xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทบ.ลง 3 จชต.ยันไฟใต้เป็นปัญหาในประเทศขอฝ่ายตรงข้ามมาพูดคุยอย่าข่มขู่ด้วยความรุนแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ติดตามสถานการณ์ความรุนแรง และผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานในพื้นที่ ยันปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาภายในประเทศ ไม่ต้องการให้ใครมายุ่งเกี่ยว ฝากถึงฝ่ายตรงข้ามให้ออกมาพูดคุย อย่าใช้ความรุนแรงข่มขู่

วันนี้ (10 เม.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และคณะได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมรับทราบสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในห้วงที่ผ่านมา โดยมี พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาค 4 นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พล.ต.ปราการ ชลยุทธ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจ ยะลา ปัตตานี นราธิวาสสงขลา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

ในที่ประชุม พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ บรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานรอบ 6 เดือน และสถานการณ์ความรุนแรงล่าสุดในพื้นที่ แนวทางขับเคลื่อนการแก้ปัญหาใน 3 จชต. ในห้วงต่อไป หน่วยเฉพาะกิจจังหวัด และหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินทหารเรือ บรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานรอบ 6 เดือน และแผนการปฏิบัติงานในห้วง 6 เดือน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ในวันนี้เป็นการเดินทางลงมาตรวจเยี่ยมตามวงรอบการปฏิบัติงาน และตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี มากำกับดูแลการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และการประสานการปฏิบัติกับทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งทางผู้ว่าราชการจังหวัด และฝ่ายตำรวจประจำพื้นที่ทั้งหมดว่าจะมีแนวทางใดที่จะสามารถลดเหตุร้ายรายวันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเมือง จะทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ในช่วงที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุการณ์รุนแรงหลายครั้ง ถึงแม้ว่าจะไม่มีความรุนแรงมากนักก็ตาม แต่ก็ยังแสดงให้เห็นว่ายังคงมีช่องว่างในบางพื้นที่ บางเวลา ซึ่งจุดนี้ก็ต้องมีการหารือกันเพื่อรับทราบถึงปัญหาของหน่วยปฏิบัติ

นอกจากนี้ ยังต้องการให้ประชาชนมีความเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานตามกฎหมายเป็นหลัก และเราก็จะไม่ให้ค่าความสำคัญกับใครทั้งสิ้น เพราะถือว่าเราเป็นเจ้าหน้าที่ เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่ปฏิบัติผิดกฎหมายก็จำเป็นต้องถูกดำเนินคดี แม้จะมีการพูดคุยเจรจา แต่ฝ่ายความมั่นคงยืนยันจะปฏิบัติตามกฎหมาย

“ในส่วนของผู้ใดก็ตามที่มุ่งหวังจะพูดคุยหารือ ก็ขอให้ไปพูดคุยกับคณะที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง ว่าต้องการให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างไร จึงจะทำให้เหตุการณ์สงบได้ ต่อจากนี้ไป เราคงจะต้องแบ่งแยกการปฏิบัติงานให้ชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความไม่เข้าใจต่อผู้ปฏิบัติกันเอง อีกประการหนึ่งคือ ไม่อยากให้เป็นการยกระดับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขึ้นมา และในส่วนของเรายังคงต้องเน้นย้ำ และกำชับในเรื่องของยาเสพติด และขบวนการผิดกฎหมายที่ยังคงมีความเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้” ผบ.ทบ.กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการต่อผู้ก่อเหตุ เรายังคงใช้กฎหมายเป็นหลักในการดำเนินการเช่นเดิม เว้นแต่เพียงว่า จะทำได้มากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ทั้งนั้นขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่มานาน ซึ่งบางครั้งความระมัดระวังอาจจะผ่อนคลายลงไป แต่ขอให้เห็นใจคนทำงานที่ต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง อาจจะมีความเครียด และปัญหาต่างๆ ที่นอกเหนือจากปัญหาความมั่นคงได้แทรกเข้ามา ซึ่งปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นมีวิธีการแก้ไข 2 อย่าง คือ ความจริงจัง ความเข้มงวด และการเสียสละของเจ้าหน้าที่ อีกส่วนหนึ่งคือ ความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจุดนี้ก็น่าเห็นใจเช่นกัน เพราะประชาชนอยู่ท่ามกลาง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายของรัฐ และฝ่ายผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย โดยส่วนตัวคิดว่าทุกคนต้องการให้เหตุการณ์รุนแรงต่างๆ ได้ยุติ เพราฉะนั้นแล้วคนที่รู้เรื่องราว ข้อมูลต่างๆ และต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข ก็ต้องให้ความร่วมมือกับรัฐ

และทางเรายืนยันจะให้ความดูแลเป็นพิเศษ จะได้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะหากเราไปคาดหวังมาตรการใดมาตรการหนึ่งในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ไม่มีทางสำเร็จได้อยู่แล้ว เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากหลายๆ มิติทับซ้อนกัน และมาจากปัจจัยแวดล้อมที่ต่างกัน ประเด็นสำคัญคือ มีเรื่องของศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้ ยังขอยืนยันว่า เป็นการแก้ปัญหาภายในประเทศ ไม่ต้องการให้ใครมายุ่งเกี่ยว และขึ้นมาเป็นคู่ต่อรองกับเจ้าหน้าที่ เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะต้องตัดสินใจ สำหรับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย และต้องการเคลียร์ตัวเอง ก็ขอให้ออกมาพูดคุยกัน แต่อย่าใช้วิธีการรุนแรงมาข่มขู่ กดดันเจ้าหน้าที่ให้ลดการปฏิบัติลง เพราะหากยิ่งทำแบบนั้น เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการการปฏิบัติมากขึ้น ทั้งนี้ อยู่ภายใต้กรอบแห่งกฎหมาย

“ข้อสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเข้าใจว่า ลูกหลานได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้น เมื่อถึงเวลาปะทะกับเจ้าหน้าที่และเกิดการบาดเจ็บสูญเสีย ก็ต้องขอให้เข้าใจในจุดนี้ว่าหากไม่ถืออาวุธสู้รบกับเจ้าหน้าที่ ก็จะไม่เกิดความสูญเสียอย่างแน่นอน ขอยืนยันอีกครั้งว่า ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดตอบโต้กับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ขณะเดียวกัน ก็จะประสานการปฏิบัติกับทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ในการดูแล พัฒนาส่วนอื่นๆ ที่ยังคงบกพร่อง ทั้งในเรื่องการศึกษา อาชีพ รายได้ สาธารณูปโภค เป็นต้น โดยให้ประชาชนเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนา และมีความอยู่ดีกินดี” ผบ.ทบ. กล่าวในที่สุด
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น