ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “อธิบดีดีเอสไอ” มั่นใจบังคับใช้กฎหมายจัดการมาเฟียภูเก็ตผลตอบรับดีแน่นอน เชื่อหลายคนอยากให้เร่งจัดการหลังปล่อยปละละเลยให้ทำลายการท่องเที่ยวมายาวนาน ยืนยันมีข้อมูลพร้อมแล้วทั้งเป็นนอมินีให้ต่างชาติ เผยรู้ชื่อมาเฟียตัวการใหญ่เกี่ยวแท็กซี่ป้ายดำแล้ว 2 ราย แต่ยังเปิดเผยไม่ได้
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (25 ก.ค.) นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุวัตน์ สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สารสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณสวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบกรณีมีการร้องเรียนเรื่องของแก๊งมาเฟียในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายวีระ เกิดสิริมงคล นายอำเภอกะทู้ พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะทู้ นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตอง และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูล แต่อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ไม่ได้ไปดูพื้นที่อื่นๆ ในส่วนของป่าตองเลย
ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายวีระ เกิดสิริมงคล นายอำเภอกะทู้ กล่าวว่า ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของพื้นที่ป่าตองเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นมานาน แม้แต่ปัญหานักท่องเที่ยวร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องของที่จอดรถ เนื่องจากไม่มีที่ให้จอด เพราะถนนบริเวณชายหาดส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดรถเช่า รถนักท่องเที่ยวทั่วไปไม่สามารถจอดได้ พร้อมกับยอมรับว่าการจอดรถในพื้นที่ป่าตองต้องดูให้ดี ถ้าจอดไม่ถูกที่ถูกทางรถอาจจะถูกกรีดได้ เพราะแม้แต่รถของนายอำเภอเองก็เกือบโดนมาแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องพยายามที่จะแก้ไขปัญหา โดยการเสนอจัดทำโซนนิ่งที่จอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นโดยจะใช้จุดบริเวณถนนหน้าลานโลมาตลอดแนวให้เป็นที่จอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป ส่วนปัญหาเรื่องของแท็กซี่ป้ายดำ ก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนาน การแก้ไขปัญหาจึงทำได้ยาก ขณะที่เรื่องของการเข้ามาลงทุนของชาวต่างชาตินั้นมีทั้งที่เข้ามาลงทุนอย่างถูกต้อง และเป็นการลงทุนโดยใช้นอมินี ซึ่งจะมาเหมารวมไม่ได้ว่าถ้าเป็นการลงทุนของชาวต่างชาติเป็นเรื่องไม่ถูกต้องทั้งหมด
ด้านนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ว่า จากการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้ได้ข้อสรุปในการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะใช้เป็นพื้นที่นำร่องในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งวันนี้หลายหน่วยงานร่วมให้ข้อมูลถึงการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา แต่พบว่าการแก้ไขปัญหายังเกาไม่ถูกจุด เพราะยังมีปัญหาเรื่องของข้อกฎหมายต่างๆ การดำเนินงานต้องอาศัยหลายหน่วยงาน ซึ่งในการลงมาแก้ไขปัญหาในครั้งนี้จึงเป็นการแก้ไขจุดอ่อนในส่วนนี้ด้วย โดยมอบหมายให้ดีเอสไอเข้ามาดำเนินการ ซึ่งดีเอสไอมีกฎหมายในมือสามารถดำเนินการกับกลุ่มมาเฟียได้แบบขุดรากถอนโคน
ขณะที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ขณะนี้ดีเอสไอ มีข้อมูลอยู่ในมือหมดแล้ว สำหรับในส่วนกลุ่มมาเฟียแท็กซี่ป้ายดำ และในกลุ่มของนอมินีให้ชาวต่างชาติ ซึ่งหลังจากเปิด “ศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยว” ทางเจ้าหน้าที่ก็จะเริ่มปฏิบัติงานปราบปรามกลุ่มมาเฟียในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยใช้กฎหมายของดีเอสไอในการดำเนินการ ซึ่งการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้เป็นการเปิดประเด็นชัดเจนที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหา และเป็นการประกาศให้กลุ่มที่ทำผิดกฎหมาย หรือกลุ่มมาเฟียรู้ตัว และหยุดการกระทำก่อนที่จะถูกจัดการขั้นเด็ดขาด และการดำเนินการในครั้งนี้เป็นการดำเนินการแบบเสมอภาคไม่ทำแบบลูบหน้าปะจมูก ซึ่งขณะนี้ในส่วนของมาเฟียรถแท็กซี่ป้ายดำมี 2 ตัวการใหญ่ ที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใคร
นายธาริต กล่าวต่อไปว่า สำหรับการเข้ามาดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องมาเฟียในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับมาตรการนี้จากผู้ประกอบการที่ทำถูกต้องอย่างแน่นอน และอยากที่จะให้มีการจัดการกับกลุ่มบุคคลที่ทำตัวเป็นผู้มิอิทธิพลโดยเร็วที่สุด ซึ่งทางดีเอสไอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการเรื่องนี้ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม และสำเร็จผลโดยเร็ว เชื่อว่าการลงมาทำงานในครั้งนี้จะแก้จุดอ่อนได้ทั้งหมด นอกจากนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นในการแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยว คือ เรื่องของการร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองนักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้ได้มีการประสานกับทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าการร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะสามารถดำเนินการได้ภายในปีนี้ หลังจากนั้นก็จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของสภาในการพิจารณาเรื่องนี้ แต่ก็มั่นใจว่ามีความเป็นไปได้สูง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (25 ก.ค.) นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุวัตน์ สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สารสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณสวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบกรณีมีการร้องเรียนเรื่องของแก๊งมาเฟียในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายวีระ เกิดสิริมงคล นายอำเภอกะทู้ พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะทู้ นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตอง และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูล แต่อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ไม่ได้ไปดูพื้นที่อื่นๆ ในส่วนของป่าตองเลย
ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายวีระ เกิดสิริมงคล นายอำเภอกะทู้ กล่าวว่า ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของพื้นที่ป่าตองเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นมานาน แม้แต่ปัญหานักท่องเที่ยวร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องของที่จอดรถ เนื่องจากไม่มีที่ให้จอด เพราะถนนบริเวณชายหาดส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดรถเช่า รถนักท่องเที่ยวทั่วไปไม่สามารถจอดได้ พร้อมกับยอมรับว่าการจอดรถในพื้นที่ป่าตองต้องดูให้ดี ถ้าจอดไม่ถูกที่ถูกทางรถอาจจะถูกกรีดได้ เพราะแม้แต่รถของนายอำเภอเองก็เกือบโดนมาแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องพยายามที่จะแก้ไขปัญหา โดยการเสนอจัดทำโซนนิ่งที่จอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นโดยจะใช้จุดบริเวณถนนหน้าลานโลมาตลอดแนวให้เป็นที่จอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป ส่วนปัญหาเรื่องของแท็กซี่ป้ายดำ ก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนาน การแก้ไขปัญหาจึงทำได้ยาก ขณะที่เรื่องของการเข้ามาลงทุนของชาวต่างชาตินั้นมีทั้งที่เข้ามาลงทุนอย่างถูกต้อง และเป็นการลงทุนโดยใช้นอมินี ซึ่งจะมาเหมารวมไม่ได้ว่าถ้าเป็นการลงทุนของชาวต่างชาติเป็นเรื่องไม่ถูกต้องทั้งหมด
ด้านนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ว่า จากการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้ได้ข้อสรุปในการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะใช้เป็นพื้นที่นำร่องในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งวันนี้หลายหน่วยงานร่วมให้ข้อมูลถึงการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา แต่พบว่าการแก้ไขปัญหายังเกาไม่ถูกจุด เพราะยังมีปัญหาเรื่องของข้อกฎหมายต่างๆ การดำเนินงานต้องอาศัยหลายหน่วยงาน ซึ่งในการลงมาแก้ไขปัญหาในครั้งนี้จึงเป็นการแก้ไขจุดอ่อนในส่วนนี้ด้วย โดยมอบหมายให้ดีเอสไอเข้ามาดำเนินการ ซึ่งดีเอสไอมีกฎหมายในมือสามารถดำเนินการกับกลุ่มมาเฟียได้แบบขุดรากถอนโคน
ขณะที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ขณะนี้ดีเอสไอ มีข้อมูลอยู่ในมือหมดแล้ว สำหรับในส่วนกลุ่มมาเฟียแท็กซี่ป้ายดำ และในกลุ่มของนอมินีให้ชาวต่างชาติ ซึ่งหลังจากเปิด “ศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยว” ทางเจ้าหน้าที่ก็จะเริ่มปฏิบัติงานปราบปรามกลุ่มมาเฟียในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยใช้กฎหมายของดีเอสไอในการดำเนินการ ซึ่งการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้เป็นการเปิดประเด็นชัดเจนที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหา และเป็นการประกาศให้กลุ่มที่ทำผิดกฎหมาย หรือกลุ่มมาเฟียรู้ตัว และหยุดการกระทำก่อนที่จะถูกจัดการขั้นเด็ดขาด และการดำเนินการในครั้งนี้เป็นการดำเนินการแบบเสมอภาคไม่ทำแบบลูบหน้าปะจมูก ซึ่งขณะนี้ในส่วนของมาเฟียรถแท็กซี่ป้ายดำมี 2 ตัวการใหญ่ ที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใคร
นายธาริต กล่าวต่อไปว่า สำหรับการเข้ามาดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องมาเฟียในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับมาตรการนี้จากผู้ประกอบการที่ทำถูกต้องอย่างแน่นอน และอยากที่จะให้มีการจัดการกับกลุ่มบุคคลที่ทำตัวเป็นผู้มิอิทธิพลโดยเร็วที่สุด ซึ่งทางดีเอสไอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการเรื่องนี้ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม และสำเร็จผลโดยเร็ว เชื่อว่าการลงมาทำงานในครั้งนี้จะแก้จุดอ่อนได้ทั้งหมด นอกจากนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นในการแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยว คือ เรื่องของการร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองนักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้ได้มีการประสานกับทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าการร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะสามารถดำเนินการได้ภายในปีนี้ หลังจากนั้นก็จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของสภาในการพิจารณาเรื่องนี้ แต่ก็มั่นใจว่ามีความเป็นไปได้สูง
