xs
xsm
sm
md
lg

ชาวหัวไทร นครศรีฯ หนุนสร้างเขื่อนกันคลื่น หวั่นไม่ผ่าน EIA

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - กรมโยธาธิการและผังเมือง จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล พื้นที่ชายฝั่งบ้านปากระวะ ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ระยะทาง 700 เมตร ขณะที่ชาวบ้านสนับสนุนโครงการอย่างเต็มที่ แต่กังวลในขั้นตอนของ EIA

วันนี้ (13 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาการเปรียญวัดปากระวะ ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช นายกฤติพงษ์ คงแข็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะครั้งที่ 1 โครงการออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล พื้นที่ตำบลหน้าสตน บริเวณบ้านปากระวะ ความยาว 700 เมตร ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมือง และบริษัทที่ปรึกษาจัดขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ และชี้แจงรายละเอียดโครงการให้ประชาชนในระดับพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการ ผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วมประชุมประมาณ 200 คน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลอ่าวไทยมีความยาวถึง 225 กิโลเมตร และมีพื้นที่ชายฝั่งที่ได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่ง ที่ได้รับความเสียหายรุนแรงหลายพื้นที่ ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน เช่น พื้นที่แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง และพื้นที่ อ.หัวไทร ซึ่งการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ และมีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะคนในพื้นที่จะรับรู้สภาพปัญหาดีที่สุด มีประสบการณ์อย่างยาวนาน เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปประกอบกับความรู้ทางวิชาการ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาประสบความสำเร็จ และยั่งยืน

ขณะที่ นายไพโรจน์ เทศอ่ำ วิศวกรชำนาญการ กรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้รับงบประมาณเพื่อดำเนินการโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลในจังหวัดนครศรีธรรมราช บริเวณชายฝั่งโรงเรียนวัดปากระวะ และวัดปากระวะ หมู่ที่ 5 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร ความยาว 700 เมตร เพื่อป้องกันทรัพย์สินของทางราชการ และของประชาชนมิให้ถูกคลื่นกัดเซาะจมหายไปในทะเล

แต่การดำเนินโครงการดังกล่าวที่มีความยาวตั้งแต่ 200 เมตรขึ้นไป ต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม นำเสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมราชและสิ่งแวดล้อมพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการ กรมโยธาธิการและผังเมือง จึงว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาให้เป็นผู้ดำเนินการศึกษาออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ในครั้งนี้

นายอรินทร์ โสมบ้านกวย ผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อม กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา กล่าวว่า พื้นที่ชายฝั่งที่ดำเนินโครงการถือว่ามีความรุนแรงจากการกัดเซาะของคลื่นทะเล และยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดำเนินการ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวจึงได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทำการออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ และหน่วยงานต่างๆ จำนวน 3 ครั้ง ส่วนการก่อสร้างได้กำหนดทางเลือกไว้ 3 แบบ คือ เขื่อนหินใหญ่เรียง เขื่อนหินเบียน และเขื่อนหินทิ้ง ซึ่งแต่ละแบบงบประมาณ และระยะเวลาในการก่อสร้างแตกต่างกัน

ขณะที่ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนที่เข้าร่วมประชุม ส่วนใหญ่สนับสนุนกรมโยธาธิการและผังเมือง ให้รีบก่อสร้างเขื่อนโดยเร็วที่สุด เพราะประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการกัดเซาะชายฝั่งมาเป็นเวลานานแล้ว บางครอบครัวต้องย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่น แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ การศึกษาและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม จะใช้เวลาค่อนข้างยาวนาน หากไม่ผ่านความเห็นชอบจาก สนผ. โครงการก็เกิดขึ้นไม่ได้ สุดท้ายผลกระทบก็ตกอยู่ที่ประชาชนเช่นเดิม

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น