นายประวิทย์ บึงไสย์ เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย หรือ สคท.เปิดเผยถึงนโยบายการยุบโรงเรียนขนาดเล็กของกระทรวงศึกษาธิการ โดยระบุว่า กรณีนี้มีการพูดคุยกันมานาน และที่ผ่านมาพยายามเสนอว่า ควรมีการพิจารณาถึงความจำเป็นของการเปิดโรงเรียนขนาดเล็ก โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่กันดารและห่างไกล ไม่ควรมองแต่เรื่องจำนวนเด็ก เพื่อเป็นตัวกำหนดการดำรงอยู่ของโรงเรียน
สำหรับสิ่งที่รัฐบาลควรต้องพิจารณาคือ เรื่องชีวิตชุมนุม และวิธีการคงอยู่ของโรงเรียนขนาดเล็ก ก่อนจะดำเนินการ จึงอยากเห็นการพูดคุยตลอดแนว เพราะรัฐได้ใช้งบประมาณจำนวนมากในการอุดหนุนโรงเรียนมาตลอด จึงไม่อยากให้เป็นการดำเนินการที่สูญเปล่า ส่วนกรณีที่ระบุว่า ครูไม่ทำหน้าที่การสอน และมีปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันในโรงเรียนนั้น เห็นว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวจะพิจารณาตามหลักการการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก 3 ข้อ คือ 1.เด็กทุกคนต้องมีที่เรียน 2.ไม่เป็นภาระของเด็ก และ 3.ไม่ขัดแย้งกับชุมชน ส่วนการเคลื่อนไหวคัดค้านนั้นเห็นว่า ไม่ควรจับประเด็นเพียงแค่ว่าจะยุบโรงเรียน แล้วนำมาเคลื่อนไหวคัดค้าน เพราะอาจทำให้กรณีดังกล่าวถูกโยงเป็นไปเครื่องมือทางการเมือง
นายชินภัทร ระบุว่า หลังจากนี้ สพฐ.กำลังเฝ้าดูการเคลื่อนไหวคัดค้านที่เกิดขึ้น ซึ่งหากมีบุคลากรในสังกัดเข้าร่วมต้องพิจารณาว่าเคลื่อนไหวในขอบเขตที่เหมาะสม หรือมีพฤติกรรมกระทบกระเทือนต่อหน่วยงานหรือไม่ ซึ่งทุกคนมีสิทธิในการแสดงออก แต่ต้องอยู่ในระเบียบกติกาของกฎหมาย หากเป็นข้าราชการต้องคำนึงถึงกฎระเบียบ อยากให้ครูและผู้บริหารโรงเรียนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี โดยครูมีหน้าที่จัดการเรียนการสอน และผู้บริหารโรงเรียนมีหน้าที่บริหารและสร้างความเข้าใจที่ดีแก่ชุมชน และในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ เขตพื้นที่ประถมศึกษา 162 เขต จะส่งข้อมูลผลสำรวจการดำเนินการโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า 60 คน ให้ สพฐ.ก่อนจะสรุปจำนวนที่คาดว่า เข้าข่ายที่จะยุบรวม ตามแผนบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กประจำปีการศึกษา 2556 ภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้
สำหรับสิ่งที่รัฐบาลควรต้องพิจารณาคือ เรื่องชีวิตชุมนุม และวิธีการคงอยู่ของโรงเรียนขนาดเล็ก ก่อนจะดำเนินการ จึงอยากเห็นการพูดคุยตลอดแนว เพราะรัฐได้ใช้งบประมาณจำนวนมากในการอุดหนุนโรงเรียนมาตลอด จึงไม่อยากให้เป็นการดำเนินการที่สูญเปล่า ส่วนกรณีที่ระบุว่า ครูไม่ทำหน้าที่การสอน และมีปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันในโรงเรียนนั้น เห็นว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวจะพิจารณาตามหลักการการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก 3 ข้อ คือ 1.เด็กทุกคนต้องมีที่เรียน 2.ไม่เป็นภาระของเด็ก และ 3.ไม่ขัดแย้งกับชุมชน ส่วนการเคลื่อนไหวคัดค้านนั้นเห็นว่า ไม่ควรจับประเด็นเพียงแค่ว่าจะยุบโรงเรียน แล้วนำมาเคลื่อนไหวคัดค้าน เพราะอาจทำให้กรณีดังกล่าวถูกโยงเป็นไปเครื่องมือทางการเมือง
นายชินภัทร ระบุว่า หลังจากนี้ สพฐ.กำลังเฝ้าดูการเคลื่อนไหวคัดค้านที่เกิดขึ้น ซึ่งหากมีบุคลากรในสังกัดเข้าร่วมต้องพิจารณาว่าเคลื่อนไหวในขอบเขตที่เหมาะสม หรือมีพฤติกรรมกระทบกระเทือนต่อหน่วยงานหรือไม่ ซึ่งทุกคนมีสิทธิในการแสดงออก แต่ต้องอยู่ในระเบียบกติกาของกฎหมาย หากเป็นข้าราชการต้องคำนึงถึงกฎระเบียบ อยากให้ครูและผู้บริหารโรงเรียนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี โดยครูมีหน้าที่จัดการเรียนการสอน และผู้บริหารโรงเรียนมีหน้าที่บริหารและสร้างความเข้าใจที่ดีแก่ชุมชน และในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ เขตพื้นที่ประถมศึกษา 162 เขต จะส่งข้อมูลผลสำรวจการดำเนินการโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า 60 คน ให้ สพฐ.ก่อนจะสรุปจำนวนที่คาดว่า เข้าข่ายที่จะยุบรวม ตามแผนบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กประจำปีการศึกษา 2556 ภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้