xs
xsm
sm
md
lg

ลมเปลี่ยนทิศ! ทำประมงตราดหาปลาทูได้เพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตราด-เรือประมงอวนลากคู่ตราดจับปลาทูได้จำนวนมากเพราะลมเปลี่ยนทิศทาง ด้านนายกสมาคมอนุรักษ์ฯ ระบุ ปลาโอ ปลาทูในอ่าวไทยมีมาก

นายฉลอง สร้อยศรีทอง อายุ 50 ปี ไต๋เรือประมงอวนลากคู่โชคดนัยพานิชย์ บ้านอยู่ในเขต ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด เปิดเผยว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เรือประมงอวนลากคู่จำนวน 3 คู่ ได้เข้ามาลากปลาทูบริเวณอ่าวตราด (ช่วงแหลมศอก ต.อ่าวใหญ่-อ่าวแหลมกลัด ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด) ในระยะ 3,600-5,000 เมตร ซึ่งปัจจุบันบริเวณอ่าวตราดมีลักษณะเป็นอ่าว และเป็นปากแม่น้ำตราดไหลออกมา เรือประมงอวนลาก และอวนลากคู่ได้เข้ามาทำประมงในพื้นที่ทุกคืน โดยในแต่ละคืนจะใช้เวลาในการลากอวนนานครั้งละ 4-5 ชั่วโมง ต่อการกู้อวน 1 ครั้ง ซึ่งได้ปลาทูที่มีขนาดความยาวประมาณ 2-4 นิ้ว ครั้งละประมาณ 1,500-2,500 กิโลกรัม

แต่ทั้งนี้ไม่สามารถนำไปขายตามปกติได้เนื่องจากเป็นปลาตัวเล็ก แต่จะขายเป็นปลาเป็ดเพื่อนำไปทำเป็นปลาป่น หรือทำน้ำปลาจะราคา 100-120 บาท/10 กิโลกรัม แต่ละคืนจะขายได้ 25,000-30,000 บาท เหตุเพราะช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ทิศทางลมก็เปลี่ยน กระแสน้ำก็เปลี่ยน ทำให้มีปลาทูจำนวนมาก สามารถทำประมงได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะขายให้แก่พ่อค้า หรือโรงงานทำปลาป่น หรือทำน้ำปลาเป็นหลัก แม้ราคาน้ำมันจะสูง ค่าแรงงานจะขึ้นไป 300 บาท/วัน ก็ต้องออกไปทำประมงเนื่องจากต้องเลี้ยงลูกน้องถ้าไม่ทำจะส่งผลกระทบ

ด้านนายสมเกียรติ สมรรถการ นายกสมาคมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตราด กล่าวว่า สภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทะเลมีการเปลี่ยนแปลง กระแสน้ำไหลเร็วขึ้น ทิศทางลมก็เปลี่ยนไป ทำให้เกิดผลดีต่อทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเลอ่าวตราด โดยเฉพาะโลมาอิรวดี สัตว์น้ำวัยอ่อน ส่วนการที่ประมงอวนลากคู่ไปลากปลาทูได้จำนวนหลายตันในแต่ละครั้ง และส่วนใหญ่จะเป็นปลาทูตัวขนาดเล็ก หรือเป็นลูกปลาทูที่ตัวโตไม่เต็มที่

แม้ขณะนี้ปลาทูในอ่าวตราด และในอ่าวไทยจะมีเป็นจำนวนมากก็ตาม แต่การจับปลาทูในช่วงที่ยังไม่ได้ขนาด และน้ำหนักที่เหมาะสม จึงเป็นเรื่องที่ควรระมัดระวังเพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อปริมาณปลาทูในอ่าวไทยได้ ทางที่ดีควรจะอนุรักษ์ปลาทูเหล่านี้ไว้ให้ได้ขนาด คือ มีอายุ 6-7 เดือน หรือ 1 ปีจะดีที่สุด

นายสมเกียรติ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องดำเนินการแก้ไข หรือดำเนินการก็คือ การขอความร่วมมือจากชาวประมงในการช่วยกันอนุรักษ์สัตว์ทะเลลูกวัยอ่อนเหล่านี้ ซึ่งไม่ใช่เพียงปลาทูเพียงอย่างเดียว แต่สัตว์ทะเลอย่างอื่น เช่น กุ้ง ปูม้า ก็ควรจะอนุรักษ์ด้วยเช่นกัน หรือการขยายพื้นที่อนุรักษ์จาก 3,000 เมตร ขยายไปถึง 5,400 เมตร น่าจะทำให้สัตว์ทะเลวัยอ่อนเติบโต หรือมีอายุที่ยืนยาวขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น