ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ศปอท.” ภูเก็ตเดินหน้าจัดการกลุ่มอิทธิพลแท็กซี่ป้ายดำ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่น เผยคุมคนคุมคิวแท็กซี่ดำเนินคดีแล้ว 2 ราย ขณะที่การจัดระเบียบนำแท็กซี่ป้ายดำเข้าสู่ระบบพบว่าขณะนี้มีผู้เข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้นเป็น 42% จากจำนวนแท็กซี่ป้ายดำทั้งหมด 2,882 คัน พร้อมจี้หน่วยงานเกี่ยวข้องเดินหน้าทำงานต่อเนื่อง
ที่ห้องประชุมศาลากลาง จังหวัดภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยว (ศปอท.) จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายประเทือง ศรขำ ผอ.ท่าอากาศยานภูเก็ต นางเยาวภา พิบูลย์ผล จัดหางานจังหวัดภูเก็ต นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิสุทธ์ ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ตัวแทนจากสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายจำเริญ กล่าวในการประชุมถึงผลการดำเนินงานของคณะทำงานป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต (ศปอท.) ว่า ในส่วนของการแก้ไขปัญหากลุ่มรถแท็กซี่ป้ายดำที่ให้บริการอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดภูเก็ตมีนโยบายที่จะนำรถแท็กซี่ป้ายดำเหล่านี้เข้าสู่ระบบให้ถูกต้อง โดยทางสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการจดทะเบียนรถแท็กซี่ป้ายดำที่มีจำนวนทั้งหมด 2,882 คัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการขึ้นทะเบียนไว้แล้ว 1,133 คัน และปัจจุบันรถแท็กซี่ป้ายดำได้เข้าสู่ระบบการจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 1,210 คัน ทำให้ขณะนี้รถแท็กซี่ป้ายดำเข้าสู่ระบบแล้ว 42% จากจำนวนทั้งสิ้น 2,882 คัน
ขณะที่การดำเนินงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า ขณะนี้ได้มีดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองปราบปราม และดำเนินการจับกุม นายป้อม สุขเกษม และนายเสริม สุขเกษม ซึ่งคุมคิวแท็กซี่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ในข้อหากรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำให้เสื่อมเสรีภาพ ไปแล้ว ซึ่งมีการควบคุมตัวไปแถลงข่าวที่กรุงเทพฯ ซึ่งหลังจากนี้ทาง DSI จะประสานไปที่สำนักงาน ปปง. ให้ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินตามกฎหมายฟอกเงินของผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 2 รายต่อไป
นายจำเริญ ยังได้กล่าวต่อไปถึงการดำเนินงานในส่วนของสำนักงานป้องกันจังหวัดภูเก็ต ในการเฝ้าระวังป้องกันและจัดการกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลแท็กซี่ป้ายดำในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันจังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตามคิวรถแท็กซี่ที่ถูกร้องเรียน สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ซึ่งจากการลงพื้นที่ทำให้ได้ข้อมูลเพื่อไปประกอบวางแผนการจัดระเบียบต่อไป ขณะที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด ได้ดำเนินการปรับปรุงฐานข้อมูลผู้จัดทะเบียนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และหากพบข้อมูลต้องสงสัย จะได้ประสาน DSI สนับสนุนการสืบสวนต่อไป ด้านสำนักงานจัดหางานจังหวัด มีการดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการออกตรวจแรงงานต่างด้าว และดำเนินการตามแผนแล้ว โดยออกตรวจทุกวันพุธ
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมยังได้มีการกำหนดแผนการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตด้วย โดยมอบหมายให้สำนักงานป้องกันจังหวัด ดำเนินการ ร่วมกับท้องถิ่น อำเภอ ตำรวจ ขนส่ง วางแผนกำหนดกรอบแนวคิด และแนวทางในการจัดระเบียบคิดรถแท็กซี่ให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยให้สร้างแนวปฏิบัติ กฎระเบียบ กติกา ข้อตกลงร่วมกันจากผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อนำไปสู่สร้างระบบการบริหารจัดการคิดรถแท็กซี่ให้มีมาตรฐาน ขณะที่สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ตดำเนินการเร่งรัดมาตรการให้รถแท็กซี่ที่ผิดกฎหมาย มาจดทะเบียนให้ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง และเร่งรัดออกแผนปฏิบัติการจัดประชุมหารือระหว่างคิวรถแท็กซี่ และผู้ประกอบการโรงแรม โดยให้เริ่มดำเนินการตามแผนภายในสัปดาห์หน้า
ในขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการมาตรการสืบสวน สอบสวน ปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และให้การสนับสนุนหน่วยงานฝ่ายปฏิบัติการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องที่ได้ประสานขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการแก้ไขปัญหา ส่วนการท่าอากาศยานภูเก็ต ให้ดำเนินการวางแผนร่วมกับป้องกันจังหวัด ในการออกตรวจ จับกุมรถแท็กซี่ผิดกฎหมายบริเวณอากาศยาน โดยสนธิกำลังร่วมกับตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต โดยดำเนินการในช่วงเดือนตุลาคมนี้
ที่ห้องประชุมศาลากลาง จังหวัดภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยว (ศปอท.) จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายประเทือง ศรขำ ผอ.ท่าอากาศยานภูเก็ต นางเยาวภา พิบูลย์ผล จัดหางานจังหวัดภูเก็ต นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิสุทธ์ ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ตัวแทนจากสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายจำเริญ กล่าวในการประชุมถึงผลการดำเนินงานของคณะทำงานป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต (ศปอท.) ว่า ในส่วนของการแก้ไขปัญหากลุ่มรถแท็กซี่ป้ายดำที่ให้บริการอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดภูเก็ตมีนโยบายที่จะนำรถแท็กซี่ป้ายดำเหล่านี้เข้าสู่ระบบให้ถูกต้อง โดยทางสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการจดทะเบียนรถแท็กซี่ป้ายดำที่มีจำนวนทั้งหมด 2,882 คัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการขึ้นทะเบียนไว้แล้ว 1,133 คัน และปัจจุบันรถแท็กซี่ป้ายดำได้เข้าสู่ระบบการจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 1,210 คัน ทำให้ขณะนี้รถแท็กซี่ป้ายดำเข้าสู่ระบบแล้ว 42% จากจำนวนทั้งสิ้น 2,882 คัน
ขณะที่การดำเนินงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า ขณะนี้ได้มีดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองปราบปราม และดำเนินการจับกุม นายป้อม สุขเกษม และนายเสริม สุขเกษม ซึ่งคุมคิวแท็กซี่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ในข้อหากรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำให้เสื่อมเสรีภาพ ไปแล้ว ซึ่งมีการควบคุมตัวไปแถลงข่าวที่กรุงเทพฯ ซึ่งหลังจากนี้ทาง DSI จะประสานไปที่สำนักงาน ปปง. ให้ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินตามกฎหมายฟอกเงินของผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 2 รายต่อไป
นายจำเริญ ยังได้กล่าวต่อไปถึงการดำเนินงานในส่วนของสำนักงานป้องกันจังหวัดภูเก็ต ในการเฝ้าระวังป้องกันและจัดการกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลแท็กซี่ป้ายดำในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันจังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตามคิวรถแท็กซี่ที่ถูกร้องเรียน สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ซึ่งจากการลงพื้นที่ทำให้ได้ข้อมูลเพื่อไปประกอบวางแผนการจัดระเบียบต่อไป ขณะที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด ได้ดำเนินการปรับปรุงฐานข้อมูลผู้จัดทะเบียนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และหากพบข้อมูลต้องสงสัย จะได้ประสาน DSI สนับสนุนการสืบสวนต่อไป ด้านสำนักงานจัดหางานจังหวัด มีการดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการออกตรวจแรงงานต่างด้าว และดำเนินการตามแผนแล้ว โดยออกตรวจทุกวันพุธ
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมยังได้มีการกำหนดแผนการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตด้วย โดยมอบหมายให้สำนักงานป้องกันจังหวัด ดำเนินการ ร่วมกับท้องถิ่น อำเภอ ตำรวจ ขนส่ง วางแผนกำหนดกรอบแนวคิด และแนวทางในการจัดระเบียบคิดรถแท็กซี่ให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยให้สร้างแนวปฏิบัติ กฎระเบียบ กติกา ข้อตกลงร่วมกันจากผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อนำไปสู่สร้างระบบการบริหารจัดการคิดรถแท็กซี่ให้มีมาตรฐาน ขณะที่สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ตดำเนินการเร่งรัดมาตรการให้รถแท็กซี่ที่ผิดกฎหมาย มาจดทะเบียนให้ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง และเร่งรัดออกแผนปฏิบัติการจัดประชุมหารือระหว่างคิวรถแท็กซี่ และผู้ประกอบการโรงแรม โดยให้เริ่มดำเนินการตามแผนภายในสัปดาห์หน้า
ในขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการมาตรการสืบสวน สอบสวน ปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และให้การสนับสนุนหน่วยงานฝ่ายปฏิบัติการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องที่ได้ประสานขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการแก้ไขปัญหา ส่วนการท่าอากาศยานภูเก็ต ให้ดำเนินการวางแผนร่วมกับป้องกันจังหวัด ในการออกตรวจ จับกุมรถแท็กซี่ผิดกฎหมายบริเวณอากาศยาน โดยสนธิกำลังร่วมกับตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต โดยดำเนินการในช่วงเดือนตุลาคมนี้