ร้านคุณปุ้ม “หนมจีน” หรอยอย่างแรง... ราดน้ำแกง 5 ชนิด คิดแค่จานละ 20 บาท

หากเดินทางมาถึงจังหวัดตรังในยามเช้า หนึ่งในอาหารที่ถือว่าเป็นจุดเด่น และแนะนำให้ทานได้แก่ “ขนมจีนน้ำยาสูตรปักษ์ใต้” ซึ่งมีร้านค้าที่จำหน่ายกันมากมายหลายแห่ง แต่มีอยู่ที่หนึ่งซึ่งได้รับการกล่าวขานไปทั่วว่ามี “ขนมจีน” ที่ให้เลือกทานกันหลายสูตร แถมยังมีรสชาติอร่อย สะอาด ราคาเป็นกันเอง และถูกสุขอนามัยด้วย พร้อมแนะนำมาด้วยว่าควรไปทานตั้งแต่ช่วงเช้า เพราะหากรอไปช่วงสายอาจจะอดกินก็เป็นได้

“ร้านคุณปุ้ม” ตั้งอยู่เลขที่ 73/7 ถนนเวียนกะพัง ในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งยังอยู่ในทำเลที่เป็นธรรมชาติริมหนองน้ำขนาดใหญ่ ใกล้กับ “สระกะพังสุรินทร์” สวนสาธารณะเก่าแก่ประจำจังหวัดตรัง ที่สามารถนั่งทานอาหารไป ควบคู่กับทิวทัศน์ที่ร่มรื่นกว้างขวางสุดลูกหูลูกตา โดยร้านแห่งนี้สามารถรองรับลูกค้าได้มากถึง 50 คน เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงเที่ยงวัน

“คุณสุภาพร อินทร์คำ” วัย 53 ปี หรือ “พี่สุ” บอกว่า ได้ช่วยกันสานต่อ “ร้านขนมจีน” ที่ “คุณแม่เสงี่ยม จอมเกาะ” เคยขายดีมากในสมัยที่ยังเป็นแค่เพิงเล็กๆ ริมถนนที่เก่า ร่วมกับพี่ชาย คือ “คุณเชาวลิต จอมเกาะ” หรือ “พี่ชีพ” ได้ขยับขยายขึ้นเป็นบ้านหลังโตขนาด 2 ชั้น ริมถนนที่ใหม่มาเป็นระยะเวลานานกว่า 9 ปีแล้ว จนกลายเป็นร้านที่โด่งดังไปทั่วประเทศในที่สุด

ทั้งนี้ “ร้านคุณปุ้ม” จะเปิดให้บริการอาหารเช้าแบบพื้นบ้านชาวตรัง ผสมผสานกับแบบชาววังโบราณ เพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง นักท่องเที่ยว รวมไปถึงลูกค้าทั่วไปในทุกๆ เช้า โดยน้ำแกง “ขนมจีน” จะมีให้เลือกกันถึง 5 ชนิด ประกอบด้วย น้ำยาปักษ์ใต้ใส่กะทิ น้ำยาป่า น้ำพริก แกงเขียวหวานไก่ และแกงไตปลา โดยทุกๆ สูตรจะมีราคาจานละ 20 บาท ยกเว้นแกงเขียวหวานไก่ ที่จะมีราคาจานละ 25 บาท

สำหรับอาหารจานเด็ดที่ชวนชิมก็คือ “ขนมจีนแกงไตปลาปักษ์ใต้” ผสมกับ “น้ำยาปักษ์ใต้ใส่กะทิ” โดย “แกงไตปลา” จะช่วยเพิ่มความจัดจ้าน และยังมีส่วนผสมของสมุนไพรไทย รวมทั้งผักชนิดต่างๆ อีกมากมายหลากหลายชนิด เช่น มันเทศ ถั่วฝักยาว มะเขือเปาะ ถั่วพู ฟักทอง ส่วน“น้ำยาปักษ์ใต้ใส่กะทิ” จะให้ความกลมกล่อม กับความหอมของกะทิ เนื่องจากรสชาติจะไม่เผ็ดมาก แล้วแกล้มด้วยพริกทอดหอมๆ เผ็ดๆ

ส่วน “แกงเขียวหวานไก่” จะมีรสชาติออกหวานๆ ปรุงแต่งด้วยเนื้อไก่ที่สับติดกระดูก กับเครื่องใน และฟัก สำหรับเครื่องเคียง นอกจากมีไข่ต้มแล้ว ยังมีหมูสามชั้นทอดติดมันสุดแสนอร่อย และไก่ทอดกรอบด้วย ซึ่งถ้าจะให้ครบเครื่องมากกว่านี้ ต้องแกล้มด้วยผักเหนาะ (ผักแกล้ม-ผักจิ้ม) อีกสารพัด ทั้งยอดหมุย ยอดมะม่วงหิมพานต์ ผักกาดนกเขา ใบมันปู ถั่วพู ถั่วฝักยาว แตงกวา ผักกาดหอม แตงกวาดอง หน่อไม้ดอง ผักบุ้งลวก ฯลฯ

ส่วนเคล็ดลับในการทำ “แกงไตปลาปักษ์ใต้” ให้อร่อยนั้น อยู่ที่ตอนใส่ไตปลาลงไปต้มกับน้ำ จะต้องใส่ลงไปในขณะที่น้ำกำลังเดือดจัดๆ เพราะถ้าใส่ไตปลาตอนที่น้ำไม่เดือดแล้ว ไตปลาจะเหม็นคาวมาก นอกจากนี้ เนื้อปลาย่างที่นำมาใช้แกงควรจะย่างให้สุกแห้ง เพราะเวลาที่ใส่ลงไปในน้ำแกงเนื้อปลาจะได้ไม่เละ สำหรับปลาที่เหมาะจะนำมาใช้ก็เป็นพวกปลาที่มีเนื้อมากๆ เช่น ปลาสำลี หรือปลาโอ แต่ที่นิยมมากก็เห็นจะเป็นปลาทู

นอกจากนั้น จุดเด่นของร้านนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ การติดป้ายบอกไว้ว่า ให้ลูกค้าทุกคนช่วยบริการตนเอง และคิดเงินให้ด้วยเสร็จสรรพ โดยใช้ระบบเชื่อใจกัน และคิดสตางค์ตามที่ลูกค้าบอก ฉะนั้น ใครก็ตามที่มากินอาหารในร้านนี้แล้วให้หยิบจานขนมจีน แล้วตักน้ำแกงราดมากน้อยตามใจชอบ นอกจากนั้น ทางร้านยังให้บริการข้าวยำน้ำเคยปักษ์ใต้ ชา กาแฟ และของหวานที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละวันด้วย