นราธิวาส - ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้แห่เติมน้ำมันเถื่อน จนปั๊มในพื้นที่แทบจะกลายเป็นปั๊มร้าง ด้านผู้ประกอบการร้องภาครัฐเร่งหามาตรการช่วยเหลือ
วันนี้ (2 ก.ย.) หลัง ปตท.และบางจาก ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ 60 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้นแก๊สโซฮอล์ อี85 ที่ปรับขึ้น 40 สตางค์ต่อลิตร ทำให้ราคาเบนซิน95 หน้าปั๊มอยู่ที่ 47.45 บาทต่อลิตร และแก๊สโซฮอล์95 ราคา 39.93 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์91 อยู่ที่ 37.48 บาทต่อลิตร และแก๊สโซฮอล์ อี20 อยู่ที่ 34.98 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ อี85 อยู่ที่ 23.58 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลคงราคาเดิมที่ 29.99 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ปั๊มน้ำมันในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ต้องประสบภาวะซบเซาต่อเนื่องจนแทบกลายเป็นปั๊มร้าง
นายชัยณรงค์ อภิบาลธนกิจ ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมัน บริษัททีซีเอสออยด์คอนสตรัคชั่น จำกัด อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ผู้แทนจำหน่ายน้ำมันของ ปตท. กล่าวว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ทั้งที่ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ต่างเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเบนซิน และดีเซลที่ลักลอบขนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจำหน่ายอย่างเสรีเกลื่อนพื้นที่ ทั้งในย่านชุมชน และริมถนนเป็นการถาวร ขณะที่ลูกค้าที่เพิ่งออกรถใหม่ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กล้าเสี่ยงก็ต้องเปลี่ยนไปเติมน้ำมันเถื่อนเพราะแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว มีเพียงส่วนราชการ และองค์กรของรัฐที่ยังมาใช้บริการเนื่องจากต้องมีใบเสร็จในการเบิกจ่ายตามระเบียบราชการ จนทำให้ไม่มีรายได้ที่เข้ามาหมุนเวียนให้เกิดสภาพคล่อง
อีกทั้งเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ก็ส่งผลให้ธนาคารของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อในทุกกรณีโดยอ้างว่าเป็นการลงทุนที่เสี่ยง ขณะที่บริษัทแม่ก็พยายามให้มีการปรับปรุงปั๊มน้ำมันให้มีรูปลักษณ์สวยงาม มีความสะดวกสบายเช่นเดียวกับปั๊มน้ำมันที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง ทั้งที่รายได้จากการขายน้ำมันหายไปมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
จึงอยากเรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ หรือหามาตรการในการแก้ปัญหาเพื่อเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเสนอขอให้รัฐบาลเข้ามาสนับสนุนปั๊มน้ำมันที่อยู่ในรัศมี 20-30 กิโลเมตรจากชายแดน โดยจ่ายส่วนต่างที่ปัจจุบัน น้ำมันเบนซินของไทย ราคาลิตรละประมาณ 47 บาท น้ำมันเบนซิน จากประเทศมาเลเซียที่จำหน่ายภายในประเทศ ลิตรละ 18 บาท และเมื่อลักลอบเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย อยู่ที่ลิตรละ 25 บาท ก็ขอให้ปั๊มน้ำมันที่อยู่ในรัศมีที่กำหนดได้จำหน่ายในราคาที่ใกล้เคียงกัน ประมาณ 30 บาทต่อลิตร
เพื่อจูงใจให้คนไทยหันมาใช้น้ำมันถูกกฎหมาย หรืองดเว้นภาษีให้แก่ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันในพื้นที่ เพราะผลประกอบการในขณะนี้ทำได้เพียงพยุงตัว และดูแลลูกจ้างเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบตามไปด้วย จึงขอความเห็นใจว่าการต้องบริหารจัดการภายใต้ข้อจำกัดทั้งการตลาดที่ไม่สามารถจำหน่ายในราคาที่แข่งขันกับน้ำมันเถื่อนได้ รวมถึงภัยจากการก่อการร้ายในพื้นที่กระทบต่อขวัญกำลังใจของผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันในพื้นที่อำเภอชายแดนเป็นอย่างมาก
ขอวิงวอนไปถึงรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้ามาดูแลอย่างเร่งด่วนด้วย โดยเฉพาะการปล่อยเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ปั๊มน้ำมันในพื้นที่อำเภอชายแดน เพราะหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้โดยไม่มีหน่วยงานใดยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ อีกไม่นานเชื่อว่าปั๊มน้ำมันในพื้นที่อำเภอชายแดนอาจจำเป็นต้องปิดตัวลงทั้งหมด เพราะแบกรับค่าใช้จ่าย และความเสี่ยงไม่ไหว ซึ่งจะกระทบทั้งผู้ประกอบการ และลูกจ้างที่ต้องตกงาน รวมไปถึงอาจกระทบกับภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวเพราะเมื่อผู้ประกอบการทยอยปิดกิจการ ก็อาจทำให้นักลงทุนรายอื่นจากทั้งใน และต่างประเทศไม่กล้ามาลงทุนในพื้นที่ ซึ่งสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการค้าการลงทุนเพื่อรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ปี 2558
วันนี้ (2 ก.ย.) หลัง ปตท.และบางจาก ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ 60 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้นแก๊สโซฮอล์ อี85 ที่ปรับขึ้น 40 สตางค์ต่อลิตร ทำให้ราคาเบนซิน95 หน้าปั๊มอยู่ที่ 47.45 บาทต่อลิตร และแก๊สโซฮอล์95 ราคา 39.93 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์91 อยู่ที่ 37.48 บาทต่อลิตร และแก๊สโซฮอล์ อี20 อยู่ที่ 34.98 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ อี85 อยู่ที่ 23.58 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลคงราคาเดิมที่ 29.99 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ปั๊มน้ำมันในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ต้องประสบภาวะซบเซาต่อเนื่องจนแทบกลายเป็นปั๊มร้าง
นายชัยณรงค์ อภิบาลธนกิจ ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมัน บริษัททีซีเอสออยด์คอนสตรัคชั่น จำกัด อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ผู้แทนจำหน่ายน้ำมันของ ปตท. กล่าวว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ทั้งที่ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ต่างเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเบนซิน และดีเซลที่ลักลอบขนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจำหน่ายอย่างเสรีเกลื่อนพื้นที่ ทั้งในย่านชุมชน และริมถนนเป็นการถาวร ขณะที่ลูกค้าที่เพิ่งออกรถใหม่ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กล้าเสี่ยงก็ต้องเปลี่ยนไปเติมน้ำมันเถื่อนเพราะแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว มีเพียงส่วนราชการ และองค์กรของรัฐที่ยังมาใช้บริการเนื่องจากต้องมีใบเสร็จในการเบิกจ่ายตามระเบียบราชการ จนทำให้ไม่มีรายได้ที่เข้ามาหมุนเวียนให้เกิดสภาพคล่อง
อีกทั้งเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ก็ส่งผลให้ธนาคารของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อในทุกกรณีโดยอ้างว่าเป็นการลงทุนที่เสี่ยง ขณะที่บริษัทแม่ก็พยายามให้มีการปรับปรุงปั๊มน้ำมันให้มีรูปลักษณ์สวยงาม มีความสะดวกสบายเช่นเดียวกับปั๊มน้ำมันที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง ทั้งที่รายได้จากการขายน้ำมันหายไปมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
จึงอยากเรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ หรือหามาตรการในการแก้ปัญหาเพื่อเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเสนอขอให้รัฐบาลเข้ามาสนับสนุนปั๊มน้ำมันที่อยู่ในรัศมี 20-30 กิโลเมตรจากชายแดน โดยจ่ายส่วนต่างที่ปัจจุบัน น้ำมันเบนซินของไทย ราคาลิตรละประมาณ 47 บาท น้ำมันเบนซิน จากประเทศมาเลเซียที่จำหน่ายภายในประเทศ ลิตรละ 18 บาท และเมื่อลักลอบเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย อยู่ที่ลิตรละ 25 บาท ก็ขอให้ปั๊มน้ำมันที่อยู่ในรัศมีที่กำหนดได้จำหน่ายในราคาที่ใกล้เคียงกัน ประมาณ 30 บาทต่อลิตร
เพื่อจูงใจให้คนไทยหันมาใช้น้ำมันถูกกฎหมาย หรืองดเว้นภาษีให้แก่ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันในพื้นที่ เพราะผลประกอบการในขณะนี้ทำได้เพียงพยุงตัว และดูแลลูกจ้างเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบตามไปด้วย จึงขอความเห็นใจว่าการต้องบริหารจัดการภายใต้ข้อจำกัดทั้งการตลาดที่ไม่สามารถจำหน่ายในราคาที่แข่งขันกับน้ำมันเถื่อนได้ รวมถึงภัยจากการก่อการร้ายในพื้นที่กระทบต่อขวัญกำลังใจของผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันในพื้นที่อำเภอชายแดนเป็นอย่างมาก
ขอวิงวอนไปถึงรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้ามาดูแลอย่างเร่งด่วนด้วย โดยเฉพาะการปล่อยเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ปั๊มน้ำมันในพื้นที่อำเภอชายแดน เพราะหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้โดยไม่มีหน่วยงานใดยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ อีกไม่นานเชื่อว่าปั๊มน้ำมันในพื้นที่อำเภอชายแดนอาจจำเป็นต้องปิดตัวลงทั้งหมด เพราะแบกรับค่าใช้จ่าย และความเสี่ยงไม่ไหว ซึ่งจะกระทบทั้งผู้ประกอบการ และลูกจ้างที่ต้องตกงาน รวมไปถึงอาจกระทบกับภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวเพราะเมื่อผู้ประกอบการทยอยปิดกิจการ ก็อาจทำให้นักลงทุนรายอื่นจากทั้งใน และต่างประเทศไม่กล้ามาลงทุนในพื้นที่ ซึ่งสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการค้าการลงทุนเพื่อรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ปี 2558
