กระบี่ - อากาศร้อนจัดสาเหตุปลาตายที่คลองจิหลาด ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ด้านประมงอำเภอเมืองกระบี่ เผยมีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนแล้ว 13 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1.7 ล้านบาท เตรียมประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้งเพื่อให้การช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (24 เม.ย.) นายประเวช อวิรุทธพาณิชย์ ประมงอำเภอเมืองกระบี่ พร้อมด้วย ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ และเจ้าหน้าที่ของประมงอำเภอ ลงพื้นที่ตรวจสอบกระชังปลาของเกษตรกรในพื้นที่ คลองจิหลาด ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ที่ลอยเรียงรายอยู่ในร่องน้ำคลองจิหลาด จำนวนกว่า 10 ราย เพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงของสภาพน้ำ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อปลาที่เกษตรกรเลี้ยงไว้ หลังจากที่ได้ลงมาเก็บตัวอย่างของน้ำ และปลาไปตรวจสอบเมื่อวานที่ผ่านมา
โดยพบว่า ปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชังของเกษตรกรยังคงตายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปลาเก๋าเสือ ซึ่งเป็นปลาที่ตลาดต้องการ และมีราคาแพง
นางฉิ้วโห้ย เจริญหัตถกิจ อายุ 73 ปี เจ้าของกระชังปลารายหนึ่ง กล่าวว่า ปลาในกระชังที่เลี้ยงไว้โดยเฉพาะปลาเก๋าเสือ ยังคงทยอยตายเป็นจำนวนมากโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยปลาที่กำลังทยอยตายเป็นปลาเลี้ยง ได้ขนาดน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ตายไปกว่า 600-700 ตัว นอกจากนี้ ยังมีปลาที่ใกล้ตายลอยขึ้นเหนือน้ำอีกจำนวนมาก ค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท
นายประเวช อวิรุทธพาณิชย์ ประมงอำเภอเมืองกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้มีเกษตรกรเลี้ยงปลากระชังในพื้นที่ตำบลไสไทยบริเวณปากคลองจิหลาด ได้รับความเดือดร้อนแล้วจำนวน 13 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นผู้เลี้ยงปลาเก๋า และปลากะพงขาวบางส่วน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1,760,180 บาท ซึ่งหลังจากนี้ จะรวบรวมรายชื่อทั้งหมดส่งให้ทางอำเภอ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ พิจารณาเพื่อประกาศให้ตำบลไสไทยเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง เนื่องจากอากาศร้อนจัด ส่งผลทำให้เกิดความเสียหายทางด้านการประมงเพื่อให้เข้าหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ
ขณะที่ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำ และปลาที่ตายในกระชังของเกษตรกร จากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ พบว่า คุณน้ำบริเวณดังกล่าวเป็นปกติ ส่วนผลการตรวจสอบซากปลาที่ตายพบมีเชื้อแบคทีเรีย ชนิดวิเวโอ ในท้องปลา ซึ่งจะทำให้ท้องบวม และตายในที่สุด ซึ่งก่อนที่เชื้อโรคจะเข้าไปนั้นเกิดจากสภาพน้ำที่ร้อนจัดจากภาวะภัยแล้ง ทำให้ปลาขาดออกซิเจน ทำให้ปลามีสภาพร่างกายอ่อนแอ เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ตัวปลาได้ง่าย แต่ไม่เป็นอันตรายต่อคน สามารถนำปลาไปเป็นอาหารได้ตามปกติแต่ควรจะปรุงให้สุกดีเสียก่อน
