ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ครบรอบ 100 วันการเสียชีวิตของ “พีระ ตันติเศรณี” เครือข่ายพลเมืองสงขลาจัดงานรำลึกพร้อมเปิดตัวรูปปั้นเหมือนจริงเชิดชูคุณความดี ขณะที่นายก ทน.สงขลา คนใหม่ยืนยันสานต่อเจตนารมณ์ป้องแหลมสนอ่อน ด้านเครือข่ายพลเมืองก็เดินหน้าต้านโครงการกระเช้าลอยฟ้าเต็มสูบ
เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (14 ก.พ.) ที่หน้าสำนักงานสงขลาฟอรั่ม ถ.นครใน ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นจุดที่นายพีระ ตันติเศรณี อดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา ถูกลอบยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 พ.ย.2555 และครบรอบ 100 วันในวันที่ 14 ก.พ.2556 ซึ่งตรงกับวันวาเลนไทน์ หรือเทศกาลแห่งความรัก เครือข่ายพลเมืองสงขลาร่วมกับสงขลาฟอรั่ม ญาติมิตร นักวิชาการ และประชาชนที่เคารพรักนายพีระ ร่วมกันจัดงานครบรอบ 100 วันของการจากไปขึ้น
โดยในช่วงเช้ามีการทำบุญทางศาสนา และในช่วงค่ำได้รวมตัวกันเพื่อวางดอกไม้แสดงความรัก จุดเทียนรำลึกถึง พร้อมถือฤกษ์วางรูปปั้นขนาดครึ่งตัวของนายพีระเพื่อเชิดชูเกียรติ และคุณงานความดีในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรท้องถิ่น โดยมีนางมาลี ตันติเศรณี มารดาของนายพีระ เป็นผู้ตัดริบบิ้นเปิดตัวรูปปั้น พร้อม พญ.พิชญา พรรคทองสุข ภรรยาของนายพีระ และนายสมศักดิ์ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา เข้าร่วมงาน
นางพรรณิภา โสตถิพันธุ์ ผู้อำนวยการสงขลาฟอรั่ม ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่นายพีระถูกลอบสังหาร เปิดเผยว่า วันที่ 14 ก.พ.2556 ถือเป็นวาระพิเศษครบรอบ 100 วันการเสียชีวิตของนายพีระ ตันติเศรณี ซึ่งการเสียชีวิตนี้ทำให้คนสงขลาตื่นตัวเกี่ยวกับการดูแลทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นมากขึ้น ในฐานะที่ตนทำงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมา 30 ปี พูดได้ว่าภาคประชาชนที่สนใจเรื่องเหล่านี้มีน้อยมาก พอเกิดเหตุสะเทือนขวัญจากการลอบสังหารนายพีระ ทำให้หลายๆ คนได้ฉุกคิดเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และประกอบกับการครบรอบ 100 วันที่เสียชีวิตตรงกับวันแห่งความรักพอดี จึงจัดงานนี้ขึ้น ซึ่งแม้ว่าจะเป็นงานเล็กๆ แต่ก็คนที่มาร่วมงานก็ลุ่มลึกในเชิงคุณค่า
“จุดที่นายกพีระเสียชีวิตตรงหน้าสำนักงานสงขลาฟอรั่ม เราวางรูปเขาตรงนั้นมาครบ 100 วันแล้ว หลายๆ ฝ่ายก็หารือกันว่า หลัง 100 วันจะเก็บรูปภาพ และแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นที่มีความหมาย รูปปั้นก็ปั้นเสร็จพอดี นิทรรศการ หนังสือต่างๆ ก็จะทยอยทำ สำหรับรูปปั้นนั้น เดิมคิดกันว่าจุดที่ท่านล้มลงเสียชีวิตที่หน้าสำนักงานสงขลาฟอรั่มจะทำเป็นหมุดบนพื้น แต่มีผู้เสนอว่าน่าจะทำรูปปั้นด้วยก็ปรับเปลี่ยนกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมีอาจารย์พลากร พันธุ์มณี อาจารย์คณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย ท่านอยากจะช่วยปั้น ก็จัดทำรูปปั้นขึ้นวางไว้ที่สำนักงานสงขลาฟอรั่ม ให้ประชาชนได้เข้าชม เพื่อเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมือง”
สำหรับเรื่องการเดินหน้าฟื้นฟูชายหาด ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สงขลาฟอรั่มร่วมกันนายพีระ ตันติเศรณี รวมทั้งนักวิชาการ เยาวชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง นางพรรณิภา โสตถิพันธุ์ กล่าวว่าโครงการนี้จะยังคงดำเนินต่อไป เพราะสงขลาฟอรั่มเดินหน้าทำเรื่องชายหาดมาเป็นเวลานานแล้ว พอได้ร่วมงานกับนายพีระก็ช่วยส่งเสริมกันและกันมากขึ้น ตอนนี้ผลปรากฏว่า การเติมทรายบริเวณชายหาดได้ผลดีมาก มีชาวบ้านที่ชอบสังเกตทะเลยืนยันว่า ตั้งแต่เติมทรายให้ชายหาดยังไม่มีต้นสนล้มสักต้นเลย เพราะปีที่ผ่านๆ มา มรสุมพัดมาเจอเขื่อนกันคลื่นที่เป็นของแข็งก็ทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่ง ส่งผลให้ต้นสนบริเวณชายหาดล้มลงจำนวนมาก
ด้าน นางพิชญา แก้วขาว เครือข่ายภาคประชาชน จ.สงขลา กล่าวถึงความคืบหน้าของการรวมตัวคัดค้านโครงการกระเช้าลอยฟ้าของ อบจ.สงขลา ว่า หลังจากศาลปกครองสั่งชะลอโครงการกระเช้าลอยฟ้า องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา นำโดยนายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา ก็ส่งเอกสารยื่นอุทธรณ์ ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำต่อคือเดินหน้าคัดค้านให้โครงการนี้หยุด ตอนนี้เราได้ร่วมมือกับนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยต่างๆ แล้วเตรียมยื่นเรื่องถึงศาลปกครองในประเด็นที่หลากหลายขึ้นเพื่อช่วยระงับโครงการกระเช้าลอยฟ้า เพราะเป็นต้นเหตุของการตาย รวมทั้งความไม่ยุติธรรม และความไม่โปร่งใสที่ทำให้สงขลามัวหมอง
“พร้อมกันนี้ หลายภาคส่วนได้รวมตัวกันจัดตั้ง “มูลนิธิพีระ” เพื่อเดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์พัฒนาเมืองสงขลาให้ยั่งยืน ทั้งปกป้องเมืองเก่าและอนุรักษ์ทรัพยากรท้องถิ่น การตายของนายพีระเป็นการปลุกคนสงขลาจำนวนมากให้ตื่นตัวทั้งในเรื่องการอนุรักษ์มรดกเมืองเก่า การดูแลชายหาด และปกป้องแหลมสนอ่อน เกิดการรวมตัวของภาคพลเมืองที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น คนสงขลาต้องช่วยกันให้กำลังคนทำงาน ถ้าเห็นอะไรที่รู้สึกอึดอัดต้องถามทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ต้องกล้าที่จะเป็นเสียงสะท้อน เพื่อช่วยกันสอดส่อง ตรวจสอบ และดูแลบ้านเมือง” นางพิชญากล่าว
ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา ลูกพี่ลูกน้องของนายพีระที่ลงสมัครเลือกตั้งชิงตำแหน่งโดยประกาศเจตนารมณ์สานต่อนโยบายดูแลบ้านเมืองของพี่ชาย กล่าวว่า สิ่งที่เดินหน้าสานต่อจากนายกพีระมีทั้งการอนุรักษ์เมืองเก่าสงขลาให้เป็นมรดกโลก ถนนคนเดินแต่แรกที่สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งการเติมทรายที่หาดหาด และการเดินหน้าให้แหลมสนอ่อนเป็นพื้นที่สีเขียวของเมือง
“ผมกำลังจะทำโครงการเอาสายไฟฟ้าลงดิน โดยเริ่มจาก ถ.นครใน เป็นที่แรกเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในแง่ของย่านเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เพราะบ้านเรือนบริเวณนี้ก็เป็นสถาปัตยกรรมแบบโบราณ รวมทั้งถนนสายนี้เป็นถนนที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จพระราชดำเนินผ่านด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าว
ในส่วนของแหลมสนอ่อน ทางเทศบาลนครสงขลาจะออกกฎหมายท้องถิ่นดำเนินการให้เป็นพื้นที่สีเขียวอ่อนในเร็วๆ นี้ คือ ไม่มีให้สิ่งแปลกปลอม หรือสิ่งปลูกสร้างในบริเวณนั้น สำหรับโครงการกระเช้าลอยฟ้าตอนนี้ศาลปกครองมีคำสั่งระงับชั่วคราว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาก็สั่งระงับโครงการเช่นกัน ทั้งนี้ ถ้า อบจ.สงขลา ยืนยันที่จะสร้างโครงการดังกล่าว ก็จะต้องดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างจากเทศบาลนครสงขลาใหม่อีกครั้ง เพราะโดยอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ไม่ว่าหน่วยงาน หรือองค์กรใดที่ต้องการก่อสร้างอาคารจะต้องมาขออนุญาตการก่อสร้างจากเทศบาลซึ่งเป็นผู้ดูแลพื้นที่
สำหรับการเติมทรายบริเวณชายหาดในพื้นที่ อ.เมืองสงขลา นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่สำรวจแล้วพบว่า การเติมทรายได้ผลดีกว่าการใช้บิ๊กแบ็ก หรือเขื่อนหินกันคลื่น เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของแข็งจะทำให้คลื่นกัดเซาะชายหาดในบริเวณถัดไปแทน ทางเทศบาลนครสงขลาจะจัดตั้งงบประมาณสำหรับการเติมทรายเพื่อแก้ปัญหานี้ จะได้มีพื้นที่ชายหาดให้พี่น้องประชาชนใช้พักผ่อนหย่อนใจต่อไป
