ระนอง - กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ม่วงกลวง จ.ระนอง เตรียมสร้างแนวเขื่อนไม้ไผ่ยาว 600 เมตร แก้ปัญหาคลื่นกัดเซาะแนวชายฝั่ง
ความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งบ้านอ่าวเคย จนชายฝั่งจมหายไปในทะเลเข้ามายังพื้นดินกว่า 500 ม.นั้น ทางกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเล ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงสำรวจบริเวณพื้นที่ และเตรียมสร้างแนวเขื่อนไม้ไผ่ยาว 600 ม. เพื่อชะลอความแรงของคลื่น
นายปรีชา ปินัง กำนัน ม. 4 ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง กล่าวว่า ทางกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเล ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงสำรวจบริเวณพื้นที่ที่ประสบปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง และเตรียมที่จะทำแนวเขื่อนไม้ไผ่ยาว 600 เมตร โดยกั้นลึกลงไปในทะเล ห่างจากฝั่งประมาณ 50 เมตร ความยาว 600 เมตร เพื่อเป็นแนวกั้นบริเวณหน้าอ่าวเคย เป็นแนวกันชะลอความแรงของคลื่น เพื่อลดผลกระทบจากคลื่นทะเลที่แปรปรวนพัดเข้ามากัดเซาะชายฝั่ง
โดยทาง จนท.กรมทรัพยากรฯ ได้แจ้งแก่ตนว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้ โดยขณะนี้ได้มีการทดลองนำไม้ไผ่ไปจัดวางเป็นแนวยาวประมาณ 1 เมตรเพื่อทดสอบความแรงของกระแสคลื่นเพื่อที่จะได้ใช้เป็นข้อมูลในการก่อสร้างจริง ซึ่งการดำเนินการที่เกิดขึ้นถือเป็นความหวังของชาวบ้านอ่าวเคยรวม 145 ครัวเรือนที่กำลังวิตกว่าปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งจะกินลึกเข้ามาถึงชุมชนในไม่ช้าหากยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
นายปรีชา กล่าวว่า จากสภาพคลื่นลมในทะเลอันดามันด้าน จ.ระนอง ที่แปรปรวนทั้งคลื่นลมที่มีกำลังแรงขึ้น และทิศทางการพัดของลม และคลื่นลมที่เปลี่ยนทิศทางส่งผลให้บริเวณพื้นที่ชายฝั่งใน จ.ระนอง ถูกน้ำทะเลพัดกัดเซาะจนได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณ ต.ม่วงกลวง ซึ่งเป็นบริเวณคุ้งอ่าวขนาดใหญ่พบถูกกระแสคลื่นลมที่เปลี่ยนทิศพัดทำลายจนเซาะกินลึกเข้ามายังพื้นที่แล้วหลายร้อยเมตร จนสวนมะพร้าวจมหายไปในทะเลเกือบทั้งสวนกว่า 5 ไร่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณคุ้งอ่าวเคย บ้านอ่าวเคย ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ซึ่งเดิมเคยเป็นลักษณะอ่าว ทั้งยังคงเป็นชายหาดที่มีหาดทรายที่สวยงาม นอกจากนี้ ยังพบปัญหาเดียวกัน เช่น บริเวณเกาะพยาม, เกาะกำใหญ่