xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนกระบี่ทุ่ม 10 ล. จมเรือรบปลดระวาง สร้างแหล่งเรียนรู้ใต้ท้องทะเล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระบี่ - ภาคเอกชนกระบี่ ทุ่มทุน 10 ล้าน ลากเรือรบหลวงปลดระวาง 4 ลำ สร้างศูนย์เรียนรู้ใต้ท้องทะเล และเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่พีพี

นายชวน ภูเก้าล้วน ประธานที่ปรึกษา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ด้านนโยบายการพัฒนาจังหวัดกระบี่ ซึ่งแต่งตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ทางคณะที่ปรึกษาฯ ได้มีโครงการจัดสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเล เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดกระบี่ โดยการเสนอขอเรือรบหลวง ที่ปลดระวางแล้วจากกองทัพเรือ ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ซึ่งขณะนี้ ทางกองทัพเรือได้ตกลงมอบให้แก่จังหวัดกระบี่ จำนวน 4 ลำ ประกอบด้วย เรือรบหลวงพระทอง เรือรบหลวงโกลำ เรือรบหลวงตะลิบง และเรือรบหลวงราวี

สำหรับเรือรบหลวงที่จะนำมาจมทำเป็นอุทยานใต้ท้องทะเลนั้น มีความสำคัญมาก เนื่องจากจะเป็นปะการังเทียม เป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งอนุรักษ์สัตว์น้ำวัยอ่อน ป้องกันประมงผิดกฎหมาย ส่งเสริมการท่องเที่ยว และเป็นการส่งเสริมการพัฒนาของจังหวัดกระบี่อีกทางหนึ่งด้วย โดยเรือทั้ง 4 ลำจะมีการส่งมอบรับมอบเรือขึ้นภายในเดือนนี้ ซึ่งตนเชื่อว่าจุดประสงค์ที่ได้วางไว้ข้างต้น คงจะเป็นอีกทางหนึ่งในการพัฒนาจังหวัดตามเจตนารมณ์ สำหรับเรือที่จะนำมาจมนั้นขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการทำความสะอาด ซึ่งคาดว่าอีก 2 เดือนก็จะสามารถลากจูงมาที่จังหวัดกระบี่

ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า สำหรับเงินทุนที่ใช้ในการดำเนินการลากจูงเรือหลวงทั้ง 4 ลำ มาจังหวัดกระบี่ เป็นเงินประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งทางภาคเอกชนเป็นคนควักกระเป๋าเองทั้งหมด ไม่พึ่งงบหลวงแม้แต่บาทเดียว โดยโครงการนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งจุดที่จะนำเรือไปจมนั้น ที่บริเวณเกาะพีพี เล จำนวน 1 ลำ และที่บริเวณเกาะยาวาซำ จำนวน 3 ลำ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการเพิ่มทางเลือกการท่องเที่ยวให้แก่จังหวัดกระบี่อีกทางหนึ่งด้วย

นายพรเทพ สีบุญเรือง คณะทำงานที่ปรึกษาด้านนโยบายการพัฒนาจังหวัดกระบี่ กล่าวด้วยว่า เรือทั้ง 4 ลำ ที่จะนำไปจมที่เกาะพีพี และเกาะยาวาซำ ต.อ่าวนางนั้น จะเป็นศูนย์เรียนรู้ใต้ท้องทะเล เป็นแหล่งศึกษาเรียนธรรมชาติใต้ทะเล และปลุกจิตสำนึกให้เห็นคุณค่า รวมทั้งการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่ชอบสัมผัสบรรยากาศใต้ท้องทะเลได้อีกปีละกว่า 5,000 คน ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกปีละประมาณ 10 ล้านบาท

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น