นครศรีธรรมราช - เกิดเหตุระเบิดกลางวงเหล้าที่ อ.ช้างกลาง หลังจากทหารกลับจากปัตตานีตั้งวงเหล้ากับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ญาติ ระเบิดสนั่นกลางวงบาดเจ็บสาหัส 3 คน อ้างถูกลอบขว้างใส่ ขณะที่ ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ พบกระเดื่องอาจเป็นระเบิดที่ใช้ในทางราชการ
เมื่อเวลา 23.30 น. ของคืนวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สันติรักษ์ สันติพิบูลย์ หัวหน้าพนักงานสอบสวนทำหน้าที่พนักงานสอบสวนเวร สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุระเบิดกลางวงเหล้าหน้าบ้านเลขที่ 113 ม.2 ต.หลักช้าง อ.ช้างกลาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย หลังจากนั้นจึงเข้าทำการสอบสวนที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จรัส เจริญกุล ผกก. กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สายตรวจท้องที่ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ
ในที่เกิดเหตุหน้าบ้านเลขที่ดังกล่าว พบร่องรอยการตั้งวงเหล้าบนโต๊ะหินอ่อน สำรับกระจัดกระจาย โต๊ะหินแตกเสียหาย บนพื้นคอนกรีตใกล้กันมีร่องรอยเป็นหลุมระเบิด กระเดื่องระเบิดขว้างสังหารไม่ทราบชนิดตกอยู่ 1 อัน โดยตัวกระเดื่องมีตัวเลขล็อตการผลิตไว้ด้วย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนั้น มีร่องรอยของสะเก็ดระเบิดกระจัดกระจายพร้อมกับรอยเลือดไปทั่ว
ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นได้ถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลนาบอน 2 ราย และญาติได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฉวาง อีก 1 ราย พนักงานสอบสวนจึงติดตามไปสอบปากคำยังโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งทันที
โดย 2 รายแรกที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนาบอน อ.นาบอน คือ นายสมคิด พรหมราช อายุ 57 ปี มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 2 ต.หลักช้าง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช สภาพถูกสะเก็ดระเบิดเข้าตามลำตัว และสะโพกหลายจุดเสียเลือดมากอยู่ในอาการสาหัส รายต่อมาคือ ส.อ.วัชรินทร์ ทองคำญาณ อายุ 39 ปี ทหารสังกัด ร.15 พัน 2 ประจำการค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี สภาพถูกสะเก็ดระเบิดทั่วร่างกาย อาการปลอดภัย และอีกรายที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฉวาง คือ นายสุนทร เกตุสุวรรณ อายุ 47 ปี อยู่หมู่ 7 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช อยู่ในสภาพเดียวกับ 2 รายแรก
พนักงานสอบสวนรวบรวมข้อมูลก่อนเกิดเหตุได้ความว่า หลังจากที่ ส.อ.วัชรินทร์ อยู่ในช่วงพักผ่อนกลับมาจากราชการใน 3 จังหวัดภาคใต้ มาถึงบ้าน ญาติๆ ที่อยู่บ้านเดียวกันหลายคนได้ร่วมกันตั้งวงดื่มเหล้าตั้งแต่ช่วงค่ำ จนตกดึกปรากฏว่า ต่างเริ่มเข้านอน และน้องชายของ ส.อ.วัชรินทร์ อีกคนที่นั่งอยู่ด้วยกันขับรถจักรยานยนต์ออกจากที่เกิดเหตุ เพื่อไปซื้อเหล้ามาเพิ่ม เหลือเพียง 3 คนอยู่ในวงเหล้า จากนั้นไม่นานปรากฏว่า ได้เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ทั้ง 3 ราย จมกองเลือดอยู่ในที่เกิดเหตุก่อนถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลในสภาพเลือดโชกร่าง
พ.ต.อ.จรัส เจริญกุล ผกก.สภ.ช้างกลาง เปิดเผยความคืบหน้าในการสอบสวนในช่วงเช้า ของวันนี้ (5 พ.ค.) ว่า หลังจากเกิดเหตุได้ติดตามสอบข้อมูลจากผู้บาดเจ็บยืนยันว่า ได้ถูกคนร้ายลอบขว้างระเบิดใส่ โดยมีผู้ต้องสงสัย แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้รายงานผู้บังคับบัญชาแล้ว ผู้บังคับบัญชายังไม่ปักใจเชื่อว่าจะถูกลอบขว้างระเบิด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่สรรพาวุธกำลังเข้าตรวจสอบว่าร่องรอยนั้นเกิดจากการขว้างเข้าใส่ หรือระเบิดขึ้นเอง ซึ่งพนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
“เท่าที่ตรวจสอบบุคคลที่ผู้เสียหายข้องใจสงสัยว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุนั้น ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจ เนื่องจากไม่มีศักยภาพเพียงพอในการก่อเหตุ ส่วนกระเดื่องนั้น เบื้องต้นดูจากตัวเลข และลักษณะแล้วน่าเชื่อว่าจะเป็นระเบิดที่ใช้ในราชการทหาร หรือไม่ก็ตำรวจ ซึ่งต้องรอผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์อีกครั้ง” ผกก.สภ.ช้างกลาง ระบุ
เมื่อเวลา 23.30 น. ของคืนวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สันติรักษ์ สันติพิบูลย์ หัวหน้าพนักงานสอบสวนทำหน้าที่พนักงานสอบสวนเวร สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุระเบิดกลางวงเหล้าหน้าบ้านเลขที่ 113 ม.2 ต.หลักช้าง อ.ช้างกลาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย หลังจากนั้นจึงเข้าทำการสอบสวนที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จรัส เจริญกุล ผกก. กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สายตรวจท้องที่ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ
ในที่เกิดเหตุหน้าบ้านเลขที่ดังกล่าว พบร่องรอยการตั้งวงเหล้าบนโต๊ะหินอ่อน สำรับกระจัดกระจาย โต๊ะหินแตกเสียหาย บนพื้นคอนกรีตใกล้กันมีร่องรอยเป็นหลุมระเบิด กระเดื่องระเบิดขว้างสังหารไม่ทราบชนิดตกอยู่ 1 อัน โดยตัวกระเดื่องมีตัวเลขล็อตการผลิตไว้ด้วย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนั้น มีร่องรอยของสะเก็ดระเบิดกระจัดกระจายพร้อมกับรอยเลือดไปทั่ว
ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นได้ถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลนาบอน 2 ราย และญาติได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฉวาง อีก 1 ราย พนักงานสอบสวนจึงติดตามไปสอบปากคำยังโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งทันที
โดย 2 รายแรกที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนาบอน อ.นาบอน คือ นายสมคิด พรหมราช อายุ 57 ปี มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 2 ต.หลักช้าง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช สภาพถูกสะเก็ดระเบิดเข้าตามลำตัว และสะโพกหลายจุดเสียเลือดมากอยู่ในอาการสาหัส รายต่อมาคือ ส.อ.วัชรินทร์ ทองคำญาณ อายุ 39 ปี ทหารสังกัด ร.15 พัน 2 ประจำการค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี สภาพถูกสะเก็ดระเบิดทั่วร่างกาย อาการปลอดภัย และอีกรายที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฉวาง คือ นายสุนทร เกตุสุวรรณ อายุ 47 ปี อยู่หมู่ 7 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช อยู่ในสภาพเดียวกับ 2 รายแรก
พนักงานสอบสวนรวบรวมข้อมูลก่อนเกิดเหตุได้ความว่า หลังจากที่ ส.อ.วัชรินทร์ อยู่ในช่วงพักผ่อนกลับมาจากราชการใน 3 จังหวัดภาคใต้ มาถึงบ้าน ญาติๆ ที่อยู่บ้านเดียวกันหลายคนได้ร่วมกันตั้งวงดื่มเหล้าตั้งแต่ช่วงค่ำ จนตกดึกปรากฏว่า ต่างเริ่มเข้านอน และน้องชายของ ส.อ.วัชรินทร์ อีกคนที่นั่งอยู่ด้วยกันขับรถจักรยานยนต์ออกจากที่เกิดเหตุ เพื่อไปซื้อเหล้ามาเพิ่ม เหลือเพียง 3 คนอยู่ในวงเหล้า จากนั้นไม่นานปรากฏว่า ได้เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ทั้ง 3 ราย จมกองเลือดอยู่ในที่เกิดเหตุก่อนถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลในสภาพเลือดโชกร่าง
พ.ต.อ.จรัส เจริญกุล ผกก.สภ.ช้างกลาง เปิดเผยความคืบหน้าในการสอบสวนในช่วงเช้า ของวันนี้ (5 พ.ค.) ว่า หลังจากเกิดเหตุได้ติดตามสอบข้อมูลจากผู้บาดเจ็บยืนยันว่า ได้ถูกคนร้ายลอบขว้างระเบิดใส่ โดยมีผู้ต้องสงสัย แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้รายงานผู้บังคับบัญชาแล้ว ผู้บังคับบัญชายังไม่ปักใจเชื่อว่าจะถูกลอบขว้างระเบิด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่สรรพาวุธกำลังเข้าตรวจสอบว่าร่องรอยนั้นเกิดจากการขว้างเข้าใส่ หรือระเบิดขึ้นเอง ซึ่งพนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
“เท่าที่ตรวจสอบบุคคลที่ผู้เสียหายข้องใจสงสัยว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุนั้น ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจ เนื่องจากไม่มีศักยภาพเพียงพอในการก่อเหตุ ส่วนกระเดื่องนั้น เบื้องต้นดูจากตัวเลข และลักษณะแล้วน่าเชื่อว่าจะเป็นระเบิดที่ใช้ในราชการทหาร หรือไม่ก็ตำรวจ ซึ่งต้องรอผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์อีกครั้ง” ผกก.สภ.ช้างกลาง ระบุ
