xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าของร้านค้าสนามบินภูเก็ตแจ้งจับอธิบดีดีเอสไอหมิ่นประมาท ใส่ร้ายเป็นมาเฟีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายธรรมวัฒน์ วงเจริญยุทธ์ และนายศิวะ เสียงหย่อง ผู้ที่ถูกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ.ระบุว่าเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังรถแท็กซี่ป้ายดำ


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ประกอบการ้านค้าในสนามบินภูเก็ต 2 ราย ที่ถูกอธิบดีดีเอสไอระบุเป็นมาเฟียอยู่เบื้องหลังแท็กซี่ป้ายดำแจ้งความดำเนินคดีต่อ ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสียชื่อเสียง เผยไม่มีรถแท็กซี่ป้ายดำแม้แค่คันเดียว โอดถูกกลั่นแกล้งทำให้เสียชื่อเสียงหลังเป็นแกนนำเรียกร้องเรื่องต่อสัญญาร้านค้ากับท่าอากาศยานภูเก็ต เรียกร้องดีเอสไดชี้แจงข้อมูลที่เท็จจริง และตรวจสอบก่อน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (10 ส.ค.) ที่ สภ.เมืองภูเก็ต นายธรรมวัฒน์ วงเจริญยุทธ์ และนายศิวะ เสียงหย่อง ผู้ที่ถูกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอระบุว่าเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังรถแท็กซี่ป้ายดำ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสวบสวนคดีพิเศษ ที่สภ.เมืองภูเก็ต ในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสียชื่อเสียง ต่อ ร.ต.ท.ไกรสร ภาคอารีย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต

นายธรรมวัฒน์ วงเจริญยุทธ์ กล่าวว่า ที่มาแจ้งความดำเนินคดีต่ออธิบดีดีเอสไอในครั้งนี้ เนื่องจากตนได้รับความเสียหายจากกรณีที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอได้เปิดเผยรายชื่อของตนว่าเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังรถแท็กซี่ป้ายดำผ่านสื่อมวลชนกระจายข่าวไปทั่วประเทศ และทั่วโลกเมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง รถแท็กซี่ป้ายดำในสนามบินก็ไม่มีสักคัน ดีเอสไอกล่าวหาตนโดยไม่ได้กลั่นกรองข้อมูลที่แท้จริง ข่าวที่เกิดขึ้นทำให้ตน และครอบครัวไม่สบายใจ และจะยืนอยู่ในสังคมภูเก็ตได้อย่างไร เพราะตนเป็นคนหนึ่งที่ทำกิจกรรมด้านสังคมในภูเก็ตมาโดยตลอด ซึ่งเรื่องนี้จะดำเนินคดีต่อดีเอสไอให้ถึงที่สุด

นายธรรมวัฒน์ กล่าวอีกว่า การประกาศรายชื่อว่าตนเป็นผู้มีอิทธิพลนั้น เป็นเรื่องที่ถูกกลั่นแกล้งให้เสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมา ตนซึ่งเป็นประธานชมรมผู้ประกอบการร้านค้าในท่าอากาศยานภูเก็ตได้ออกมาต่อสู้เรียกร้องในเรื่องการทำสัญญากับท่าอากาศยานภูเก็ตมาโดยตลอด จนทำให้ทางการท่าฯ ไม่ต่อสัญญาร้านค้าให้แก่ตนเพียงรายเดียวจากผู้ประกอบการที่มีเป็นร้อยๆ ราย ทำให้ขณะนี้ตนไม่มีร้านค้าในท่าอากาศยานภูเก็ตเลยแม้แต่ร้านเดียวภายหลังสิ้นสุดสัญญาเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา จากเดิมที่ตนเป็นผู้ประกอบการในท่าฯ ภูเก็ต มานานกว่า 10 ปี มีบูทให้บริการด้านการท่องเที่ยว จองห้องพัก ถ่ายภาพทำวีซ่า

“อยากให้ดีเอสไอออกมาแถลงข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบ ว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับมาเฟียแท็กซี่ป้ายดำในภูเก็ต ไม่มีรถแท็กซี่สักคันในสนามบินภูเก็ต และในวันที่ 13 ส.ค.นี้ ตนจะไปยื่นหนังสือ และชี้แจงข้อเท็จจริงต่อทางดีเอสไอ” นายธรรมวัฒน์ กล่าวในที่สุด

ด้านนายศิวะ เสียงหย่อง หนึ่งในผู้ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังแท็กซี่ป้ายดำ กล่าวว่า พอรู้ข่าวว่าตัวเองถูกระบุอยู่ในกลุ่ม 11 คน ที่เป็นผู้มีอิทธิพลรู้สึกตกใจมาก เพราะตนไม่มีรถแท็กซี่ป้ายดำในสนามบิน และในภูเก็ตแม้แต่คันเดียว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าดีเอสไอได้ข้อมูลมาจากไหน และที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอก็ไม่ได้มาสอบถามข้อมูลอะไรเลย ตนเป็นผู้ประกอบการร้านค้าอยู่ในสนามบินภูเก็ตมานาน 14 ปี แล้ว เปิดบูทรับจองห้องพัก และขายทัวร์ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง หรือมีปัญหากับใคร เมื่อสิ้นสุดสัญญากับการท่าฯ ทางการท่าฯ ก็ต่อสัญญาให้ประกอบการได้เหมือนเดิม ก็เลยยังงงๆ กับข้อมูลของดีเอสไออยู่เหมือนกัน อยากจะขอความเป็นธรรมกับดีเอสไอให้ช่วยชี้แจงข้อเท็จจริงให้ด้วย
นายธรรมวัฒน์ วงเจริญยุทธ์ และนายศิวะ เสียงหย่อง ผู้ที่ถูกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ.ระบุว่าเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังรถแท็กซี่ป้ายดำ
 
 

นายธรรมวัฒน์ วงเจริญยุทธ์
นายศิวะ เสียงหย่อง

กำลังโหลดความคิดเห็น