xs
xsm
sm
md
lg

ตื่นตา ชาวกระบี่เตรียมยลโฉมเรือรบหลวงปลดระวาง ก่อนนำไปจมท้องทะเล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กระบี่ - ประชาชนชาวกระบี่ รอรับชมเรือรบหลวง 3 ลำ ที่ปลดระวาง เตรียมเข้าเทียบท่าเรือคงคา หลังภาคเอกชนประสานกองทัพเรือ พร้อมเปิดบริการให้เข้าชม ก่อนน้ำไปจมสู่ท้องทะเล สร้างเป็นอุทยานการเรียนรู้ เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรทางธรรมชาติ

วันนี้ (19 เม.ย.) นายชวน ภูเก้าล้วน ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ด้านนโยบายและแผนการพัฒนาจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่ทางคณะที่ปรึกษาฯ ได้มีโครงการจัดสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเล เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดกระบี่ โดยการเสนอขอเรือรบหลวงที่ปลดระวางแล้วจากกองทัพเรือ ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 นั้น ขณะนี้ทางกองทัพเรือได้ตกลงมอบเรือให้แก่จังหวัดกระบี่ จำนวน 4 ลำ ประกอบด้วย เรือรบหลวงโกลำ เรือรบหลวงตะลิบง เรือรบหลวงราวี และเรือรบหลวงเกล็ดแก้ว

สำหรับเรือรบหลวงที่จะนำมาจมทำเป็นอุทยานใต้ท้องทะเลนั้นมีความสำคัญมาก เนื่องจากจะเป็นปะการังเทียม เป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งอนุรักษ์สัตว์น้ำวัยอ่อน ป้องกันประมงผิดกฎหมายและส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเรือทั้ง 4 ลำ มีการส่งมอบรับเรือ และกำลังลากจูงมายังจังหวัดกระบี่ ซึ่งจะมีการลากจูงมาก่อน จำนวน 3 ลำ ส่วนอีก 1 ลำ คือ เรือเกล็ดแก้ว จะลากจูงมาภายหลัง อย่างไรก็ตาม คาดว่าเวลา 12.00 น. วันนี้ (19 เม.ย.) เรือรบหลวงทั้ง 3 ลำ ก็จะมาถึงท่าเทียบเรือคงคา อ.เมืองกระบี่ จากนั้นจึงพร้อมเปิดให้ประชาชนได้ชมความงดงามก่อนที่จะนำไปจมทำปะการังเทียม

ขณะเดียวกัน ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า สำหรับเงินทุนที่ใช้ในการดำเนินการลากจูงเรือหลวงทั้ง 4 ลำ มาจังหวัดกระบี่ เป็นเงินประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งทางภาคเอกชนเป็นคนออกเองทั้งหมด ไม่มีการใช้งบประมาณของภาครัฐ โดยโครงการนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำหรับจุดที่จะนำเรือไปจมนั้น ประกอบไปด้วย อยู่ที่ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ บริเวณเกาะพีพี เล จำนวน 1 ลำ บริเวณเกาะยาวาซำ จำนวน 3 ลำ ทั้งนี้ เชื่อว่าในอนาคตจะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการท่องเที่ยวให้แก่จังหวัดกระบี่อีกทางหนึ่ง

ด้าน นายพรเทพ สีบุญเรือง คณะทำงานที่ปรึกษาด้านนโยบายการพัฒนาจังหวัดกระบี่ กล่าวด้วยว่า เรือทั้ง 4 ลำ ที่จะนำไปจมที่เกาะพีพี และเกาะยาวาซำ ต.อ่าวนางนั้น จะเป็นศูนย์เรียนรู้ใต้ท้องทะเล เป็นแหล่งศึกษาเรียนธรรมชาติใต้ทะเล และปลุกจิตสำนึกให้เห็นคุณค่า รวมทั้งการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่ชอบสัมผัสบรรยากาศใต้ท้องทะเลได้อีกปีละกว่า 5,000 คน ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกปีละประมาณ 10 ล้านบาท

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น