ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศปอท.ภูเก็ต เผยผลตั้งด่านเรียกตรวจรถแท็กซี่ในห้วง 10-29 ส.ค.ที่ผ่านมา จับแท็กซี่ป้ายดำ 434 คัน ในข้อหาใช้รถผิดประเภท เตรียมสอบปากคำเชื่อมโยงไปยังบุคคลผู้อยู่เบื้องหลัง เพื่อหามูลเหตุการทำผิดกฎหมายต่อไป
นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติร่วมเพื่อป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยวหรือ ศปอท.ขึ้นที่ท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อแก้ไขปัญหารถรับจ้าง (แท็กซี่) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เป็นคนไทย และปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นชาวต่างชาติที่ว่าจ้างคนไทยให้เป็นตัวแทนถือครองหลักทรัพย์ (นอมินี) ซึ่งทาง พ.ต.ท.สมบูรณ์ สารสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เข้าพบ และรายงานผลการปฏิบัติงานของ ศปอท.ในห้วงระหว่างวันที่ 10-29 สิงหาคม ที่ผ่านมาว่า จากการที่ได้ร่วมกับขนส่งจังหวัดภูเก็ต และชุดตรวจการเคลื่อนที่ กรมขนส่งทางบก ตั้งจุดตรวจตามพื้นที่ต่างๆ ของ จ.ภูเก็ต จำนวน 6 จุด เช่น ท่าอากาศยานภูเก็ต จุดตรวจทุ่งทอง เป็นต้น ปรากฏว่า สามารถจับกุมรถแท็กซี่ป้ายดำได้จำนวน 434 คัน ในข้อหาใช้รถผิดประเภท
นอกจากรายงานผลการปฏิบัติงานแล้ว ยังได้รายงานถึงแนวทางในการทำงานในห้วงต่อไป ซึ่งจะมีการเรียกตัวผู้ขับรถแท็กซี่ป้ายดำที่ถูกจับกุมดังกล่าวมาสอบปากคำ เพื่อเชื่อมโยงไปยังบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร หลังจากนั้น ก็จะได้มีการสรุปข้อมูลเพื่อหามูลเหตุของการทำผิดกฎหมายต่อไป
นายไมตรี ยังได้กล่าวในส่วนของการบังคับใช้กฎหมายทั่วไปด้วยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดภูเก็ต โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ก็พยายามดำเนินการในส่วนของการจัดระเบียบรถแท็กซี่ป้ายดำให้เข้าสู่ระบบ โดยให้มีการมาขึ้นทะเบียนเพื่อขอปรับเปลี่ยนจากป้ายดำเป็นป้ายเขียว ซึ่งได้มีการมาขึ้นทะเบียนไว้ จำนวน 2,882 คัน สามารถขึ้นทะเบียนป้ายเขียวได้แล้ว 1,133 คัน ส่วนที่เหลือที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากยังติดขัดในเรื่องของไฟแนนซ์ เนื่องจากต้องใช้เงินทุนในการดำเนินการค่อนข้างสูง
โดยทางจังหวัดก็ได้เข้าไปช่วยเหลือด้วยการจัดหาแหล่งทุนให้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการดำเนินการแล้วในส่วนของสหกรณ์รถแท็กซี่กะรน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทางธนาคารออมสิน ส่วนที่เหลือที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความไม่พร้อมของเจ้าของรถเอง ส่วนกรณีของรถลิมูซีนที่สนามบินภูเก็ต 2 บริษัท ซึ่งขณะนี้สิ้นสุดการสัมปทานแล้ว และทางการท่าฯ อยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบการให้เข้าบริการ โดยได้เสนอไปว่า ขอให้ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดกติกาด้วย ขณะเดียวกัน ก็จะต้องมีการทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการรถลิมูซีนควบคู่กันไปด้วย