กระบี่ - เกษตรกรเลี้ยงปลาในกระชัง ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ เดือดร้อนหนัก ปลาเก๋าเสือที่เลี้ยงในกระชังทยอยตายโดยไม่ทราบสาเหตุ บางรายตายยกระชังขาดทุนไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท ด้านประมงอำเภอเมืองกระบี่ ระบุอาจเกิดจากน้ำทะเลที่ร้อนจัด และมีฝนตกลงมาเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้ปลาปรับสภาพไม่ทัน
นายประเวช อวิรุทธพาณิชย์ ประมงอำเภอเมืองกระบี่ กล่าวว่า จากกรณีปลาของชาวประมงที่เลี้ยงไว้ในกระชัง พื้นที่ ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ทยอยตายจำนวนมาก ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (21 เม.ย.) และได้ทยอยตายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้น จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ และเก็บข้อมูลพบว่า มีเกษตรกรเลี้ยงปลาเก๋าในกระชังประสบปัญหาดังกล่าวแล้ว ประมาณ 10 ราย ความเสียหายมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท
ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากสภาพน้ำมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 3 เดือน เกิดแล้งติดต่อกันทำให้อากาศร้อนจัด หลังจากนั้นเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ก็ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก คาดว่าทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ส่งผลให้ปลาในกระชังปรับสภาพไม่ทัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอเชื้อโรคต่างๆ ที่มากับน้ำเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย และทยอยตายในที่สุด ซึ่งได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ เข้ามาเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง
ขณะที่ นางฉิ้วโห้ย เจริญหัตถกิจ อายุ 73 ปี เจ้าของกระชังปลารายหนึ่ง กล่าวว่า ตนมีอาชีพเลี้ยงปลาในกระชังที่บริเวณดังกล่าวมานาน และไม่เคยมีเหตุการณ์ปลาตายเป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกันโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยปลาที่กำลังทยอยตายเป็นปลาเลี้ยงได้ขนาด 3-4 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ตายไปกว่า 600 ตัว นอกจากนี้ ยังมีปลาที่ใกล้ตายลอยขึ้นเหนือน้ำอีกจำนวนมาก โดยสภาพปลาที่ตายที่หน้าท้องปลาพบว่าป่องบวมออกมา บางตัวก็มีรอยแผลตามตัว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่เลี้ยงปลาต่อไป
นางฉิ้วโห้ย กล่าวต่อว่า ตนเลี้ยงปลาเก๋าเสือในกระชังทั้งหมด 1,100 ตัว โดยซื้อลูกปลาเก๋าพันธุ์ผสม มาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ เป็นเงิน 110,000 บาท โดยเลี้ยงมาได้ประมาณ 1 ปี ลงทุนค่าอาหารประมาณ 1 แสนบาท รวมค่าพันธุ์ปลา ประมาณ 2 แสนกว่าบาท ซึ่งขณะนี้ตัวปลาเก๋าก็โตได้ขนาดกำลังจะขายอีกประมาณ 1 เดือนข้างหน้านี้ โดยมีพ่อค้าสั่งซื้อล่วงหน้าขนาดตัวละ 1-2 กิโลกรัม จำนวน 360 ตัว ในราคากิโลกรัมละ 360 บาท เป็นเงินกว่า 1.5 แสนบาท
แต่พบว่า ปลาเริ่มทยอยตายวันละ 8-10 ตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ ครั้งแรกเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติ จึงได้ตักออกจากกระชังเอาไปทิ้ง แต่ต่อมาพบว่า ปลาตายไปเป็นจำนวนมาก รวมแล้วกว่า 600 ตัว ทำให้ตั้งตัวไม่ทัน และมีอีกหลายตัวที่มีอาการใกล้ตาย จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังพบว่าปลาในกระชังของเพื่อนเกษตรกรที่เลี้ยงในพื้นที่ใกล้กันก็ทยอยตายเช่นเดียวกัน
นายประเวช อวิรุทธพาณิชย์ ประมงอำเภอเมืองกระบี่ กล่าวว่า จากกรณีปลาของชาวประมงที่เลี้ยงไว้ในกระชัง พื้นที่ ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ทยอยตายจำนวนมาก ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (21 เม.ย.) และได้ทยอยตายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้น จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ และเก็บข้อมูลพบว่า มีเกษตรกรเลี้ยงปลาเก๋าในกระชังประสบปัญหาดังกล่าวแล้ว ประมาณ 10 ราย ความเสียหายมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท
ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากสภาพน้ำมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 3 เดือน เกิดแล้งติดต่อกันทำให้อากาศร้อนจัด หลังจากนั้นเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ก็ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก คาดว่าทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ส่งผลให้ปลาในกระชังปรับสภาพไม่ทัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอเชื้อโรคต่างๆ ที่มากับน้ำเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย และทยอยตายในที่สุด ซึ่งได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ เข้ามาเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง
ขณะที่ นางฉิ้วโห้ย เจริญหัตถกิจ อายุ 73 ปี เจ้าของกระชังปลารายหนึ่ง กล่าวว่า ตนมีอาชีพเลี้ยงปลาในกระชังที่บริเวณดังกล่าวมานาน และไม่เคยมีเหตุการณ์ปลาตายเป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกันโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยปลาที่กำลังทยอยตายเป็นปลาเลี้ยงได้ขนาด 3-4 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ตายไปกว่า 600 ตัว นอกจากนี้ ยังมีปลาที่ใกล้ตายลอยขึ้นเหนือน้ำอีกจำนวนมาก โดยสภาพปลาที่ตายที่หน้าท้องปลาพบว่าป่องบวมออกมา บางตัวก็มีรอยแผลตามตัว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่เลี้ยงปลาต่อไป
นางฉิ้วโห้ย กล่าวต่อว่า ตนเลี้ยงปลาเก๋าเสือในกระชังทั้งหมด 1,100 ตัว โดยซื้อลูกปลาเก๋าพันธุ์ผสม มาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ เป็นเงิน 110,000 บาท โดยเลี้ยงมาได้ประมาณ 1 ปี ลงทุนค่าอาหารประมาณ 1 แสนบาท รวมค่าพันธุ์ปลา ประมาณ 2 แสนกว่าบาท ซึ่งขณะนี้ตัวปลาเก๋าก็โตได้ขนาดกำลังจะขายอีกประมาณ 1 เดือนข้างหน้านี้ โดยมีพ่อค้าสั่งซื้อล่วงหน้าขนาดตัวละ 1-2 กิโลกรัม จำนวน 360 ตัว ในราคากิโลกรัมละ 360 บาท เป็นเงินกว่า 1.5 แสนบาท
แต่พบว่า ปลาเริ่มทยอยตายวันละ 8-10 ตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ ครั้งแรกเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติ จึงได้ตักออกจากกระชังเอาไปทิ้ง แต่ต่อมาพบว่า ปลาตายไปเป็นจำนวนมาก รวมแล้วกว่า 600 ตัว ทำให้ตั้งตัวไม่ทัน และมีอีกหลายตัวที่มีอาการใกล้ตาย จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังพบว่าปลาในกระชังของเพื่อนเกษตรกรที่เลี้ยงในพื้นที่ใกล้กันก็ทยอยตายเช่นเดียวกัน
