ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ “เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช” มอบนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาให้แก่ผู้ว่าฯ ผู้บริหารสถานศึกษา และหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งภาคใต้ สั่งโรงเรียนทุกแห่งสำรวจเด็กติดยาเพื่อนำสู่กระบวนการบำบัด ภายใน 15 มิ.ย.นี้ หวังให้โรงเรียนทุกแห่งเป็นโรงเรียนสีขาวปลอดยาเสพติด
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (17 พ.ค.) นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมเชิงปฎิบัติการมอบนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา ปี 2556 และการตรวจราชการตามการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา โดยมีนายศุภกร วงศ์ปราชญ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าฯ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา/มัธยมศึกษา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้กำกับการสถานีตำรวจ ผอ.กศน.จังหวัด ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพม.สอศ.และหน่วยงานเกี่ยวข้อง 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 850 คน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมโรงเรียนสตรีภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมทั้งลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของโรงเรียนบ้านบางเทา และโรงเรียนเมืองถลาง จ.ภูเก็ต
เพื่อมอบนโยบายการป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษาให้แก่ผู้บริหารทุกระดับ ในการขับเคลื่อนงานอย่างจริงจัง และมีความรู้ความเข้าใจในแนวทางการนำไปสู่การปฏิบัติ และเพื่อการบูรณาการกับทุกภาคส่วน ให้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการและเกิดการขับเคลื่อนอย่างจริงจังตลอดปีการศึกษา 2556 นี้ รวมทั้งเพื่อให้มีการอำนวยการ กำกับ ติดตาม ในทุกระดับอย่างเป็นระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษา และเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงภายใน และนอกสถานศึกษา เป็นต้น
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ และมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา ทางศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ดำเนินการโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข ซึ่งการดำเนินการให้สถานศึกษาปลอดยาเสพติดอย่างแท้จริง และต่อเนื่องนั้น จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะครูประจำชั้นถือว่าเป็นบุคคลที่มีความสำคัญมากในการป้องกันยาเสพติดในเด็กนักเรียน เพราะครูประจำชั้นเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดกับนักเรียนมากที่สุด จะรู้ว่าในแต่ละห้องมีเด็กคนไหนบ้างที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดบ้าง
ทางกระทรวงศึกษาธิการ จึงมีนโยบายที่จะให้ทุกโรงเรียนทำการสำรวจว่าแต่ละโรงเรียนมีเด็กเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมากน้อยแค่ไหน ทั้งในส่วนของผู้เสพ ผู้ค้า และกลุ่มเสี่ยง โดยให้รายงานให้กระทรวงฯ รับทราบภายใน 7 วัน หลังเปิดการเรียนการสอน โดยการสำรวจดังกล่าวจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลทั้งในส่วนของจำนวนเด็กที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบทั้งตัวเด็ก และโรงเรียน หลังจากนั้น จะนำเด็กที่ติดยาเสพติดไปทำการบำบัดโดยการประสานความร่วมมือกับทางศูนย์เอาชนะยาเสพติด ที่มีผู้ว่าฯ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ และทางสาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้บำบัด ซึ่งตามแผนงานที่วางไว้จะเริ่มการบำบัดภายในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ รวมทั้งแต่ละโรงเรียนจะต้องกำหนดมาตรการในการดึงนักเรียนกลุ่มเสี่ยงให้ห่างไกลยาเสพติดด้วย
“เป้าหมายของการนำเด็กนักเรียนไปบำบัดก็เพื่อให้เด็กเหล่านั้นเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด กลับมาเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ และกลับมาเรียนหนังสือได้เหมือนเดิม เพราะหากสามารถดำเนินการได้ถือเป็นชัยชนะ รวมทั้งจะส่งหน่วยงานเกี่ยวข้องมาประเมินผลแต่ละโรงเรียนว่าปลอดจากยาเสพติดหรือไม่ และหากสถานศึกษาแห่งไหนปลอดจากยาเสพติดจริงๆ จะมีการมอบธงสีขาวเพื่อแสดงว่าสถานศึกษานั้นๆ ปลอดจากยาเสพติด 100% ” รมช.ศึกษา กล่าวและว่า
ในปี 2556 นี้ รัฐบาลมีเป้าหมายในการนำผู้ติดยาเสพติดสู่กระบวนการบำบัด 300,000 คน ซึ่งตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาถึงขณะนี้ สามารถบำบัดได้ประมาณ 100,000 คน ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของเป้าหมาย กระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นส่วนหนึ่งในการนำเด็กนักเรียนที่ติดยาเสพติดเข้าสู่การบำบัดเพื่อให้นโยบายของรัฐบาลเดินไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ 300,000 คน
