หวั่นยอดกู้ กรอ.ต่ำกว่าเป้า ศธ.เตรียมเร่งประชาสัมพันธ์ เลขา สกอ.ชี้เสียดายโควตาแจงปีการศึกษา 55 มีโควตาถึง 7 หมื่นทุนปรากฎเด็กขอกู้เพียง 1.7 หมื่นเท่านั้น ขณะที่ปีนี้ 56 ได้ถึง 1 แสนโควตา แนะเด็กดูจุดเด่นของ กรอ.-กยศ.และตัดสินใจยื่นกู้ได้จนถึง 30 มิ.ย.นี้ผ่านระบบ e - Studentloan
นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) เปิดเผยถึงผลการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ตนได้เสนอต่อที่ประชุมให้มีการเร่งประชาสัมพันธ์ให้นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ระดับอนุปริญญา/ระดับปริญญาตรี ตัดสินใจเลือกว่าจะยื่นกู้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หรือกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) เพราะปัจจุบันนักศึกษาสามารถเลือกกู้ได้ทั้งสองกองทุน อย่างไรก็ตามในการในการกู้ยืมปีการศึกษา 2555 ที่ผ่านมา พบว่า นักศึกษาศึกษาส่วนใหญ่จะยื่นกู้ กยศ.ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกู้ต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยมัธยมศึกษา ส่วนกรอ. มีจำนวนผู้กู้น้อยมาก โดยในปีการศึกษา 2555 สกอ.ได้โควตามาจำนวน 70,000 ทุน แต่มีผู้ยืนกู้เพียง 17,000 คนเท่านั้น ซึ่งน่าเสียดาย
ทั้งนี้ ในปีการศึกษา 2556 นี้ กยศ.ได้เปิดให้นักเรียน นักศึกษา ยื่นกู้ กยศ.และ กรอ.ผ่านระบบ e-Studentloan แล้วตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม ถึง 30 มิถุนายน ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่มากก็จะครบกำหนดแล้ว แต่ปรากฏว่ายังมีนักศึกษามาขอกู้ไม่มากเท่าที่ควร ทั้งที่ สกอ.ได้โควตามาถึง 100,000 ทุน ดังนั้น ตนจึงเป็นห่วงสถานการณ์ว่าจะมีจำนวนผู้กู้ กรอ.น้อยเหมือนปีที่ผ่านมา จึงอยากให้นักศึกษาหันมากู้ กรอ.มากขึ้น ส่วนคนที่เคยกู้ กยศ.มาในขณะที่เรียนมัธยมก็สามารถเปลี่ยนมากู้ กรอ.ได้
อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้มีสิทธิกู้นั้นมอง กรอ.เป็นอีกทางเลือกหนึ่งด้วยเพราะเชื่อว่าหากเลือก กรอ.โอกาสได้มีแน่นอน เพราะส่วนใหญ่มุ่งเลือกกู้ กยศ.และมีจำนวนผู้กู้มาก ซึ่งทั้ง 2 กองทุนจุดเด่นต่างกัน โดย กยศ.จะเน้นผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ที่รายได้ครอบครัวต้องไม่เกิน 200,000 ต่อปี ส่วน กรอ.ไม่มีการกำหนดรายได้ขั้นต่ำของครอบครัว และจะชำระคือต่อเมื่อมีเงินเดือน 16,000 บาทจึงอยากให้มองจุดเด่นของแต่ละกองทุนและตัดสินใจให้ดี
นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) เปิดเผยถึงผลการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ตนได้เสนอต่อที่ประชุมให้มีการเร่งประชาสัมพันธ์ให้นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ระดับอนุปริญญา/ระดับปริญญาตรี ตัดสินใจเลือกว่าจะยื่นกู้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หรือกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) เพราะปัจจุบันนักศึกษาสามารถเลือกกู้ได้ทั้งสองกองทุน อย่างไรก็ตามในการในการกู้ยืมปีการศึกษา 2555 ที่ผ่านมา พบว่า นักศึกษาศึกษาส่วนใหญ่จะยื่นกู้ กยศ.ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกู้ต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยมัธยมศึกษา ส่วนกรอ. มีจำนวนผู้กู้น้อยมาก โดยในปีการศึกษา 2555 สกอ.ได้โควตามาจำนวน 70,000 ทุน แต่มีผู้ยืนกู้เพียง 17,000 คนเท่านั้น ซึ่งน่าเสียดาย
ทั้งนี้ ในปีการศึกษา 2556 นี้ กยศ.ได้เปิดให้นักเรียน นักศึกษา ยื่นกู้ กยศ.และ กรอ.ผ่านระบบ e-Studentloan แล้วตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม ถึง 30 มิถุนายน ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่มากก็จะครบกำหนดแล้ว แต่ปรากฏว่ายังมีนักศึกษามาขอกู้ไม่มากเท่าที่ควร ทั้งที่ สกอ.ได้โควตามาถึง 100,000 ทุน ดังนั้น ตนจึงเป็นห่วงสถานการณ์ว่าจะมีจำนวนผู้กู้ กรอ.น้อยเหมือนปีที่ผ่านมา จึงอยากให้นักศึกษาหันมากู้ กรอ.มากขึ้น ส่วนคนที่เคยกู้ กยศ.มาในขณะที่เรียนมัธยมก็สามารถเปลี่ยนมากู้ กรอ.ได้
อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้มีสิทธิกู้นั้นมอง กรอ.เป็นอีกทางเลือกหนึ่งด้วยเพราะเชื่อว่าหากเลือก กรอ.โอกาสได้มีแน่นอน เพราะส่วนใหญ่มุ่งเลือกกู้ กยศ.และมีจำนวนผู้กู้มาก ซึ่งทั้ง 2 กองทุนจุดเด่นต่างกัน โดย กยศ.จะเน้นผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ที่รายได้ครอบครัวต้องไม่เกิน 200,000 ต่อปี ส่วน กรอ.ไม่มีการกำหนดรายได้ขั้นต่ำของครอบครัว และจะชำระคือต่อเมื่อมีเงินเดือน 16,000 บาทจึงอยากให้มองจุดเด่นของแต่ละกองทุนและตัดสินใจให้ดี