xs
xsm
sm
md
lg

เรือนำเที่ยวหน้าหาดราไวย์อ่วม! หลังภูเก็ตฝนตกหนัก ทำสูญรายได้วันละ1,000 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวหาดราไวย์ จ.ภูเก็ต กว่า 200 ลำ ต้องหยุดให้บริการ สูญเสียรายได้วันละกว่า 1,000 บาท ขณะที่ตลาดอาหารทะเลเริ่มขาดแคลน พ่อค้าแม่ค้าทยอยปรับราคาสูงขึ้น

สืบเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศฉบับที่ 6 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2556 ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

ล่าสุด วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่บริเวณหาดราไวย์ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต บรรยากาศการท่องเที่ยวเป็นไปด้วยความเงียบเหงา โดยบรรดาผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว และเรือสปีดโบต จำนวนกว่า 200 ลำ ต้องหยุดให้บริการ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ประกอบกับยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดคลื่นลมแรงสูง 2 ถึง 3 เมตร อย่างไรก็ตาม มีเพียงแต่ชาวบ้านในพื้นที่คอยเฝ้าเรือโดยสารเท่านั้น เนื่องจากเกรงว่า เรือที่จอดเทียบหาดอาจจะถูกคลื่มซัดทำให้เรือล่มได้ทุกเวลา รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่บนเรืออาจได้รับความเสียหายจากคลื่นลมในทะเล

ด้าน นายเสถียร อารีรอบ ผู้ให้บริการเรือนำเที่ยวขนาดเล็กเปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงมรสุม ฝนได้ตกหนักติดต่อกันหลายวันไม่สามารถนำเรือออกจากฝั่งได้ ทำให้สูญเสียรายได้วันละประมาณ 1,000 บาท รวมทั้งต้องคอยเฝ้าเรือทั้งวันทั้งคืน เนื่องจากคลื่มลมแรงอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เรือโดยสารได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ จากการตระเวนสำรวจบริเวณรอบชายหาดดังกล่าว พบว่า มีพนักงานของบริษัทเรือนำเที่ยวต่างทยอยเฝ้าดูเรืออย่างใกล้ชิด และต้องคอยตรวจสอบเชือกที่ผูกไว้กับเรือว่า มีความมั่นคงหรือไม่ เพราะต้องการป้องกันอุบัติเหตุต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่บรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติไม่สามารถออกมาเที่ยวตามชายหาดได้เหมือนปกติ เพราะฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ร้านค้าต่างๆ สูญเสียรายได้ในช่วงนี้อีกด้วย

ขณะที่บริเวณหมู่บ้านชาวไทยใหม่ราไวย์ ซึ่งเป็นสถานที่ขายอาหารทะเลนั้น ล่าสุด การเดินทางมาซื้ออาหารทะเลของชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศเช่นกัน ส่วนบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารทะเลนั้น มีการปรับขึ้นราคาอาหารทะเลทุกชนิดในช่วงนี้ เนื่องจากการออกเดินเรือของชาวประมงในท้องถิ่นไม่สามารถทำได้ ประกอบกับได้รับคำเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่า จะเกิดคลื่นลมแรงสูงประมาณ 2 ถึง 3 เมตร และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง จึงทำให้อาหารทะเลจำพวก กุ้ง หอย ปู ปลา เริ่มขาดแคลน เช่น ปลากล้วยญี่ปุ่น จากเดิมราคาประมาณกิโลกรัมละ 100 บาท ปรับเพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 110-120 บาทแล้วแต่ขนาด ปลาเก๋าเล็ก จากเดิมราคากิโลกรัมละ 150 บาท ปรับเพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 160 บาท เป็นต้น



 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น