นครศรีธรรมราช - ชาวชุมชนประมงพื้นบ้านพื้นที่เป้าหมายก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ใน ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร เริ่มมีความวิตกกังวลต่อการรุกคืบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต หลังไฟฟ้าดับใน 14 จังหวัดภาคใต้ เชื่อว่าเป็นการเจตนาทำให้ไฟฟ้าดับ และขอร้องให้ยุติโครงการ และหันมาสนับสนุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมแทน อึ้ง กังหันผลิตไฟฟ้ากรมพลังงานทดแทนเดี้ยงทั้งหมด
วันนี้ (22 พ.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช หลังจากเกิดปรากฏการณ์ไฟฟ้าดับทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย ทำให้ชุมชนชนประมงชายฝั่งของตำบลเกาะเพชร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายในการเตรียมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เริ่มมีความตึงเครียด และกังวลว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ อาจใช้วิธีการใดก็ได้เพื่อให้บรรลุโครงการนำไปสู่การก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินขึ้นในพื้นที่ชุมชน
นายตะเล็บ เจ๊ะเหล็ม อายุ 56 ปี อยู่ 82/5 ม.6 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เป็นความผิดปกติอย่างมากที่ไฟฟ้าจะดับได้พร้อมกันถึง 14 จังหวัด ทั้งที่ภาคใต้มีโรงไฟฟ้ากระจายอยู่แล้วถึง 5 โรง และไม่เชื่อว่าจะเกิดความผิดพลาดทางเทคนิค แต่อาจเป็นการเจตนาให้ดับมากกว่า ต้องการที่จะกดดันชาวบ้าน เพราะมันง่ายเกินไป พร้อมกันนั้น ยังเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรที่จะยุติโครงการไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน แต่ควรหันมาสนับสนุนพลังงานสะอาดแทน ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่กำลังรณรงค์การลงทุนไฟฟ้ากังหันลม โดยมีผู้ลงทุนเข้ามาทำสัญญาก่อสร้างในพื้นที่แล้ว โดยจะติดตั้ง จำนวน 60 ตัว ตัวละ 1.5 เมกะวัตต์ และหากภาครัฐยังคงเดินหน้าพลังงานถ่านหิน ชาวชุมชนพร้อมที่จะขัดขวางทุกรูปแบบ รัฐ หรือ กฟผ.อาจทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นเหมือน 3 จังหวัดภาคใต้ก็ได้หากยังเดินหน้า
ส่วนความพยายามสำหรับการรณรงค์พลังงานทดแทนก่อนหน้านี้ โดยกรมพลังงานทดแทน ได้เข้ามาสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบเพื่อชักจูงให้บริษัทเอกชนเข้าร่วมลงทุน เพื่อนำกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จำหน่ายเข้าสู่ระบบจำหน่ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยใช้กังหันขนาดใหญ่ผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บ้านทะเลปัง ต.หัวไทร อ.หัวไทร ปรากฏว่า กังหันขนาดใหญ่ 1.5 เมกะวัตต์ 1 ตัว และขนาดเล็ก 250 กิโลวัตถ์ อีก 1 ตัว อยู่ในสภาพชำรุดเสียหายกลีบใบพัดหักสูญหายเหลือเพียง 1 กลีบ ทั้งหมดไม่สามารถใช้การได้ ต้องรอการซ่อม และอะไหล่จากต่างประเทศ
ขณะที่ นายรอง แก้วสกุล ผู้ประสานงานเครือข่ายรักษ์บ้านเกิดลุ่มน้ำปากพนัง ระบุว่า หลังจากหารือกันนั้น เชื่อได้ว่าเป็นการจัดฉากเพื่อกดดันชาวบ้านว่าหากไม่ได้สร้างโรงไฟฟ้า ไฟฟ้าภาคใต้จะดับ แต่ข้อมูลที่พบนั้น ภาคใต้ผลิตได้ 2,500 เมกะวัตต์ แต่ใช้จริงประมาณ 1,800 เมกะวัตต์ หัวไทรเองใช้เพียง 5 เมกะวัตต์ เป็นข้อมูลที่ กฟผ.ชี้แจงกับชาวหัวไทร ไฟฟ้าดับครั้งนี้เชื่อว่าเป็นการสร้างความชอบธรรมในการสร้างโรงไฟฟ้าในหัวไทร และท่าศาลา
และล่าสุด เครือข่ายรักษ์บ้านเกิดท่าศาลา และเครือข่ายรักษ์บ้านเกิดลุ่มน้ำปากพนัง ได้ร่วมกันออกจดหมายเปิดผนึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว มีใจความว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตั้งแต่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มุ่งสร้างข้อมูลเพียงแค่ว่า กระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอที่ภาคใต้ จำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ต้องการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มที่ภาคใต้ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าถ่านหินอย่างน้อย 2 โรง ซึ่งที่ผ่านมา ได้รับการคัดค้านจากประชาชนทั่วภาคใต้อย่างเต็มที่ จนไม่สามารถก่อสร้างได้จนถึงปัจจุบัน
การออกมาให้ข่าวของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นการตอกย้ำ และยืนยันเหตุผลที่จะสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ให้ได้ โดยไม่ให้ข้อมูลส่วนอื่นว่าเหตุการณ์ไฟฟ้าดับเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ หรือเป็นแค่การจัดฉากตามที่ประชาชนสงสัยหรือไม่ เพราะการให้ข่าว เน้นไปในทางเดียวกันทั้งหมด ว่ากระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอ และต้องสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่ม ในพื้นที่ อ.ท่าศาลา อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช และในพื้นที่อื่นๆ เช่น จังหวัดกระบี่
เครือข่ายรักษ์บ้านเกิดท่าศาลา และเครือข่ายรักษ์บ้านเกิดลุ่มน้ำปากพนัง ซึ่งได้เคลื่อนไหวคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินมาโดยตลอด และได้ยืนยันเจตนารมณ์มานานหลายปี จึงขอประณามการออกมาให้ข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว และเครือข่ายฯ ขอให้หน่วยงานออกมาตอบข้อมูล และความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมตั้งคำถามคือ 1.ภาคใต้มีการผลิตกระแสไฟฟ้าที่เพียงพอที่ใช้ในภาคใต้ และยังส่งต่อให้ภาคกลางบางส่วน และในช่วงเวลานี้ไม่มีเหตุการณ์ปิดซ่อม หรือหยุดจ่ายกระแสไฟฟ้าในภาคใต้แต่อย่างใด การออกมาบอกว่ากระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอมีข้อมูล ข้อเท็จจริงอย่างไร
2.จากข่าวที่ระบุว่า สายส่งไฟฟ้าจากภาคกลางมีปัญหาที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับทั้งภาคใต้ คำถามคือว่า ภาคใต้ใช้ไฟฟ้าจากภาคกลางทั้งหมด หรืออย่างไร แค่สายไฟหลักจากภาคกลางเสียหาย ทำไมไฟฟ้าจึงดับทั้งภาคใต้ และ 3.เกิดอะไรขึ้นกับโรงไฟฟ้าที่ภาคใต้ จึงไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้เลย ทั้งที่ภาคใต้มีโรงงานไฟฟ้าอยู่แล้วจำนวนหลายโรง
จดหมายเปิดผนึกยังระบุด้วยว่า จากข้อมูลจึงเห็นความไม่จริงใจ และการบิดเบือนข้อมูล เพื่อหวังผลประโยชน์ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม อีกทั้งเป็นการบ่งบอกถึงการไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เพราะปล่อยให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นเวลานับชั่วโมง และหลายชั่วโมงในบางพื้นที่โดยไม่มีข้อมูลใดๆ มาอ้างอิง หรือยืนยัน