนังสติ๊ก น้ำส้มฆ่ายาง และจับกุมเครื่องแบบตำรวจได้อีกราย
และต่อมา เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เดินทางลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อติดตามสถานการณ์ในการชุมนุม โดยได้เรียกนายตำรวจระดับสูงทั้งหมดของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เข้าร่วมประชุม พร้อมกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเมื่อเข้าไปถึงห้องประชุมนั้นได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เชิญผู้สื่อข่าวออกนอกห้องประชุม เพื่อทำการประชุมลับกับผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
และหลังเสร็จภารกิจการประชุม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. จะเดินทางไปเยี่ยมตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการเข้าปฏิบัติหน้าที่ และเดินทางต่อไปเยี่ยมจุดตรวจที่แยกสวนผัก อ.ร่อนพิบูลย์ ที่คอยแจ้งผู้ใช้รถให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง หลังจากนั้น เดินทางไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ กก.ตชด.42 เพื่อขึ้นบินตรวจพื้นที่ชุมนุม
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ได้ให้แนวทางแก่ ตร.ภ.8 ให้มีการทบทวนการปฏิบัติ เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำหน้าที่ด้วยความอดทน การใช้แก๊สน้ำตาเป็นการใช้เพื่อระงับยับยั้งฝูงชน และจะได้ดำเนินการกันไปตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ต้องพยายามทุกวิถีทางในการแก้ไขปัญหา และไม่ได้ถือเป็นการสลายการชุมนุม แต่เป็นการขอพื้นที่คืน
ส่วนความเคลื่อนไหวของ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ออกประกาศบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2550 ห้ามบุคคลเข้าออกในพื้นที่ชุมนุม บังคับใช้ต่อไปอีก 24 ชม. ซึ่งจะครบในเวลา 12.00 น.ของวันพรุ่งนี้ โดยระบุเหตุผลว่า เป็นการป้องกันอันตรายแก่ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้เป็นการจำกัดสิทธิ