ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้อำนวยการส่วนบูรณะ ทางหลวงชนบทที่ 12 สงขลา ลงพื้นที่ตรวจถนนเลียบชายทะเล หลังถูกคลื่นซัดกระหน่ำอีกครั้ง ใช้งบฉุกเฉิน 3 ล้าน นำเครื่องจักร และหินขนาดใหญ่ทำแนวกั้นคลื่นความยาว 100 เมตร เลียบแนวถนน ป้องกันคลื่นกัดเซาะถนนเป็นการชั่วคราว รองบฯ สร้างกำแพงเสาเข็มถาวรในปี 2557
วันนี้ (19 ก.พ.) นายลัทธวุฒิ สุขจุล ผู้อำนวยการส่วนบูรณะ สำนักทางหลวงชนบทที่ 12 สงขลา พร้อมด้วย นายมงคล มุณีรัตน์ ผู้อำนวยการ ศูนย์บำรุงทางหลวงชนบท อำเภอนาทวี และนายสมพร พุทธศรี นายช่างโยธาชำนาญงาน ลงพื้นที่ตรวจความเสียหายถนนเลียบชายทะเล หมายเลข สข.5004 ของกรมทางหลวงชนบท สายสงขลา-นาทับ ในพื้นที่ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ระหว่าง กม.ที่ 6-7 ซึ่งใกล้กับจุดเดิม ที่ถูกคลื่นซัดพังเสียหายเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา หลังถูกคลื่นซัดกระหน่ำอีกครั้งหนึ่ง
จากการตรวจสอบพบว่า คลื่นซัดกระหน่ำดินทรายใต้ท้องถนนอยู่ตลอดเวลา ทำให้ขอบถนนพังเสียหายเข้ามาความยาวประมาณเกือบ 20 เมตร ตามแนวชายหาด สำหรับสาเหตุที่ทำให้ถนนบริเวณนี้ต้องประสบปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งจนถนนขาดพังเสียหาย เนื่องจากไม่มีการปักเสาซัปพลายสร้างกำแพงกันคลื่น เหมือนจุดอื่นๆ ที่ไม่มีปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ทำให้ตลอดแนวถนนหมายเลข สข.5004 ของกรมทางหลวงชนบท สายสงขลา-นาทับ มีจุดนี้จุดเดียวที่ถนนพังเสียหาย
โดยสำนักทางหลวงชนบทที่ 12 สงขลา ได้ใช้งบฉุกเฉิน จำนวน 3 ล้านบาท นำรถแบ็กโฮ และหินขนาดใหญ่ทำแนวกั้นคลื่นจากจุดเดิมไปตามแนวถนนเลียบชายทะเลที่ถูกคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ความยาว 100 เมตร เพื่อป้องกันคลื่นกัดเซาะถนนพังเสียหาย โดยได้สั่งหินขนาดใหญ่มาลงเป็นการด่วนในวันนี้แล้ว สำหรับบริเวณที่ถนนขาดจุดเดิมก็ได้เสริมหินเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เนื่องจากบริเวณนี้มีรถเทรลเลอร์บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์วิ่งผ่านในการรับ-ส่งสินค้าแปรรูปสัตว์น้ำจากโรงงานตลอดเวลาด้วย
นายลัทธวุฒิ สุขจุล ผู้อำนวยการส่วนบูรณะ สำนักทางหลวงชนบทที่ 12 สงขลา เปิดเผยว่า วันนี้เรามาคืนสภาพถนนก่อนโดยใช้งบประมาณฉุกเฉิน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เส้นทางสัญจรก่อน สำหรับบริเวณถนนที่ถูกคลื่นกัดเซาะ เราจะทำเป็นแนวหินกันคลื่นประมาณความยาว 100 เมตร โดยใช้งบประมาณ 3 ล้านบาท สำหรับแนวหินกันคลื่นไม่ใช่เป็นแบบถาวร แต่ทำเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จะสามารถป้องกันคลื่นได้นานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่ที่ความแรงของคลื่นด้วย คิดว่าคงจะใช้ได้นานพอสมควร เมื่อได้งบมาสร้างแบบถาวรแล้วประชาชนก็จะได้รับประโยชน์อยู่ตลอดเวลา
